เยือนถิ่นบัวตอง...เปิดโฮมสเตย์ไทยใหญ่ บ้านเมืองปอน
รถของผมพร้อมทีมงานวิจัยเดินทางออกจากจังหวัดแม่ฮ่องสอนอย่างไม่รีบร้อน ผมกะเวลาให้เหลือเฟือ เพื่อที่จะอ้อยอิ่งบนเส้นทางสวยงาม ระหว่าง อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ถึง อำเภอขุนยวม
วันนี้มีนัดกับคุณครูที่บ้านเมืองปอน เพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยน ประเด็น “การจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชน” ที่บ้านเมืองปอน อำเภอขุนยวม ดินแดนเลื่องชื่อเกี่ยวกับดอกบัวตองบานที่ดอยแม่อูคอนั้นหละครับ
ผมได้ยินชื่อเสียงของหมู่บ้านนี้มานานแล้ว ว่ามีการจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชน จุดเด่นที่เมืองปอนเห็นจะเป็น Home Stay และเลื่องชื่อมากขึ้น เมื่อมีการโปรโมตผ่านสื่อมากขึ้น
ผมไม่ค่อยเห็นโฮมสเตย์ ที่ดำเนินการได้ดี และดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง เหมือนที่เมืองปอน ...ดังนั้น น่าจะมีอะไรดี ให้พวกเราทีมวิจัยเข้าไปค้นหา และเก็บข้อมูล
เมืองปอนเป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในเขตอำเภอขุนยวม ประมาณ ๑๐ กิโลเมตร เป็นหมู่บ้านไทยใหญ่ที่คงรูปแบบวัฒนธรรม ความเป็นไทยใหญ่ขนานแท้และดั้งเดิม
ทุ่งนา บรรยากาศดีๆที่ บ้านเมืองปอน
นักท่องเที่ยวที่มาที่นี่ก็จะได้ชมวิถีชีวิตและวัฒนธรรมไทยใหญ่ ชมสาธิตการทำเสื้อไต การจักสานกุ๊บไต ชมสถาปัตยกรรมไทยใหญ่ดั้งเดิมที่มีอยู่มากมายในชุมชน การทำอาหารไทยใหญ่ การแสดงพื้นบ้านตามแบบศิลปะไทยใหญ่...ว่ากันว่าหากจะย้อนยุคดั้งเดิมวิถีไทยใหญ่ให้มาเที่ยวที่น
ี่
สถาปัตยกรรมไทยใหญ่...ที่หาดูได้ที่ เมืองปอน
นัดคุณครูที่เป็นแกนนำที่บ้าน ครูอู๊ด หนึ่งในทีมทำงาน พัฒนาชุมชน คุณครูมาพร้อมกันหมดแล้ว ในช่วงที่พวกเรามาถึงเมืองปอน
แปลกใจมั้ยครับการท่องเที่ยวโดยชุมชน ทำไมต้องมาคุยกับคุณครู
โดยวงสนทนาจะเป็นทีมคุณครูทั้งหมด...ถึงบางอ้อ ครับ คุณครูทั้งหมดเป็นคนในชุมชน และทำงานสอนที่โรงเรียนบ้านเมืองปอน ความรัก ความผูกพันกับถิ่นเกิด เป็นแรงผลักให้คุณครูทั้งหมด หากระบวนการพัฒนาชุมชน ผ่านการ “จัดการท่องเที่ยวโดยชุมชน” บ้านเมืองปอน
เริ่มแรก ก็น่าสนใจ เพราะพื้นที่ที่ผมไปเก็บข้อมูลส่วนใหญ่ คุณครูไม่ค่อยได้มีส่วนร่วมในประเด็นนี้เท่าไหร่นัก
ย้อนอดีตไปคุณครูเล่าให้ฟังว่า ที่ขุนยวม ดอยแม่อูคอโด่งดังทั่วโลกด้วยชื่อเสียงของ “ดอยแม่อูคอ” ที่มีดอกบัวตองละลานตาคราปลายฝน ทุกคนรู้จักกันดี นักท่องเที่ยวมาเยือนกันมากจนล้น จนไม่มีที่พัก...การคิดทำหมู่บ้านท่องเที่ยว และมีโฮมสเตย์จึงเกิดขึ้น
นายอำเภอในขณะนั้นโทรศัพท์มาคุยกับครูที่มืองปอน ว่าสนใจทำโฮมสเตย์กันมั้ย.? ครูเล่าให้ฟังถึงความคิดริเริ่มในการพัฒนาหมู่บ้านท่องเที่ยว มูลเหตุที่กล่าวถึงเป็นก้าวแรกที่ทำให้ร่วมคิดในการทำ โฮมสเตย์บ้านเมืองปอ
จากนั้นคุณครูและชาวบ้านก็ปรึกษากัน ไปศึกษาดูงานที่ บ้านแม่ละนา อ.ปางมะผ้า แม่ฮ่องสอน ด้วยงบประมาณส่วนตัว ไปดูว่า หมู่บ้านท่องเที่ยวเขาทำอย่างไรกันบ้าง เมื่อไปดูที่แม่ละนา ก็นำมาคุยสรุปการดูงานกัน...มีบทสรุปว่า...หากแม่ละนาทำได้ พวกเราเมืองปอนทำไม จะทำไม่ได้...
จุดเริ่มด้วยแกนนำที่เป็นคุณครู การวางแผนพัฒนาชุมชนโดยการหากลุ่มสนใจเพิ่มเติมจึงเริ่มต้นขึ้น...เริ่มจากบ้านโฮมสเตย์เพียง ๖ หลัง...ด้วยความเป็นคุณครูจึงผลักดันหลักสูตรท้องถิ่น รื้อฟื้นฮีตฮอยไตใหญ่ ให้เด็กเยาวชนได้เรียนรู้ และสร้างกิจกรรมให้เด็กในการแสดงให้นักท่องเที่ยว เสริมเพิ่มเติมจากทุนที่มีอยู่คือ วัฒนธรรมไทยใหญ่ดั้งเดิม
มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเรื่อยๆ เพิ่มพูนกำลังใจให้กับกลุ่มโฮมสเตย์เป็นอย่างมาก...จากวันนั้น ถึงวันนี้ กลุ่มท่องเที่ยวบ้านเมืองปอนได้เรียนรู้ จากการพัฒนาชุมชนโดยใช้กระบวนการท่องเที่ยวโดยชุมชน ลองผิดลองถูกมาโดยตลอด...และเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีที่เกิดขึ้นในชุมชนเมืองปอนมาโดยตลอด
เรื่องราวที่เมืองปอนยังมีให้ค้นหาอยู่มากมาย ผมยกเพียงประเด็นที่น่าสนใจมาเขียนเท่านั้นครับ เท่าที่เดินด้วยเท้าสำรวจในชุมชน ผมเห็นด้วยว่า ชุมชนที่นี่ร่ำรวยวัฒนธรรมจริงๆ นี่คือจุดแข็ง และจุดขายของชุมชนเมืองปอน
ผลจากการพัฒนาการท่องเที่ยว ทำให้การเรียนการสอนหลักสูตรท้องถิ่น ได้มีภาคปฏิบัติการโดยตรงกับกลุ่มท่องเที่ยว เด็กได้เรียนรู้ร่วม เป็นหลักสูตรท้องถิ่นที่มีชีวิตชีวา ชุมชนสะอาดขึ้นเพราะแขกมาเยี่ยมบ่อยเจ้าบ้านต้องคอยดูแลสภาพแวดล้อมทั่วไป หน้าบ้านปลูกดอกไม้่สวยงาม ประเพณีดั้งเดิมถูกรื้อฟื้นอย่างไม่รู้ตัว
การท่องเที่ยวโดยชุมชน เป็นกุศโลบาย เป็นเครื่องมือในการพัฒนาชุมชน หากมีการบริหารจัดการที่ดี ...
มีคำถามที่ผมถามกับชุมชนท่องเที่ยว เวลาไปเรียนรู้กับชุมชน..สอบถามทิศทาง ว่าชุมชนคิดอย่างไร กับ CBT : Community Based Tourism
- Do you want CBT to raise income?
- Do you want CBT to preserve culture ?
- Do you want CBT to conserve natural resources?
- Do you want CBT to bring more knowledge and skill into the community?
จริงอยู่ว่า การท่องเที่ยวโดยชุมชน(Community Based Tourism : CBT) อาจเป็นดาบสองคม เป็นการชักชวน Globalization (ก่อบรรลัยใส่ฉัน) เข้ามายังชุมชน...
เราไม่อาจปฏิเสธทุนนิยมเหล่านี้ แต่ต้องเรียนรู้และเข้าใจในการพัฒนาชุมชนให้รู้เท่าทันข้างนอกชุมชน รู้ทันโลก
ความเห็น (29)
สวัสดีคะยามเช้าคะ...คุณเอก...
ขอถามคะ...คุ้นๆ..."ฮีตฮอยไต"...เหมือนเคยได้ยินหรืออ่านเจอที่ไหนนี่แหละคะ...รบกวนคุณเอก...เล่าให้ฟังอีกสักนิดเถอะคะ...ว่าคืออะไร...เพื่อรื้อฟื้นความจำคะ
*^__^*
กะปุ๋ม
ขอบคุณที่ถามครับ...Dr.Ka-Poom
ฮีต เป็นภาษากำเมืองล้านนาครับ ฮีต มาจากคำว่า "จารีต"
ฮอย เป็นภาษากำเมืองเช่นเดียวกัน มาจากคำว่า "รอย"
ฮีตฮอย จึงเป็นคำที่บ่งบอกถึง การเดินทางเรียนรู้จารีตเดิมๆของบรรพบุรุษ เพื่อการจัดการความรู้ ไม่ว่าจะเป็นการฟื้นฟู อนุรักษ์ องค์ความรู้ท้องถิ่น
ก็เป็นการดำเนินตามรอยจารีตเดิมทั้งนั้น
ส่วน "ไต" ก็มาจาก "ไทยใหญ่" ที่มีมากในแม่ฮ่องสอน กลุ่มไทยใหญ่ได้รับอิทธิพลมาจากพม่าครับ ทั้งภาษาเขียน พูด การแต่งกาย สถาปัตยกรรม ที่เห็นได้ชัด คือ วัด ประเพณีการละเล่น
ที่เมืองปอน อ.ขุนยวม มีการสืบสานฮีตฮอยไต ผ่านทาง หลักสูรท้องถิ่นอย่างเข้มข้นและมีชีวิตชีวา ครับ
งานนี้ปรบมือดังๆให้คณะครูโรงเรียนชุมชนบ้านเมืองปอน...ครับ
ขอบคุณคะคุณเอก...
กะปุ๋มว่าเคยอ่านเจอในหนังสือ อสท. หรือไม่ก็ในวิชาเรียน...วิชาสังคมนี่แหละคะ...พอไม่อ่านที่คุณเอกเล่า- อธิบายก็พอทำให้นึกได้...
...
น่าสนใจนะคะ...การตามรอยจารีตเดิมๆ ของบรรพบุรุษ..และเด็กรับรู้อะไรได้..เขาก็จะเกิดเป็นการเรียนรู้อย่างมีความหมาย หรือที่เรียกว่า meaningfull learning คะ...
ขอบคุณคะ
กะปุ๋ม
ครับ..ขอเพิ่มเติม คุณกะปุ๋ม...
meaningfull learning
เด็กเกิดความรัก ความภาคภูมิใจ ในวิถีตนเอง วิถีบรรพบุรุษ...
สำนึกที่รักบ้านเกิดจะนำสิ่งดีๆมาสู่ชุมชน โดยกลุ่มเลือดใหม่ ที่เป็นเยาวชน จะร่วมกันสรรค์สร้า้งในอนาคต
อาจารย์ค่ะ
chah ได้มีโอกาสได้เข้าไปชุมชนหนึ่งซึ่งก็กำลังจะจัดการการท่องเที่ยวด้วยชุมชนเอง..แต่มีหลายคนบอกว่าเป็นสิ่งที่ดีและอีกหลายคนในชุมชนบอกว่า....
"จะเป็นการทำให้ชุมชนวุ่นวาย และอยู่ไม่เหมือนอย่างที่เคยดำเนินชีวิตอยู่ ต้องรับแขก และมีคนแปลกหน้าเข้ามาในหมู่บ้าน"
ซึ่งตอนนี้ทางโครงการก็ได้หยุดชั่วคราวก่อนค่ะ.
chah ได้ฟังทั้งสองฝ่ายต่างก็มีเหตุผลที่ดีกันทั้งนั้น
อาจารย์คิดว่าอย่างไรค่ะ และอยากถามความคิดเห็นของอาจารย์ท่านอื่น ๆ ด้วยนะค่ะ
- น่าสนใจนะคะ
- Trip หน้าที่ตั้งใจจะไปงานพฤษชาติ 1 สัปดาห์
- อาจจะได้แวะไปเยือนค่ะ
คุณ Chah
การจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชน ต้องทำให้ชัดครับ ต้องเกิดจากการมีส่วนร่วม หากไม่พร้อมหรือ ไม่มีก่ีบริหารจัดการที่ดี อย่าเพิ่งเคลื่อนงาน
การจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชน เกี่ยวข้องกันหลายมิติ ในส่วนของชุมชน...เป็นเรื่องละเอียดอ่อนมากด้วยครับ
เรามีตัวอย่างชุมชนที่ล้มเหลว เรามีตัวอย่างชุมชนที่ประสบความสำเร็จ
จากการศึกษาวิจัย และงานพัฒนาที่ทำกันมาที่แม่ฮ่องสอน การเตรียมตัวของชุมชนสำคัญที่สุด กว่าจะพัฒนาชุมชนให้เป็นชุมชนท่องเที่ยวนั้น ใช้เวลามากเลยครับ
การท่องเที่ยวโดยชุมชน สุ่มเสี่ยงต่อการล่มสลายของหมู่บ้านมาก หากไม่เข้าใจ ..และยังดันทุรังทำต่อไป
แต่ยังไงก็ตามที่ผมกล่าวไว้ในบันทึก เราทานกระแส "ฟ้ามิอาจกั้น"ไม่ได้ ..ดังนั้นการเรียนรู้และอยู่ได้ขอชุมชนเป็นเรื่องสำคัญในอนาคต
เชิญชวนครับ พี่Bright lily
ที่แม่ฮ่องสอน มี CBT. หลากหลายบุคลิกครับ และแต่ละจุดก็น่าสนใจ ...
มีเวลาและโอกาส เชิญนะครับ
ผมขอที่อยู่พี่ Bright lily - ไปรษณีย์ด้วยครับ จะส่ง CBT.Guide Book - Mae hong Son ไปให้ครับ (ส่งที่อยู่ให้ผมทางอีเมลล์ของผมนะครับ)
ขอบคุณอาจารย์มากค่ะที่ได้ให้แง่คิด..หลายเรื่อง
ขอเป็นกำลังใจให้อาจารย์และทีมงานในการเคลื่อนงานเพื่อสังคมต่อไปนะค่ะ
- รู้ทันโลก
- รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้งครับ
- กำลังยุ่งกับการอ่านหนังสือไม่ค่อยได้มาทักทายนะครับ
การท่องเที่ยวโดยชุมชน เป็นการขายวิถีความเป็นอยู่ที่คนเมืองไม่มีและมาเรียนรู้ สิ่งดีๆที่มีอยู่จะสร้างความประทับใจให้ได้กลับมาเยือนอีกครั้ง
เพื่อนพี่คามินค่ะ
อาจารย์ ดร.ขจิต
หายไปนานมากเลยนะครับ...ให้กำลังใจในการอ่านตำราครับ
คุณกัลปังหา...
ขอบคุณมากครับที่มาเยี่ยมและฝากร่องรอย...
การท่องเที่ยวโดยชุมชน เป็นการประสานสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมภายใต้บรรยากาศของการเรียนรู้ ยอมรับ เข้าใจซึ่งกันและกัน
ฝากความระลึกถึง พี่คามิน คมนีย์ เภรีกุล ว่ามีแฟนหนังสือที่ชื่นชมอยู่ทางเมืองปาย แม่ฮ่องสอน ๑ คน
(เย็นวันเสาร์ เช้าวันอาทิตย์)
โฮมสเตย์ที่สำคัญคือการเป็นเจ้าบ้านที่ดี และมีหัวใจพร้อมบริการนะค่ะ
เมืองไทย มีความหลากลายให้น่าศึกษาและเรียนรู้อีกมากมาย แต่ละที่มีความต่างทั้งวัฒนธรรม และวิถีของความเป็นอยู่ ในเมืองปอนก็คงเป็นเมืองปอนที่ไม่เหมือนกับที่อื่น ตรงนี้แหละ มนต์เสน่ห์ของโฮมสเตย์
คาดหวังว่าวันหนึ่งคงได้ไปเยี่ยมเยือน
ยินดีต้อนรับนะครับ คุณกัลปังหา อย่าลืมมาแวะที่เมืองปายด้วยนะครับ
....
ปล..ผมรอโปสการ์ดที่สัญญาไว้ อยู่นะครับ!!
บอกพี่คามินให้แล้วนะค่ะ ทั้งที่เป็นเรื่องแฟนตัวจริงและเรื่องเมืองปาย เมืองปอน นะค่ะ
ประมาณกลางเดือนตุลาคม มีนัดเที่ยวกัน ยังไม่คิดสถานที่ที่จะไปเลยค่ะ ตอนแรกว่าจะไประยอง แต่ตอนนี้พี่คามิน ประชุมอยู่ที่ระยองค่ะ
ไม่แน่นะค่ะ อาจจะไปโผล่ที่เมืองปายก้อได้นะคะ แล้วจะแจ้งอีกทีนะคะ
เป็นที่ปรึกษาให้กับกลุ่มท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ และการทำโฮมสเตย์ของชาวบ้านนะค่ะ(มีบัตรไกด์ทะเล บัตรนักสื่อความหมายธรรมชาติค่ะ)
พรุ่งนี้ โปสการ์ด จากถิ่นใต้ จะเดินทางค่ะ
ขอบคุณครับ!!!
คุณกัลปังหา
รู้ไหมว่า...ปลายฝนต้นหนาว ทักทายภูเขาและสายหมอก ถนนแต่ละสายที่เมืองปาย มีสายหมอกคลอเคลีย เมืองเล็กมีเสน่ห์ที่นี่อบอุ่นเสมอ....
ร้านกาฟาสดหอมกรุ่น มิตรภาพที่มารวมกันที่ Utopai ร้านโปสการ์ดเล็กๆ
คิดว่าคงได้ต้อนรับ คุณกัลปังหา และ พี่คามิน ครับในปลายฝนต้นหนาวที่จะมาถึงนี้ครับ
จะได้มีโอกาสแลกเปลี่ยน "การท่องเที่ยวโดยชุมชน" หรือ จะไปเที่ยวชุมชน โฮมสเตย์ดีครับ
ภาพจาก : www.sarakadee.com
- มีหลักสูตรท้องถิ่นที่เยี่ยมมาก
- ภูมิปัญญาเข้มแข็ง
- มีวิชาการตลาด การโรงแรม อยู่ในชุมชน ต่อไปเยาชนคงเก่งขึ้น การพัมนาก็จะเจริญขึ้นพร้อมกับมีนักท่องเที่ยวมากขึ้นด้วย
เพิ่มเติมน้องสิทธิเดชว่า...
กิจกรรมที่เกิดขึ้นทำให้ชุมชนรู้ตัวเอง เรียนรู้วิถีตนเอง อย่างภาคภูมิใจ เยาวชนหันมาสืบสานวัฒนธรรมไทยใหญ่ สร้างจิตสำนึกรักบ้านเกิดครับ
ชื่นชมคุณครูไทย ครับ
- น่าสนใจมากครับอาจารย์
- เมื่อไหร่มีโอกาสไปทางเหนือ จะต้องหาเวลาไปเยี่ยม
- ชอบมากครับกับข้อความที่ว่า "การท่องเที่ยวโดยชุมชน(Community Based Tourism : CBT) อาจเป็นดาบสองคม เป็นการชักชวน Globalization (ก่อบรรลัยใส่ฉัน) เข้ามายังชุมชน...
เราไม่อาจปฏิเสธทุนนิยมเหล่านี้ แต่ต้องเรียนรู้และ เข้าใจในการพัฒนาชุมชนให้รู้เท่าทันข้างนอกชุมชน รู้ทันโลก"
เรียนอาจารย์ Panda
ชุมชนไทยใหญ่ "เมืองปอน" เป็นชุมชนที่น่าสนใจ จุดเริ่มไม่ได้อยู่ที่งานพัฒนาของหน่วยงานใด ไม่ใช่งานวิจัยที่ทำกันอยู่
เกิดจากการคิดร่วมกันของกลุ่มผู้ที่สนใจ และลองทำ เรียนรู้กับนักท่องเที่ยวและสร้า้งกิจกรรมที่หลากหลาย
ความความที่เป็นครู และเป็นคนในพื้นที่ ...การดำเนินงานเลยต่อเนื่องครับ
ปัจจุบัน โฮมสเตย์ ที่เมืองปอน น่าสนใจและมีชื่อเสียง ถือว่าเป็นแหล่งเรียนรู้ที่น่าสนใจ อีกที่หนึ่งครับ
ติดตามบันทึกของคุณเอกมาได้ระยะนึงแล้ว เพิ่งจะได้ post ข้อความมา
งานของคุณเอก ดูมีความสุข และไม่วุ่นวาย ถ้าวันนึงมีโอกาส(ที่เค้าไล่ออกจากงาน) อาจจะไปขอสมัครเป็นผู้ติดตามนะคะ
คุณ visitsri
มาทำงานร่วมทีมผมมีเงื่อนไขดังนี้ครับ
- ชอบธรรมชาติ
- ชอบนั่งมองฟ้าเวลาเหงาๆ
-
ชอบเขียนข้อความดี ใส่สมุดบันทึก
ล้อเล่นครับ...
.....................................
เป็นธรรมดาครับ ที่ต้องมีปัญหาบ้าง แต่ผมเองกับทีมงานก็พยายามออกแบบงานให้มีความสุข เราเชื่อว่าหากทำงานมีความสุข งานออกมาก็ดี คนก็มีความสุข...
มาเที่ยวก็ได้ ช่วงนี้ผมออกพื้นที่ ตามชุมชนท่องเที่ยวหลายๆชุมชน โอกาสดีๆ ก็ออกชุมชนไปเก็บข้อมูล ไปเที่ยวได้ครับ
ขอบคุณที่ติดตามนะครับ...ผมพยายามเขียนบันทึกดีๆมานำเสนอครับ
- น้องจตุพรค่ะ
- ที่อยู่ค่ะ
- คุณอรชร หนูนุ่น
- 26/2 (ตรงข้ามปั้มน้ำมัน shell สะปำ)ถ.เทพกระษัตรี ตำบลสะปำ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต 83000
- ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
พี่ Bright Lily
ผมจะจัดส่งเอกสารไปตามที่อยู่ที่ให้มาอย่างรีบด่วน
...รอรับที่หน้าปั๊ม Shell นะครับ
พ.จ.อหญิงปอรรัชม์ สุทินธุ
ไปมาแล้วชอบครูตาน และครูอู๊ดมาก ต้อนรับอบอุ่นเป็นกันเอง ถึงแม้ว่าลูกทัวร์ของเรา
นิสัยจะไม่ค่อยดี (คนแก่อายุเกิน 60) เอาแต่ใจ แต่่ครูก็ยังทำให้หนูซาบซึ้ง ถึงขนาดว่า จะต้องมาเยือนอีกครั้งหนึ่ง
สวัสดีครับ
อยากหาซื้อที่แถวขุนยวมขอให้อยู่ในหมู่บ้านหรือแหล่งชุมชนครับ แต่ถ้ามีเนื้อที่หน่อยคงดี จะปลูกบ้านและปลูกพืชเล็กน้อยครับ ถ้ามีรายละเอียดรบกวนช่วยส่งให้ดูที่อีเมล์ [email protected] จะเป็นพระคุณอย่างสูงครับ อยากไปอยู่ขุนยวมมาก ๆ ครับ
สวัสดีครับ
อยากหาซื้อที่แถวขุนยวมขอให้อยู่ในหมู่บ้านหรือแหล่งชุมชนครับ แต่ถ้ามีเนื้อที่หน่อยคงดี จะปลูกบ้านและปลูกพืชเล็กน้อยครับ ถ้ามีรายละเอียดรบกวนช่วยส่งให้ดูที่อีเมล์ [email protected] จะเป็นพระคุณอย่างสูงครับ อยากไปอยู่ขุนยวมมาก ๆ ครับ
มีเบอร์ติดต่อที่ โฮมสเตย์ไทยใหญ่เมือนปอนมั้ยคะ พอดีจะเข้าไปทำสารคดีท่องเที่ยวเกี่ยวการกินที่นั่นอ่า เป็นคณะของมหาวิทยาลัย จึงอยากได้เบอร์ติดต่อกับคนที่นั่นอ่าคะ ขอบคุณคะ