คราวที่แล้วได้กล่าวถึงการทำงานของคนต่างด้าวในประเทศไทย คราวนี้จะขอกล่าวถึงการทำงานของคนต่างด้าวในประเทศสิงค์โปร์
ในประเทศสิงค์โปร์ เป็นลักษณะที่ควบคุมตัวคนต่างด้าวและนายจ้างท้องถิ่น ในกฎหมายว่าด้วยการทำงานของคนต่างด้าวของประเทศสิงค์โปร์ไม่ได้มีกฎหมายห้ามชนิดงานที่คนต่างด้าวห้ามทำเหมือนประเทศไทย แต่เป็นการห้ามคนต่างด้าวทำงานและห้ามว่าจ้างคนต่างด้าว เว้นแต่ได้รับใบอนุญาต
กฎหมายหลักที่ใช้ควบคุมการทำงานของคนต่างด้าวได้แก่ Immigration Act (Chapter 133)
Employment of Foreign Worker Act (Chapter 91A)
มีการแบ่งแยกระหว่าง Skilled Labour & Un-skilled Labour โดยในการทำงานของคนต่างด้าวนั้น
ใช้ระบบ Pre-arrange Job คือ ต้องมีสัญญาจ้างงานและต้องมีบริษัทผู้ว่าจ้างในการสมัครขอใบอนุญาติทำงาน คนต่างด้าวต้องสมัครผ่าน Local Sponsor โดยทั้งผู้สมัครและผู้ว่าจ้างจะเป็นผู้กรอกข้อความดังกล่าวผู้ว่าจ้างจะเป็นผู้ที่ดำเนินการยื่นให้และต้องมีจดหมายรับรองสนับสนุนการทำงานจากผู้ว่าจ้างจดหมายฉบับนี้จะระบุความรับผิดชอบของนายจ้างในเรื่องการดำรงอยู่ของคนต่างด้าว และการส่งตัวกลับ ส่วนในเรื่องการคบคุมนั้น Skill labour เป็นแบบไม่มีข้อจำกัดในเรื่องสัดส่วนการจ้างงาน Un-skill Labour มีการกำหนดสัดส่วนตามประเภทอุตสาหกรรม
การใช้ใบอนุญาตในประเทศสิงค์โปร์นั้นต้องตรงตามประเภทงาน สถานที่ และนายจ้าง ตามที่ระบุไว้ในใบอนุญาตรวมทั้งต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขและข้อจำกัด ใบอนุญาตเป็นเรื่องเฉพาะตัว โอนให้บุคคลอื่นไม่ได้ และต้องพกตำดตัวเสอมขณะปฏิบัติงาน
ดังนี้จะเห็นได้ว่า การให้คนต่างด้าวทำงานระหว่างประเทศไทยกับประเทศสิงค์โปร์นั้นมีความแตกต่างกันในระบบการให้คนต่างด้าวทำงาน โดยในส่วนประเทศไทยจะเป็นแบบกำหนดงานที่ห้ามคนต่างด้าวทำ ส่วนประเทศสิงค์โปร์เป็นการห้ามคนต่างด้าวเข้าทำงานถ้าไม่มีสัญญาการจ้างงานเกิดขึ้น นอกจากนี้ประเทศสิงค์โปร์ยังมีการแบ่งประเภทของแรงงานและกำหนดโควต้าของแรงานในแต่ละประเภทนั้นๆดัวย ซึ่งถ้าเรื่องนี้ได้นำมาใช้กับระบบการควบคุมการทำงานคนต่างด้าวของประเทศไทยก็น่าจะเป็นผลดี เนื่องจากจะได้กำหนดสัดส่วนงานที่สามารถเปิดโอกาสให้คนต่างด้าวสามารถเข้ามาทำได้
ดังนี้เป็นระบบการควบคุมแรงงานต่างด้าวที่ต่างกันของทั้งสองประเทศ
ไม่มีความเห็น