เมื่อวานนี้ประชุมประจำสัปดาห์ของ สคส. ก็ได้ไอเดียหลายอย่าง เลยต้องเก็บบันทึกไว้ก่อน เพราะไม่แน่ในอนาคตอาจเป็นสต็อกความคิด วันใด วันหนึ่งอาจจะหยิบฉวยมาดัดแปลงสู่การปฏิบัติได้
ตั้งแต่วาระแรกของการประชุมเรื่อง review หนังสือ How to think like Leonardo Da Vinci จนไปถึงวาระสุดท้ายจับภาพ KM ลองเอาหลายๆเรื่องมายำรวมกัน แล้วลองเขียนเป็น theme เดียวออกมา ที่ให้ชื่อว่า "ละเลียดสัมผัส"
ที่มาแรกของความคิด ก็จากหลักปฏิบัติตัวที่ 3 ของ Leonardo Da Vinci นั่นก็คือ Sensazione ซึ่งหมายถึง ประสาทสัมผัส ทั้ง 5 รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส และบวกกับตอนวาระ AAR ทำให้เห็นว่า KM ในสไตล์ สคส. นั้น เรามักจะใช้เรื่องเล่า (storytelling) เป็นเครื่องมือตัวหลักๆ ในการที่จะทำให้ความรู้ในตัวคนถูกรีดเค้นออกมา ซึ่งวิธีการก็คือให้เล่าประสบการณ์หน้างานเล็กๆที่ภูมิใจ แต่มีหลายที่ หลายแห่งจากประสบการณ์ของพวกเราพบว่า คนยังไม่คุ้นเคยกับสิ่งเล็กๆเหล่านั้น มองข้ามไป อาจเป็นเพราะว่าภูมิหลังวิธีการเรียนของเราถูกสอนโดยยึดตำราเป็นตัวตั้ง จึงมองหาแต่ ความสำเร็จ หรือความรู้เป็นก้อนๆใหญ่ๆโตๆ สิ่งเล็กๆที่เกิดขึ้นรายทางจึงเหมือนตัวแสดงประกอบในบทละคอน ที่ไม่สำคัญอะไรเลย
แต่พอย้อนกลับมานึกตา Da Vinci แค่สิ่งเล็กๆน้อยๆ เขากลับสนใจ(อย่างจดจ่อ)ในรายละเอียดของมัน ตั้งแต่การมองสังเกต วาดภาพเก็บเอาไว้ และจากคำแนะนำให้เราฝึกปฏิบัติซึ่งน่าสนใจ ก็คือ การฝึกสร้างทักษะผสานสัมผัสทั้งหมด เช่น จินตนาการเสียงที่ได้ยินออกมาเป็นภาพ, การจินตนาการออกมาเป็นเสียง(ดนตรี)ของสีที่เราเห็น แบบนี้เป็นต้น หรือแม้แต่ ดวงอาทิตย์ ขึ้น หรือ ลง ก็แนะนำให้เราลองเขียนพรรณารายละเอียดปรากฏการณ์ออกมา ซึ่งหากเป็นเมื่อก่อนตอนที่ยังเรียนหนังสือ ผมก็คงทำไม่ได้ เพราะมองว่าแค่ดวงอทิตย์ขึ้น - ลง ผมคงจะเขียนอะไรได้ไม่มากในตอนนั้น ทำให้เพิ่งเข้าใจว่า "ละเลียดสัมผัส" นั้น มีผลต่อการพัฒนาทักษะของคนเรามาก แต่ที่ผ่านมานั้น เราปล่อยทิ้งมัน อย่างเช่น เรื่องกลิ่น ส่วนใหญ่แล้วเราหายใจทิ้งไปเสียเฉยๆ มากกว่าการมีสติว่าสิ่งที่เราสูดหายใจเข้าไปนั้นมันมีรายละเอียดของกลิ่นอย่างไรบ้าง
ความสุนทรีในการละเลียดสัมผัส นั้น จึงน่าจะช่วยทำให้เกิดนวัตกรรมจำนวนมาก อย่างที่ Leonardo Da Vinci เคยทำมาแล้ว
มีคนหนึ่งคน คุย MSN กับผมเมื่อคืน นานสองนานแต่ไม่ได้ถามชื่อกันเลย...คุยกันถูกคอ จากการละเลียดสัมผัสไม่ต้องบอกนาม
เธอบอกว่า "ธรรมชาติ" คือ "ธรรมะ"
ดังนั้นการบันทึกที่เป็นธรรมชาติใน Gotoknow แฝงธรรมะทั้งสิ้น ลองไตร่่ตรองอ่านดู ก็จะพบธรรมะที่แทรกอยู่ในการบันทึกนั้น
การกำหนดจิตละเอียด รับสัมผัสละเอียด ละเลียดสัมผัส ของอาจารย์ธวัช จึงเป็นธรรมชาติที่พินิจพิเคราะห์สิ่งรอบตัวที่เป็นธรรมชาติ ด้วยจิตที่นิ่ง และเห็นถึงสัจธรรม
นิ่ง ละเอียด ธรรมะ ธรรมชาติ เกิด "นวัตกรรม" (Innovation)
เข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง (อาจจะยังเข้าไม่ถึง) .... แต่ว่ายอดเยี่ยม