ทางเลือกในการรักษาการเจ็บป่วยในปัจจุบันมีให้เลือก นำการรักษามะเร็งตับอ่อนโดยการฝั่งแร่มาฝากนะคะ
ในประเทศไทยโรคมะเร็งถือเป็นโรคอันดับ 1
ที่เป็นอันตรายต่อชีวิตและสุขภาพ
โดยมักมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นทุกปี ไม่ว่าจะเป็นมะเร็งตับ มะเร็งตับอ่อน มะเร็งปอด
มะเร็งมดลูก มะเร็งเต้านม รวมไปถึงเนื้องอกอื่นๆ ซึ่งการรักษาที่ไม่มีประสิทธิภาพหรือไม่เหมาะสมกับโรคเป็นเหตุผลหลักที่นำไป
สู่การเสียชีวิต โดยเฉพาะ มะเร็งตับอ่อน ที่ผ่าตัดไม่ได้เนื่องจากอยู่ใกล้ชิดกับเนื้อเยื่อสำคัญ ล่าสุดได้มีนวัตกรรมใหม่จากประเทศจีนมาเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้กับผู้ป่วยนั่น คือการฝังแร่ไอโอดีนกัมมันตรังสี 125 แบบไม่ต้องผ่าตัด
นายแพทย์หวู ชิง
ไข่ (Wu Ging Kai)
นายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาโรคมะเร็งประจำโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่
กว่างโจว ให้ความรู้ว่า โรคมะเร็งตับอ่อนเกิดจากหลายปัจจัย ซึ่งปัจจัยแรก คือเรื่องอาหารการกิน
ผู้ที่ชอบรับประทานอาหารที่มีไขมันและโปรตีนสูง ชอบกินอาหารปิ้งย่าง
ปัจจัยต่อมาคือสิ่งแวดล้อม ที่มีมลภาวะเป็นพิษ และปัจจัยที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือกรรมพันธุ์
ผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งตับอ่อนอาการเริ่มแรกส่วนใหญ่จะไม่แสดงออกมา แต่สามารถสังเกตได้จากการที่มีน้ำหนักลด
ตัวเหลือง ซึ่งอาการระยะแรกนี้จะต้องแบ่งแยกกับอาการของผู้ป่วยท่อน้ำดีและตับอักเสบ
ด้วยเนื่องจากมีอาการคล้ายกัน
สถิติของผู้ป่วยมะเร็งตับอ่อน
ในประเทศจีนมีแนวโน้มมากขึ้นทุกปีรวมถึงผู้ป่วยในประเทศไทยด้วย เพราะมีพฤติกรรมการบริโภคอาหารคล้ายๆ กัน ที่สำคัญโรคมะเร็งตับอ่อนในสมัยก่อนการรักษาค่อนข้างยากเนื่องจากไม่สามารถ
ผ่าตัดได้ เพราะตับอ่อนเป็นอวัยวะที่อยู่ใกล้ชิดกับเนื้อเยื่อสำคัญและมีเลือดค่อนข้าง
สมบูรณ์ ทำให้การรักษาด้วยวิธีคลีโมแล้วให้ผลการรักษาที่ไม่ดี อย่างไรก็ตามล่าสุดได้มีการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ในการรักษาผู้ป่วยมะเร็งตับอ่อนได้เป็นผลสำเร็จคือ วิธีการรักษาด้วยการฝังแร่ไอโอดีนกัมมันตรังสี 125
เป็นระเบิดนิวเคลียร์ทำลายเนื้องอก
การรักษามะเร็งด้วยการผ่าตัดโดยเทคนิคบาดแผลเล็ก (Minimally
invasive)
กำจัดเนื้องอกโดยตรงผสมผสานระหว่างแพทย์แผนจีนกับแผนปัจจุบันได้รวบรวม
12 เทคโนโลยีขั้นสูงในการรักษาโรคมะเร็งต่างๆ โดยการรักษากำหนดเป้าหมายเนื้องอกแล้วรักษาโดยตรง
ทำให้เนื้องอกตายไปอย่างสิ้นเชิง ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายส่วนอื่น ร่างกายเจ็บปวดน้อย
ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งการรักษาด้วยวิธีการฝังแร่ไอโอดีนกัมมันตรังสี 125
ถือเป็น 1 ใน 12 เทคโนโลยีขั้นสูงในการรักษามะเร็ง
ซึ่งเหมาะสมกับการรักษามะเร็งตับอ่อนและเป็นเทคโนโลยีการรักษาที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่เมื่อไม่นานมานี้
นอกจากนี้ยังเหมาะกับโรคมะเร็งปอด มะเร็งตับ มะเร็งเต้านม มะเร็งโพรงจมูก
และมะเร็งต่อมลูกหมาก
หลักการทั่วไปของการรักษาด้วยแร่ไอโอดีน
คือ ก่อนที่จะทำการรักษาต้องเช็คร่างกายของผู้ป่วยโดยการใช้เครื่องอัลตราซาวน์
หรือเครื่องซีทีสแกน (CT-Scan) เพื่อค้นหาเนื้องอกว่าอยู่จุดไหนและทำการมาร์คจุด
จากนั้นใช้เครื่องคอมพิวเตอร์วัดขนาดของเนื้องอกและคำนวณว่าจะต้องใช้แร่ ไอโอดีนจำนวนเท่าใด
โดยขนาดของแร่ไอโอดีนกัมมันตรังสี 125 จำนวน 3 เม็ด ยาวเท่ากับเม็ดข้าวสาร 1 เม็ด ซึ่งนักวิทยาศาสตร์คิดค้นขึ้นมาเพื่อรักษามะเร็งโดยเฉพาะและผลิตจากโรงงาน
ที่ดีมีคุณภาพของทางโรงพยาบาล จากนั้นใช้เครื่องซีที สแกนนำทางในการใช้เข็มที่ยาวพิเศษแทงเข้าไปในเนื้องอกโดยตรงและนำแร่ไอโอดีน
เข้าไปฝังในเนื้องอกอย่างแม่นยำ
การรักษาไม่ต้องวางยาสลบ แค่ฉีดยาชาเฉพาะที่เท่านั้น
โดยใช้เวลาในการรักษาประมาณ
30-45 นาที เมื่อฝังแร่ไอโอดีนฯ เสร็จแล้วผู้ป่วยควรนอนพักที่โรงพยาบาลเพื่อดูอาการประมาณ
1-2 วัน หากไม่มีอาการแทรกซ้อนใดๆ
ก็สามารถเดินทางกลับไปพักผ่อนที่บ้านได้ ซึ่งแร่ไอโอดีนที่ฝังเข้าไปจะปล่อยรังสีแกรมม่าออกมาอย่างต่อเนื่องเป็นวิธี
ที่ทำให้ส่วนของเนื้องงอกถูกทำลาย แต่ขอบเขตการแผ่รังสีแต่ละเม็ดแค่เพียง
1.7 เซนติเมตรเท่านั้น ทำให้ลดความเสียหายที่จะเกิดกับเนื้อเยื่อปกติ
พร้อมทั้งหลีกเลี่ยงบาดแผลจากการผ่าตัด ไม่มีผลข้างเคียงร้ายแรง
หลังจากฝังแล้วแร่ไอโอดีนฯ แล้วกระจายรังสีแกรมม่าออกมา
โดยมีอายุการทำงานนานประมาณ
6 เดือน ซึ่งภายใน 6 เดือนจะมีรังสีแกรมม่าแผ่ออกมาอย่างต่อเนื่องภายในเนื้องอกทำให้เซลล์มะเร็ง
ส่วนใหญ่ตายไป โดยประโยชน์จะเหมือนกับการฉายแสง แต่ว่าวิธีการรักษาแบบนี้รังสีทำลายเฉพาะเนื้องอกเท่านั้น
แต่การฉายแสงทั่วไปจะมีผลข้างเคียงจะมาก นอกจากนี้วิธีการรักษาด้วยการฝังแร่ไอโอดีนฯ
ส่วนใหญ่รักษาควบคู่กับการอุดเส้นเลือดและทำคลีโมเฉพาะจุด ซึ่งตัวเม็ดแร่ไอโอดีนฯ ที่ฝังไว้ในเนื้องอกจะอยู่กับคนไข้ไปตลอดไปแต่ไม่มีอันตราย
เพราะอยู่ในเนื้องอกและมีเนื้อใหม่เกิดขึ้นมาห่อหุ้มเนื้องอก หากจะมีแร่ไอโอดีนฯ
รั่วออกมาก็สามารถรั่วออกมาได้ เช่น ที่โพรงจมูกอาจจะหลุดออกมา แต่เมื่อหลุดออกมาแล้วแพทย์จะแนะนำผู้ป่วยไม่ให้นำไปโยนทิ้งเพราะมี
กัมมันตรังสี
ช่วงระยะเวลา 6 เดือน
ที่กลับไปพักผ่อนที่บ้านสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติและเดินทางมาตามนัด เพื่อติดตามผลการรักษาทุก 2 เดือน ซึ่งคนไข้สามารถตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลอื่นได้และนำผลมาให้คุณหมอดูได้ แต่สิ่งที่ต้องระวังคือควรอยู่ห่างหญิงตั้งครรภ์และเด็กที่อายุต่ำกว่า 12 ขวบ ประมาณ 1.5 เมตร เพื่อป้องกันเด็กและหญิงตั้งครรภ์ไม่ให้โดนรังสี และควรทานอาหารที่มีรสจืด รับประมาณผักผลไม้และนมจืดมากขึ้น พักผ่อนให้เพียงพอ
อย่างไรก็ตามหลังจากเซลล์มะเร็งตายไปแล้ว
แต่การรักษาเนื้องอกยังต้องใช้หลายวิธีร่วมกัน เพราะเซลล์มะเร็งบางส่วนสามารถกระจายไปที่อื่นได้ เนื่องจากมะเร็งเป็นโรคภูมิคุ้มกัน เมื่อผู้ป่วยเป็นมะเร็งทั่วทั้งร่างกายก็จะมีเซลล์มะเร็งอยู่ด้วยจึงต้อง ติดตามตรวจร่างกายตามหมอนัด เช่น บางคนอาจจะมาตรวจทุก 3 เดือนหรือบางคน 6 เดือน เพื่อรักษาไปตามอาการที่พบระงับการเจริญเติบโตของเนื้องอกถือเป็นการยืด ชีวิตของคนไข้ต่อไป รวมทั้งคนไข้ต้องหมั่นดูแลตัวเองให้ดีเพิ่มขึ้นด้วยไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหาร การกินและการพักผ่อนให้เพียงพอหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และงดแอลกอฮอล์
ผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อได้ที่ศูนย์ที่ปรึกษาโรคมะเร็งสมัยใหม่ กว่างโจว อาคารไซเบอร์เวิลด์ ทาวเวอร์ ชั้น 5 ตรงข้ามห้างโรบินสัน รัชดา โทร. 0-2645-2799 หรือ 08-2799-2888
( ขอบคุณรักษามะเร็งตับโดยการฝั่งแร่ ฯจากหนังสือพมพ์เดลินิวส์ คอลัมน์อาทิตย์สุขภาพ )
ด้วยความปรารถนาดี กานดา แสนมณี
ไม่มีความเห็น