มนุษย์รู้จักผึ้งและน้ำผึ้งมานานกว่า 7,000 ปีแล้ว ภาพวาดบนผนังถ้ำที่ Alto mira ในประเทศสเปนแสดงให้เห็นคนกำลังปีนต้นไม้เพื่อเอาไม้ตีรังผึ้ง และเก็บน้ำผึ้งใส่หม้อ กษัตริย์ Menes แห่งอียิปต์ ทรงโปรดให้ผึ้งเป็นสัตว์สัญลักษณ์แห่งอาณาจักรของพระองค์ เพราะผึ้งช่วยผสมเกสรดอกไม้ ทำให้ผู้คนในแผ่นดินของพระองค์มีผลไม้บริโภคอย่างอุดมสมบูรณ์ และคนอียิปต์ก็รู้อีกว่านอกจากน้ำผึ้งจะมีคุณค่าทางอาหารแล้ว มันยังสามารถรักษาโรคบางชนิด และเป็นเครื่องสำอางได้ด้วย กษัตริย์โรมันในสมัยโบราณทรงโปรดปรานการดองศีรษะของศัตรูในน้ำผึ้ง เพราะน้ำผึ้งสามารถป้องกันของสดไม่ให้เน่าเปื่อยได้เป็นเวลานาน ประวัติศาสตร์ยังได้บันทึกอีกว่า ชาวอียิปต์เป็นชนชาติแรกที่รู้จักนำผึ้งมาเลี้ยง และจีนเป็นเอเชียชาติแรกที่รู้จักเลี้ยงผึ้งปัจจุบันคนไทยทั่วไป มักนึกถึงน้ำผึ้งเดือนห้า และรู้จักผึ้งในฐานะแมลงที่มีเหล็กในพิษ ซึ่งสามารถทำให้คนที่ถูกผึ้งต่อยรู้สึกเจ็บปวด ส่วนอีกหลายคนก็รู้ว่าผึ้งมีนิสัยรักสงบ ขยันทำงาน และสังคมผึ้งเป็นสังคมที่ไม่มีใครเอาเปรียบใคร เพราะอาณาจักรของมันมีการแบ่งหน้าที่รับผิดชอบ โดยไม่ต้องมีนายบังคับหรือสั่งให้ทำงานผึ้งที่พบในประเทศไทยมี 4 ชนิดคือ ผึ้งมิ้ม (Apis flora) หรือผึ้งแมลงวัน เพราะลำตัวผึ้งชนิดนี้มีขนาดใหญ่กว่าแมลงวันเล็กน้อย และมีนิสัยชอบดมของหวาน ท้องของผึ้งมิ้มเป็นปล้องสีดำสลับสีขาว ผึ้งชนิดที่สองคือผึ้งหลวง (Apis dorsata) ผึ้งชนิดนี้มีขนาดใหญ่ที่สุด และต่อยเจ็บที่สุด ท้องเป็นปล้องสีเหลืองสลับสีดำ ผึ้งหลวงผลิตน้ำผึ้งมากและชอบสร้างรังตามที่โล่งแจ้ง ส่วนผึ้งโพรง (Apis cerana) เป็นชนิดที่คนชอบนำมาเลี้ยงในหีบเลี้ยงผึ้ง มันมีขนาดเล็กกว่าผึ้งหลวง และชอบสร้างรังในโพรงไม้ และผึ้งพันธุ์ (Apis mellifera) ซึ่งเป็นผึ้งที่มาจากยุโรปและแอฟริกา ผึ้งชนิดนี้มีขนาดใหญ่กว่าผึ้งโพรงเล็กน้อย และชอบสร้างรังในที่ทึบแสงเช่น ตามโพรงไม้มันสามารถหาน้ำหวานได้เก่ง แต่ไม่ดุร้ายเท่าผึ้งหลวงตามปกติผึ้งมักอยู่รวมกันเป็นครอบครัวใหญ่ในรัง โดยมีการแบ่งชั้นวรรณะ เป็นผึ้งนางพญา ผึ้งงาน และผึ้งตัวผู้ ในรังหนึ่งๆ จะมีผึ้งนางพญาเพียงตัวเดียวเป็นหัวหน้า ผึ้งนางพญามีขนาดใหญ่กว่าผึ้งงานหรือผึ้งตัวผู้ เพราะได้รับอาหารจากผึ้งงาน และมีผึ้งงานคอยปรนนิบัติรับใช้ หน้าที่หลักของผึ้งนางพญาคือวางไข่ ซึ่งตามธรรมดาจะวางได้ครั้งละตั้งแต่ 1,000-2,000 ฟอง ผึ้งนางพญามีอายุยืนประมาณ
ไม่มีความเห็น