ไม่มีใครเปลี่ยนใครได้ ถ้าเจ้าตัวไม่ปลี่ยนตัวเอง ... (ผลสะท้อนที่น่าจดจำจากการสอนนักศึกษา ป.บัณฑิต)


การสอนนักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพครู ซึ่งเป็นครูที่อยู่สายวิชาชีพอื่น ๆ
ยังไม่มีใบรับรองวิชาชีพเป็นของตัวเอง ต้องมาเรียนเพื่อให้ได้ใบรับรองดังกล่าว

การที่เขาเข้ามาเรียน หลายคนก็หวังเพียงแค่ "ใบ" ที่ไม่มีต้น มากกว่า "ความรู้" ที่จะได้รับ


อาจารย์คนไหนสอนอย่างไร ผมไม่สนใจ ผมรู้แต่ว่า ผมจะสอนพวกเขาให้ได้มากกว่าความรู้ที่อยู่ในห้องสี่เหลี่ยม

ข้อสอบปลายภาค ตรวจเสร็จแล้ว มีผลสะท้อนความเปลี่ยนแปลงของพวกเขาอย่างที่เรียกว่า "อัศจรรย์" 

๑ หมู่เรียนที่ผมรับผิดชอบ กับนักศึกษาทีเ่หลืออยู่ ๔๕ คน กับ ครูที่เหน็ดเหนื่อยอย่างผมอีกคน



ผลสะท้อนที่น่าจดจำ


ผมเลิกบุหรี่ได้แล้วครับ


ทัศนคติก่อนการเรียนวิชานี้ ข้าพเจ้ามีความคิดว่า การเรียนวิชานี้เีรียนยังไงก็ได้
เีรียนเพื่อต้องการรับใบประกอบวิชาชีพครูเพื่อนำไปประกอบการสอบคัดเลือกบรรจุครูผู้ช่วย

ข้าพเจ้าจึงมีความคิดว่า เรียนยังไงก็ได้ ขอให้ผ่าน

แต่จริง ๆ แล้ว เมื่อข้าพเจ้าได้เข้าเรียนในวิชานี้กับอาจารย์ ข้าพเจ้าได้หลาย ๆ อย่าง เช่น
การปฏิบัติตัวในขณะเรียน มีระเบียบวินัย การตรงต่อเวลา

และพัฒนาตนเองในสิ่งต่าง ๆ ได้แก่ การผลิตสื่อการเรียนเอง โดยอาจารย์ให้วาดการ์ตูน
การผลิตบทเรียนสำเร็จรูป เพื่อนำไปใช้ในการเีรียนการสอน การทำโครงการเพื่อนำเสนอว่า
จะทำการสอนในรูปแบบไหน เรื่องอะไร

และผมได้ทำงานตามที่อาจารย์สั่ง และในที่สุด ผมก็ทำได้ และได้นำไปใช้สอนในบทเรียนจริงในโรงเรียน
และผมก็นำรูปแบบการสอนของอาจารย์นำไปปรับปรุง ปรับแต่งเพื่อให้ใช้ได้กับนักเรียน
ผลออกมา เด็กก็มีทัศนคติดีขึ้นกับครูผู้สอน ยกตัวอย่างเช่น การเปิดวีดิทัศน์ให้นักเรียนดูแล้ว
สรุปเนื้อเรื่องที่ได้ชมในวีดิทัศน์

แต่ในเรื่องที่ผมมีทัศนคติที่เปลี่ยนแปลง และแก้ไขดีขึ้น คือ การได้ชมวีดิทัศน์ในเรื่อง "พระคุณของแม่"
เรื่อง "ครูที่พิการ" และ "นักศึกษาที่พิการ กับ คุณยายที่สร้างฝายอยู่บนดอย"

ไม่รู้นะครับว่า ผมมีการเปลี่ยนแปลงตัวได้ยังไง ผมมีความรู้สึกว่า ผมเปลี่ยนไปมาก เช่น
เมื่อก่อนผมสูบบุหรี่ แต่พอผมได้เรียนวิชาของอาจารย์ ผมเลิกบุหรี่ได้แล้วครับ
ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๖

ผมดีใจมากที่ผมได้เรียนกับอาจารย์ และทำให้ผมเปลี่ยนแปลงบางอย่างมากครับ

สุดท้ายผมขอขอบคุณอาจารย์ที่ทำให้ผมมีชีวิตที่ดีขึ้น มีความคิดที่ดีขึ้น ผมขอบคุณมากจริง ๆ ครับ


หรือเรื่อง


คนติดเกม


เมื่อก่อนเป็นคนที่ติดเกม ติดเพื่อนมาก และไม่ค่อยอยู่กับแ่ม่มากนัก
ส่วนมากพอมาถึงบ้านก็จะไปที่หน้าจอคอมฯ เพื่อเล่นเกมทันที

เมื่อถึงเวลาทานข้าวก็มาทานแล้วก็แยกย้ายไปตามห้องของตนเอง
โดยไม่สนใจใครว่าจะเป็นอย่างไร

มันก็เป็นแบบนี้ทุก ๆ วัน ก็เรื่อย ๆ

บางวันถึงกับพูดกับคนในครอบครัวแค่ ๕ - ๑๐ คำแค่นั้น
เพราะต่างคนต่างทำงาน

แต่พอได้มาเรียนและได้ดูวีดิทัศน์ที่อาจารย์เปิดให้ดู
ก็มีความรู้สึกละอายใจเป็นอย่างมาก
และมีความรู้สึกเสียใจ และเสียดายเวลาที่ผ่านไป
โดยที่เราไม่ได้อะไรให้กับครอบครัว หรือแม่เลย

นับตั้งแต่นั้นมาก็ปรับปรุงพฤติกรรมของตนเองให้มากขึ้น
โดยการให้เวลากับแม่ และทุกคนในบ้าน
(โดยปกติแล้วจะชวนไปเที่ยว หรือไปซื้อของอะไร ก็จะบ่ายเบี่ยงตลอด)

มีการพูดคุยกันมากขึ้น
ทำให้แม่และพี่ต่างประหลาดใจ
แต่มันกลับเป็นผลสัมฤทธิ์ที่ดี ทำให้ความสัมพันธ์มีมากขึ้น

และผมโชคดีอีกอย่างที่ยังมีโอกาสได้ทำอะไรให้กับครอบครัวและแม่หลาย ๆ สิ่ง

ถ้าไม่ได้ดูวีดิทัศน์ในตอนนั้น ผมอาจจะเป็นอยู่เหมือนเดิม

ต้องขอขอบคุณอาจารย์มาก ๆ ครับ


....................................................................................................................................................................


ข้อมูลที่นำมาเขียนไ้ว้ในบันทึกนี้เป็นข้อมูลจริงที่เกิดขึ้น
จากข้อสอบปลายภาคในวันเสาร์ที่ผ่านมานี้

เห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนแบบนี้
ผมก็มักจะถามกลับมายังตัวเองว่า

"เราสอนเขายังไงหนอ เขาถึงได้เปลี่ยนตัวเองมากมายขนาดนี้"

แอบภูมิใจลึก ๆ ครับว่า เราสอนคนถูกทางแล้ว


ผมแทบไม่สนใจกับเสียงนกเสียงกาที่ต่อว่าต่อขานสารพัด
จากอาจารย์ในคณะ (ที่อยากให้นักศึกษารัก ให้แต่เกรดดี ๆ
แ่่ต่ไม่เคยให้ความรู้ หรือ จิตสำเนึกจริง ๆ)
หรือ นักศึกษาที่ไ่ม่เอาถ่าน (ที่อยากได้แต่ใบปริญญา)



ผม "เหนื่อยนะ" และต้องใช้ความเพียรพยายามอย่างหนัก

กว่าที่จะขัดเกลาให้เขาได้คิดได้แบบนี้

เปลี่ยนแปลงตัวเองได้แบบนี้

ตัวอย่างดี ๆ ยังมีอีกครับ
ผมคงจะได้มีโอกาสนำมาเล่าให้ฟังอีก


ขอให้เชื่อมั่นในการทำความดีนะครับ


บุญรักษา ทุกท่าน ;)...


หมายเลขบันทึก: 526636เขียนเมื่อ 17 มีนาคม 2013 16:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 มีนาคม 2013 17:06 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

ปลื้มค่ะ  หายเหนื่อยแล้วใช่ไหมคะ อาจารย์ทำบุญกับการงานทุกลมหายใจเลยค่ะ สาธุ ๆ 

สาธุครับ ท่านอาจารย์นพลักษณ์ ๙  Sila Phu-Chaya ;)...

ขอบพระคุณมากครับ ท่านอาจารย์ ชยพร แอคะรัจน์ ;)...

ดีใจและภูมิใจไปด้วยค่ะท่านอ. วัต

สบายดีนะคะ..^_^


^


ส่งดอกไม้มาให้กำลังใจค่ะ..^_^

สบายอยู่ครับ พี่สี สีตะวัน ;)...

พี่สีก็สบายดีนะครับ ;)...

ในบทความนี้ เรียนรู้ว่าสิ่งที่อาจารย์ช่วยเขาคือการใช้สื่อ/การทำ project ให้เกิด 'Internal voice' เปลี่ยนตัวเขาเอง

ขอบคุณที่เผยแพร่แนวพัฒนาการศึกษาแบบมี 'evidence based' รองรับแบบนี้คะ

The Voice ที่ดังทีเดียวครับ คุณหมอบางเวลา ป. ;)...

ขอบคุณเช่นกันครับ ;)...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท