เยียวยา


เราไม่อาจทิ้งศรัทธาและความเชื่อของชุมชนไว้เป็นเพียงเรื่องเล่าได้

อยากเขียนเหมือนกันเรื่องปฏิวัติแต่ไม่เอาดีกว่ามีเรื่องจะเล่าให้ฟัง

         ในชนบทแห่งหนึ่งณ หมู่บ้านเล็กๆที่ชาวบ้านอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข หมู่บ้านแห่งนี้มีวัดที่เป็นที่พึ่งทางใจอยู่เพียงวัดเดียว วัดแห่งนี้มีพระภิกษุสงฆ์จำวัดอยู่ 2 รูป และคงไม่มีใครที่จะมาจำวัดที่นี่อีกเนื่องจากเป็นหมู่บ้านที่อยู่กลางป่าลึก โดยพระรูปหนึ่งเป็นพระที่เดินทางสายกลางไม่ตึงไม่หย่อนจนเกินไป พระอีกรูปหนึ่งเป็นพระที่ยึดมั่นในกฎกติกาของพระสงฆ์ แต่ทั้ง 2 รูปก็เป็นที่เลื่อมใสของคนในหมู่บ้าน บางกลุ่มเลื่อมใสพระที่เดินสายกลาง บางกลุ่มเลื่อมใสพระที่เคร่งในศีล  มาวันหนึ่งในหมู่บ้านเกิดโรคระบาดขึ้นชาวบ้านแต่ชาวบ้านยังมีสถานีอนามัยที่เป็นที่รักษาพยาบาลซึ่งมีหมอประจำเป็นหมอผู้หญิงและผู้ช่วยที่เป็นหญิงเช่นเดียวกัน จนคนในหมู่บ้านหายดียกเว้นพระ 2 รูป เมื่อชาวบ้านกลุ่มหนึ่งไปสอบถามว่าทำไมไม่ยอมไปหาหมอ พระรูปหนึ่งก็บอกว่า

"เราไปไม่ได้หรอก หากว่าพระอีกรูปไม่ไปด้วย เราจะทิ้งกันได้เช่นไร"

ชาวบ้านจึงถามหาเหตุผล ถึงพระอีกรูปว่าทำไมถึงไม่ไป

ท่านจึงบอกว่า"เราเป็นสงฆ์กฎของสงฆ์มีข้อห้ามเรื่องสีกาไว้ เรายึดมั่นในกฎนั้นเสมอมาจะให้เราละเลยซึ่งกฏระเบียบได้เช่นไร"

ชาวบ้านจึงบอกว่า"หากพระคุณเจ้าทั้ง 2 รูปเป็นอะไรไป หมู่บ้านเราจะมีอะไรเป็นที่พึ่งของชุมชนหล่ะพระคุณเจ้า"

แต่สงฆ์ 2 รูปก็ยังยืนยันเช่นเดิม

ตลอดเวลามีชาวบ้านที่เลื่อมใสในพระภิกษุทั้ง 2 แวะเวียนนำยาหม้อและยาแผนโบราณมาถวายภิกษุทั้ง 2 สม่ำเสมอแต่อาการก็ไม่ดีขึ้น

ล่วงมาได้ 7 วันอาการภิกษุทั้ง 2 รูปทรุดหนักลงเมื่อเป็นเช่นนั้นสงฆ์รูปที่ประพฤติในทางสายกลางจึงได้สอบถามพระอีกรูปถึงการรักษาตัว ที่สถานีอนามัยแต่พระรูปนั้นก็ยังยืนยันเช่นเดิมว่าเรายังยึดกฎของสงฆ์อย่างเคร่งครัด

พระรูปนั้นจึงได้บอกออกไปว่า"หากเป็นเช่นนั้นแล้ว เราก็ต้องขอตัวท่านไปรักษาที่สถานีอนามัยแล้วกัน เราไม่อาจทิ้งศรัทธาและความเชื่อของชุมชนไว้เป็นเพียงเรื่องเล่าได้ "

เมื่อไปรักษาที่สถานีอนามัยหมอได้ทำการรักษา โดยการให้ยาและให้นอนพักที่สถานนีอนามัย โดยให้ฉันอาหารให้ครบ 3 มื้อเพื่อรักษาร่างกาย  มีชาวบ้านอีกส่วนหนึ่งไม่เห็นด้วยกับการที่ไปรักษาตัวกับหมอผู้หญิงแต่ก็ไม่อาจแสดงอะไรมากได้ แต่ก็ยังเป็นกระแสคลื่นใต้น้ำเท่านั้น

จนเมื่อหายดีและกลับมาที่วัดแล้วแล้ว ก็พบว่าพระภิกษุอีกรูปได้มรณภาพเสียแล้ว ท่านเสียใจมากเพราะว่าไม่อาจจะโน้มน้าวใจให้มารักษาได้

                                       จบครับง่ายๆเลย

มาตอบคำถามดีกว่านะ

1.ถ้าท่านเป็นชาวบ้านท่านจะอยู่ฝ่ายไหน

2.หากท่านเป็นสงฆ์ 1ใน 2 รูปจะเป็นรูปไหน

 3.กฎมีไว้สำหรับแหกใช่หรือไม่

 

                  "คิดเอาเองนะครับว่าหมายถึงอะไร"

คำสำคัญ (Tags): #สายลมแห่งอิสระ
หมายเลขบันทึก: 52463เขียนเมื่อ 28 กันยายน 2006 22:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 16:00 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)
  • เป็นเรื่องเล่าที่ได้อีกมิติและเป็นคำถามที่ได้ข้อคิดมาก ๆ ครับ
  • สำหรับผมนั้น กฎ เป็นเหมือนแนวทางเท่านั้นครับ แนวทางที่จะต้องใช้ปัญญาในการตัดสินว่าจะทำตามแนวทางนั้นเมื่อไหร่และอย่าไร ให้เหมาะสมกับตามบริบทที่เกิดขึ้น
  • ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงสำหรับเรื่องเล่าที่ดี ๆ ครับ

จากท้องเรื่องอ่านจบแล้ว ตอบได้คำเดียวสั้น ๆ คะ "รู้รักษาตัวรอด...เป็นยอดดี" คำตอบเดียวขอใช้สิทธิตอบคำถามสามข้อเลยค่ะ...คำตอบนี้ไม่ได้เห็นแก่ตัวนะคะ...แต่เป็นสัจธรรมของชีวิต คนเป็น...เท่านั้นที่สามารถพัฒนาทุกอย่างให้ดีขึ้นมาได้

บันทึกให้ข้อคิดที่ดี...จึงย่างก้าวเข้ามา ลปรร. ค่ะ

เมื่อประชาธิปไตยก่อกำเนิด ก็ย่อมต้องมียาเพื่อการรักษาไว้ซึ่งประชาธิปไตย สองสิ่งเกื้อหนุนค้ำจุณกันเสมอมา

อยู่เพื่อช่วยเป็นกำลังใจให้ชาวบ้านน่าจะดีกว่านะคะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท