เรื่องการเตรียมมหาวิทยาลัยของเราให้พร้อมกับการเข้าสู่สถาบันอุดมศึกษาที่มีหน้าที่พัฒนาทรัพยากรบุคคล/สร้างนวัตกรรม มีความคิดเห็นพอสรุปได้ดังนี้
(ใช้ได้กับทุกตัวอย่าง) ประกาศ/ข้อบังคับควรมีภาษาต่างประเทศในทุกตำแหน่ง (ต้องเตรียมการให้มีภาษาของสมาชิก ASEAN)
๑. ตัวอย่างปัญหาโครงสร้างองค์กร
๑.๑. สร้างศูนย์วิจัย/หน่วยวิจัย และอัตราบุคลากรให้มีการต่อเชื่อมระหว่างรุ่นของผู้ดำรงตำแหน่ง ศ., รศ., ผศ., อ. และบุคลากรสนับสนุน โดยอาจใช้รูปแบบของ Lab วิจัยของมหาวิทยาลัยในประเทศญี่ปุ่น/เยอรมัน และสร้างระบงบประมาณแบบต่อเนื่องกับรัฐบาลท้องถิ่นและรัฐบาลกลาง
๑.๒. เพิ่มป้ายชื่อสถานที่/อาคาร/ถนน/บุคลากร เป็นภาษาอังกฤษ (ในอนาคตภาษาของสมาชิก ASEAN by 2015)
๒. ตัวอย่างปัญหาจากข้อบังคับ
๒.๑. งานบุคคล
๒.๑.๑ การใช้กรอบอัตราเงินเดือน-ค่าตอบแทนคณาจารย์/บุคลากรต่างประเทศในอัตราเดียวกับชาวไทย อาจไม่ดึงดูดคณาจารย์/บุคลากรต่างประเทศให้มาร่วมปฏิบัติงานในมหาวิทยาลัยของเรา (อีกนัยหนึ่งคือต้องมีการยกระดับทั้งหมดให้เพียบเท่าในระดับ developed countries หรืออย่างน้อยเท่ากับมาเลเซีย/สิงค์โปร์) เพื่อนำสู่มีทรัพยากรบุคคลที่มีความสามารถในการสร้างสรรนวัตกรรมเพื่อสังคมและการจัดอันดับ University Ranking ที่ดีขึ้น
๒.๑.๒ การ search/seek คณาจารย์/บุคลากรต่างประเทศมีน้อย และการ search/seek คณาจารย์/บุคลากรอยู่วงจำกัดและมีแนวโน้ม inbreeding
๒.๒. งานพัสดุฯ
๒.๒.๒ สร้างทุนสนับสนุนทีมงานคณาจารย์ในการร่วมงานกับสังคมไทย/ASEAN เพื่อสร้างองค์ความรู้ใหม่ซึ่งนำสู่การสร้างนวัตกรรมการแก้ปัญหาความยากจน การถดถอย/เสื่อมสภาพทรัพยากรธรรมชาติ การขาดแคลนพลังงาน ทำให้มีการพัฒนาที่ยั่งยืนตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
๒.๓. งานบริหารงานวิชาการ
๒.๓.๑ ให้ความดี/recognize คณาจารย์/บุคลากร (ในและนอก มหาวิทยาลัยเชียงใหม่) ซึ่งปฏิบัติงานอย่างเป็นรูปธรรมในร่วมการแก้ปัญหาของสังคม ตั้งแต่ระดับท้องถิ่น, จังหวัด, ชาติ และ ASEAN
๒.๔. งานวิจัย
๒.๔.๑. สนับสนุนทุนวิจัยต่อกลุ่มวิจัย ซึ่งมีการปฏิบัติงานวิจัยแบบเป็นทีมงานของสหสาขาวิชาการ เพื่อการตอบโจทย์และร่วมแก้ปัญหา/เพิ่มขีดความสามารถของสังคมไทยและ ASEAN
๒.๔.๒ สนับสนุนทุน/งบประมาณวิจัยต่อกลุ่มวิจัยให้สามารถจ้าง Post-Doctoral/Post-MS staff
๒.๕.๑. สนับสนุนทุนต่อกลุ่มงานบริการวิชาการแก่ชุมชนและทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมซึ่งมีการปฏิบัติงานแบบต่อเนื่อง ทำให้ชุมชนเป็นชุมชนแห่งวิชาการ/ความรู้ของสังคมไทยและ ASEAN เข้าสู่ Knowledge society (หมายถึงวิชาการและศิลปวัฒนธรรม) ของชุมชนในชายทะเล/พื้นที่ราบ/พื้นที่สูง
อย่างไรก็ตาม ข้อบังคับ/ระเบียบมีจำนวนมากมาก และเป็นเราที่ต้องร่วมกันแก้ (หากมีโอกาส)
อรรถชัย
================<><><>เชียงใหม่
ไม่มีความเห็น