ความโหดร้าย อำนาจเงิน และ....ความตาย…



ผู้เขียนมีโอกาสได้ไปสัมผัสความเป็นความตายของกีฬาประเภทหนึ่งมา.... เมื่อไม่นานมานี้

นี่!!..เป็นครั้งแรกในชีวิต ที่ได้มีโอกาสเห็นจุดเล็ก  ๆ จุดหนึ่งบนโลกใบนี้ ที่มันคงไม่แตกต่างกันนักกับหลายร้อยหลายพัน หลายหมื่นจุดบนโลกใบนี้....ที่มีลักษณะแบบเดียวกัน

...

เดินทางผ่านถนนสายใหญ่...ลัดเลาะสู่ถนนสายเล็ก  ทางแคบลง  เล็กลงเรื่อย ๆ 

แต่ผู้คนจำนวนไม่น้อยกลับดั้นด้นกันมาจากที่ไกลบ้าง  ใกล้บ้าง  ตามใจปรารถนากับจุดมุ่งหมายเดียวกัน....นั่นคือ

..


..

เพิงแบบง่าย ๆ  กันแดด กันฝน ที่คลุมพื้นที่สำคัญของงานนี้เอาไว้

คนคอเดียวกัน มารวมกัน เพื่อตอบโจทย์และสนองความต้องการบางสิ่งบางอย่างที่ซุกซ่อนอยู่ในใจ  มันอาจปลดปล่อยห้วงอารมณ์ของผู้คน... ที่ผู้เขียนตอบแทนไม่ได้...หากอาจเดาได้ ตามความรู้สึกของผู้เขียนเองว่า ....ถ้าเงินไม่มีค่า สิ่งเหล่านี้คงเกิดขึ้นไม่มากนัก...ผู้เขียนคิดเช่นนั้น

เหตุเพราะอำนาจของเงินนี่เอง!!..ที่มัดมือ มัดร่างกายและจิตใจของผู้คน ให้มองเห็นว่ามันเป็นความสำราญใจ ความมันและความสะใจที่มีค่าตอบแทนล่อใจมากกว่าที่จะเป็นกีฬาพื้นบ้าน

..

ผู้เขียนผ่านสายตามาทุกวันทุกครั้งที่ขับรถกลับบ้าน  สถานที่ที่ก่อสร้างได้ใหญ่โต ....โดมวงกลมก่ออิฐถือปูนลงทุนสร้างด้วยเม็ดเงินจำนวนมากเอาการอยู่  คิดต่อในใจว่า...ทำไมนะ!! รถราที่จอดเรียงรายอยู่บนถนนสายใหญ่สายนี้มันมายมายเหลือเกิน  ข้างในมันเป็นอย่างไรนะ มันถึงล่อใจผู้คนให้มารวมตัวกันได้มากมายขนาดนี้

แต่ครั้งนี้ ที่นี่...สถานที่ผิดกัน หากแต่กลิ่นไอ อารมณ์ และใจของผู้คนที่รวมตัวกันอยู่ตรงนี้ ผู้เขียนมองว่า...มันอาจแทบไม่ต่างกันเลยกับ ภายในโดมวงกลมขนาดใหญ่  ที่สร้างริมถนนสายใหญ่

..


..

ผู้เขียนวางตัวไม่ถูก ทำตัวไม่เป็น หากแต่กลมกลืนเพราะไปกับคนที่ผู้เขียนวางใจได้

สัตว์เลี้ยงที่ขันปลุกเราทุกเช้า  ถูกอุ้ม นำมาเปรียบเทียบ น้ำหนัก รูปร่าง ความได้เปรียบเสียเปรียบกัน ก่อนที่จะตกลงเจรจากันในเรื่องอื่นต่อไป

..


..

ผู้เขียนคุยกับคนกลุ่มนี้ ได้ความว่า ....การนำไก่มาเปรียบเทียบกัน ชั่งน้ำหนักด้วยมือ พิจารณารูปร่าง  ส่วนสูง หากเห็นเหมาะสม ก็จะดูสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ นั้นคือ...  การวัดความยาวของเดือยไก่(อาวุธที่ใช้ในการต่อสู้ ให้รู้แพ้ รู้ชนะ กันไปข้างหนึ่ง)

ผู้เขียน ได้ความต่ออีกว่า...ไก่ที่นำมาชนกันนี้ จะมีรูปแบบการชนอยู่ 3 แบบ คือ

1.ชนโดยการผูกมัดเดือยด้วยผ้า หรือพลาสเตอร์ เพื่อมิให้ความแหลมคมของเดือย ทำร้ายคู่ต่อสู้ให้บาดเจ็บสาหัส หรือตาย

2.ชนโดยใช้เดือยที่มีอยู่จริงของไก่ชน  ซึ่งผู้เขียนสังเกตว่า เดือยของไก่ชนเหล่านี้ มันแหลมคมจนเกินเหตุ มันน่าจะถูกลับกันมาก่อนหน้านี้เสียมากกว่า(และมันก็เป็นไปอย่างที่ผู้เขียนคิดจริง ๆ )

3.ชนโดยใช้ปลอกเดือยที่เจ้าของไก่ชนที่นำมาชนทำขึ้น(ปลอกเดือยเหล่านี้ทราบมาว่า เป็นเดือยไก่ชนที่ตายแล้ว และเจ้าของไก่ นำมาตกแต่งให้แหลมคมสุดสุด เพื่อสวมทับเดือยเดิมที่ติดตัวไก่มา)

..


..

มันแหลมมากเหลือเกิน ผู้เขียนได้สัมผัสมัน และรับรู้ถึงความตายที่ถูกหยิบยื่นให้เลยทีเดียว หากมันได้ทิ่มแทงเข้าไปที่ลำตัวและจุดสำคัญของคู่ต่อสู้

...

ผู้เขียนได้มีโอกาสเห็นการชนทั้ง 3 แบบที่กล่าวถึงข้างต้น  ดีกรีความโหดร้ายของการชนนั้นมัน เพิ่มขึ้นตามจำนวนตัวเลขที่ผู้เขียนกล่าวถึง(1) (2) (3)

ความโหดร้ายและความรุนแรงนั้น  ไม่มีน้อยหรือปานกลาง หากแต่มีเป็น ค่อนข้างมาก .. มาก..  มากที่สุด และตายกันไปข้างหนึ่งเลยทีเดียว

..


..

เวลาในสนามประลองความมัน ความสะใจ ที่ผู้คนมอบให้แก่มันช่างยาวนานเหลือเกิน 3-5 ยก ๆ ละ ร่วม 20-30 นาที

ผู้เขียนยืนดูอยู่ รับรู้ว่า แค่ 5 นาทีมันก็บอบช้ำเหลือเกินแล้ว

..


..

รอยเลือดที่หยดเป็นทางระหว่างการต่อสู้  คอ ลำตัว หัว  จุดสำคัญที่อาบไปด้วยเลือด เป้าตาที่แตกยับ ....หรือการขาดใจตายคาสนามประลอง....นี่คือร่องรอยของความหฤโหดในสายตาของผู้เขียนที่ผู้เขียนฝืนมอง และหลับตาในห้วงจังหวะชีวิตที่ความเป็นความตายกำลังจ่อคิวอยู่ตรงหน้า

ผู้เขียนมองแววตาของสัตว์เหล่านี้แล้ว

..


..

ผู้เขียนรับรู้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่สัตว์เหล่านี้ ร้องขอไว้ผ่าน ....จิตวิญญาณของกันและกัน

มันอาจโหดร้ายเกินไปนะ ที่เราจะให้มันเข่นฆ่ากัน โดยปราศจากเหตุผล

เพียงแค่ความมัน ความสำราญบนความทุกข์อันแสนสาหัสของมัน 

หากมิใช่อำนาจของเงินแล้ว... มีสิ่งใดหรือ?ที่จะมาทดแทนได้

ความตาย ความทรมาน ความทุกข์ของสัตว์เหล่านี้ แลกกับความสุขจอมปลอมที่พวกเขาได้รับ...อย่างขาดเหตุผล

และนี่คือความรู้สึกส่วนลึกในใจ...ที่ผู้เขียนอยากให้สังคมได้รับรู้ 


....หนึ่งเสียงมิอาจหยุดค่านิยม และความโหดร้ายเหล่านี้ลงได้...

...หนึ่งเสียงมิอาจลดทอนความโหดร้ายที่เราทำกับเค้ามากเกินจำเป็น... ให้เบาบางได้ ...


 เค้าพูดไม่ได้ เค้าบอกเราไม่ได้ แม้กระทั่งความตายที่เราเห็นอยู่ตรงหน้า


แต่ชะตากรรมที่หยิบยื่นให้ระหว่างกัน ...เราสร้างได้นะ


อยู่ที่ว่า....เราจะเริ่มต้นเมื่อไหร่ อย่างไร..

..


 ..

..และหวังอยู่ลึก ๆ ในใจว่า...ชั่วชีวิตนี้เราจะได้พบได้เห็น

...แค่นี้...ชีวิตก็รู้สึกดีแล้ว


                                                                                      หมายเหตุ ภาพเหตุการณ์ทั้งหมดถ่ายจากโทรศัพท์มือถือ<p></p>

                                                                                                      ยกเว้น : ดอกไม้ ถ่ายจาก กล้อง canon 
หมายเลขบันทึก: 521878เขียนเมื่อ 9 มีนาคม 2013 16:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 พฤษภาคม 2014 00:37 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (16)

ชีวิต ชีวิต และชีวิต

เบิกบาน เบิกบาน ธรรมวิถี

โชคดี มีพระธรรม นำชีวี

เมตตาแผ่ ถึงกัน อย่ามีภัย


มันคงเป็นประเทศเดียวกับมาธาดอร์กับกระทิง และก็วัวชนบ้านเราใช่ไหมค่ะ

ยังไงสัตว์ก็เจ็บและตายในที่สุด

กีฬาที่ใช้ชีวิตของสัตว์เป็นเครื่องมือ...มีให้เห็นทั่วไป  คงไม่มีวันหมดไปจากแผ่นดิน

ไก่ชน วัวชน ควายชน เป็นกีฬาที่โหดร้ายพอๆกัน เพราะไม่จำกัดเวลา ไม่จำกัดยก ไม่ได้นับคะแนน  แพ้ชนะอยู่ที่การวิ่งหนี หรือล้มจนลุกขึ้นไม่ได้ ถ้าเจ้าของยอมแพ้ก็เข้าไปช่วยชีวิตมันไว้     ถ้ายังไม่ยอม มันก็จะถูกคู่ต่อสู้ทำร้ายจนตาย หรือพิการ ไก่ชนเป็นไก่พิการตาบอดเยอะ ตัวที่บ่อนวัวขนขนาดที่วัววิ่งหนีไม่สู้แล้วเจ้าของยังพยายามเอาเชือกดึงเข้าไปให้ชนอีกครั้งระหว่างที่กรรมการยังไม่ตัดสิน

อย่างน้อย ขอเป็นอีกหนึ่งเสียงที่จะขอร่วมยุติความโหดร้ายดังกล่าว แม้ความหวังจะดูเลือนลางค่ะคุณแสง..

ธรรมชาติของไก่ก็ชนกันอยู่แล้วค่ะ  ที่บ้านยังบ่นเลยว่าอยู่ด้วยกันก็ยังมาชนกันอีก   แล้วนี่จับมาชนกันก็พูดไม่ออกค่ะ

  • คุณแสงแห่งความดีเขียนได้เศร้ามากค่ะ  สงสารไก่
  • หลายปีแล้ว  เคยนั่งในที่ประชุมอำเภอ  นายก อบต.ขอเปิดบ่อนไก่ให้ถูกฎหมาย  ด้วยเหตุผลว่า  ถึงไม่เปิดถูกกฎหมาย  นักเลงเขาก็เปิดเองที่หมู่ืบ้านไกล ๆ อยู่แล้ว  ให้มาชนตามกฎหมายดีกว่า  ควบคุมได้
  • ดีที่นายอำเภอไม่บ้านจี้อนุญาต  แต่ไม่รู้ว่าจะทัดทานไปได้อีกกี่ปี  เปลี่ยนนายอำเภอจะเปลี่ยนการตัดสินใจไหม
  • คนที่กิเลสหนาไม่คิดถึงบาป  ไม่คิดถึงชีวิตอื่น  ยังมีอีกเยอะจริง

ความโหดร้าย อำนาจเงิน และ....ความตาย…


เป็นกิจกรรมที่ทารุณมากค่ะ

พี่โอ๋ทนดูไม่ได้แน่นอนเลยค่ะ ไม่รู้สึกว่าเป็นกีฬาตรงไหนเลย อะไรที่ต้องปะทะกันจนเลือดตกยางออกทั้งหลายนี่ขัดกับธรรมชาติของความรักตัวกลัวตายกลัวเจ็บของสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย ไม่เคยเข้าใจเลยว่า คนที่ทำให้มี คนที่ดู เขาเห็นเป็นเรื่องที่น่าทำไปได้อย่างไร อ่านแบบกระโดดข้ามรูปมากเลยค่ะ...กลัว...ไม่รู้ว่าเราจะมีบทบาทอะไรได้บ้างนะคะ 

เคยดูตอนอยู่ต่างจังหวัด แต่เป็นเพียงการปล่อยให้ตีกัน ชนกันตามธรรมชาติ ไม่เคยเห็นในสนามที่มีการเหลาเดือยลับให้คม และสู้กันจนตาย

สงสารไก่...

เช่นกันค่ะ สงสารไก่ 

ผมก็รู้สึกเช่นเดียวกันครับ

หากมีความพอดี...มิใช่ทำเพื่อการเข่นฆ่าหรือพิการ...ก็ยังพอทนได้

..

บางทีกฎหมายก็สามารถคุ้มครองพวกสัตว์เหล่านี้ได้นะครับ

..

และผมยังคงหวังว่า...สักวันหนึ่งผมคงได้เห็น

...

ขอบคุณทุกดอกไม้กำลังใจและความคิดเห็นครับ


..... มนุษย์ ... คิดชั่ว...แล้วยังนำความชั่ว .... ไปลงที่สัตว์อีกนะคะ .... เกิดมาชาตินี้ก็มีบาป-กรรม ติดตัวมาอยู่แล้ว .... ยังจะ...สร้างเพิ่มขึ้นอีก ..... ฮือ...เศร้ามากค่ะ ..... 

คนเหล่านี้ไม่เห็นถึงเวรกรรมของตนเอง ชีวิตที่เกิดมาเป็นคนที่ลำบากอยู่แล้ว ยังสร้างกรรมใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ 

ชีวิตทุกชีวิตล้วนมีค่านะคะ กีฬาแบบนี้มีแต่เพิ่มความโหดเหี้ยมให้พอกพูนในจิตใจ สงสารสัตว์จริงๆค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท