ประเมินผลการปฏิบัติงานครูอาสาฯแบบจัดการความรู้

• วันนี้มีการประเมินผลการปฏิบัติงานครูอาสาสมัครการศึกษานอกโรงเรียนเพื่อการปรับขึ้นค่าจ้าง ประเมินผลงานในรอบปี 2549 เพื่อขึ้นค่าจ้างให้ในปีงบประมาณ 2550
• ครูอาสาสมัครการศึกษานอกโรงเรียน เรียกย่อๆว่า ครูอาสาฯ เป็นบุคลากรที่มีบทบาทสำคัญมาก ทำภารกิจมากมาย รับใช้ผู้เรียน กลุ่มเป้าหมายมาเกือบๆจะอายุของกรมการศึกษานอกโรงเรียน แต่เพิ่งจะได้รับการปรับเปลี่ยนสถานภาพจากลูกจ้างชั่วคราวสัญญาจ้างรายปี มาเป็นพนักงานราชการ เมื่อ ปี 2549 นี้เอง น่าเห็นใจมาก แต่เมื่อปรับเปลี่ยนได้แล้ว สิทธิประโยชน์มากกว่าเก่าเยอะครับ ค่าจ้างก็ปรับขึ้นได้ด้วย พนักงานราชการนี้หากประเมินผลการปฏิบัติงานผ่านจะไม่ใช่ต่อสัญญาจ้างปีต่อปีอีกต่อไปแล้วนะ แต่จะต่อสัญญาจ้างมีอายุไปถึง 4 ปี เรียกว่าต่อกันทุกๆ 4 ปี
• สำหรับการขึ้นค่าจ้างนั้น เมื่อได้ประเมินผลการปฏิบัติงานแล้วถ้าปรากฏว่าผลงานไม่ประทับใจ ก็อาจจะไม่ขึ้นให้เลยก็ได้ ผลงานมีมากประทับใจมากอาจจะขึ้นให้ 5% หรือขึ้น 8 % ของค่าจ้างก็ได้ แล้วแต่ว่าจะมีผลงานมากและดีขนาดไหน การประเมินในวันนี้เป็นการประเมินในส่วนของการขึ้นค่าจ้าง 8 %
• ระดับการประเมินจะแบ่งเป็น 3 ระดับ ครับ คือระดับศูนย์บริการการศึกษานอกโรงเรียนอำเภอ ระดับกลุ่มศูนย์บริการการศึกษานอกโรงเรียนอำเภอ หรือเรียกว่าระดับโซนๆหนึ่งก็ประมาณ 4 อำเภอ และระดับจังหวัดโดยศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนจังหวัด จังหวัดนครศรีธรรมราชออกแบบเป็นอย่างนี้ ไม่แน่ใจว่าระดับประเทศจะอย่างนี้หรือเปล่า เท่าที่ผมหาข้อมูลได้ในวันนี้วิธีการประเมินจะเป็นอย่างนี้ครับ ขั้นแรก ผอ.แต่ละอำเภอจะคัดครูอาสาฯที่เยี่ยมๆ อำเภอละ 1-2 คน เพื่อไปแข่งกับอำเภออื่นๆในโซนเดียวกัน ขั้นต่อไปคือส่งรายชื่อไปแข่งกับต่างโซนซึ่งเป็นระดับจังหวัด ซึ่งในที่สุดแล้วจะมีครูอาสาฯ 15 % ได้รับการปรับค่าจ้าง 8 % นครศรีธรรมราชมีครูอาสาฯราวๆ 100 คน
• วิธีการประเมินก็ให้คณะกรรมการระดับโซนซึ่งก็ได้แก่ ผอ.กศน.อำเภอแต่ละอำเภอในโซนเป็นกรรมการ ไปประเมินงานตามสภาพจริงในพื้นที่ ซึ่งครูอาสาฯที่ได้รับการเสนอชื่อจะกำหนดงานเด่นและพื้นที่ที่จะให้คณะกรรมการไปประเมินได้ด้วยตัวเอง จัดทำสรุปงาน แฟ้มสะสมคนละไม่เกิน 20 หน้า อธิบายคุณภาพ คุณลักษณะต่างๆของตนเอง ให้กรรมการอ่านล่วงหน้า รอรับการประเมินอยู่ในพื้นที่ คณะกรรมการจะตามไปดูของจริงไปพื้นที่ สัมภาษณ์คุณกิจ กลุ่มเป้าหมาย พิจารณาชิ้นงาน ผลงานในพื้นที่ สอบถามผู้เกี่ยวข้องในพื้นที่ อ่านงานที่ผ่านมาจากบันทึกความรู้ blog เป็นต้น อย่างในโซนอำเภอที่ผมอยู่ ประกอบด้วยอำเภอเมือง พระพรหม ร่อนพิบูลย์ และลานสกา มีครูอาสาฯที่ ผอ.กศน.ต่างๆเสนอชื่อเข้าแข่งขัน 5 คน ทัวร์ไปทุกพื้นที่แล้วมาทำสรุปคะแนนกัน
• ผมว่านี่คือวิธีการ หรือ How to ทีดี ทำอย่างนี้จะทำให้ได้ยอดครูอาสาฯ ยอดคุณอำนวย ประกาศยกย่องให้เป็นยอดคุณอำนวยไปด้วยก็ได้ (นอกจากได้ค่าจ้างปรับเพิ่ม 8 %)  สกัดขุมความรู้ แก่นความรู้ของครูอาสาฯดีเด่นเหล่านี้ออกมา เป็นความรู้ชัดแจ้ง ซึ่งคงเป็นชุดความรู้ที่มีประโยชน์ใช้ในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ได้เป็นอย่างดี และส่งเสริมให้ใช้พื้นที่ที่ครูอาสาฯส่งเสริมหรือสร้างขึ้นมาได้สำเร็จเป็นแหล่งเรียนรู้ จุดประกายให้คนอื่นๆ
• เมื่อได้ครูอาสาฯคนดีคนเก่งจำนวนหนึ่งออกมาแล้ว ก็ส่งเสริมเขาให้ได้รับการยกระดับการทำงาน การเรียนรู้ให้สูงขึ้นไปอีก เช่น ให้นำองค์ความรู้ไปแลกเปลี่ยนในงานตลาดนัดความรู้ งานมหกรรมจัดการความรู้ แต่งตั้งหรือสนับสนุนให้ไปเป็นวิทยากรในที่ต่างๆในนามของหน่วยงาน ส่งเสริมให้นำความรู้ที่มีเผยแพร่ออกทางสื่อต่างๆ เป็นต้น
• ผมว่าการเริ่มต้นครั้งนี้เหมือนกับการหว่านเมล็ดพันธุ์ที่ดี อยากจะให้ทำตลอดไป ผลกระทบในทางดีๆจะเกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะในเรื่อง  การได้เข้าใจว่าการประเมินผลการปฏิบัติงานเป็นเรื่องปกติไม่ใช่เรื่องน่ากลัว การตระหนักถึงความสำคัญของการประเมินตามสภาพจริง ธรรมมาภิบาลในองค์กร การพัฒนาสมรรถนะบุคลากรหรือคุณอำนวยอยู่ตลอดเวลา การปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กรให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้โดยไม่รู้สึกตัว เช่นเดียวกับการทำงานจัดการความรู้โดยที่ไม่รู้ว่าทำการจัดการความรู้ แบบ KM  INSIDE
• ผมอยากเห็นพัฒนาการของการประเมินผลการปฏิบัติงานของบุคลากรประเภทอื่นๆของ กศน.นครศรีธรรมราช อย่างที่ได้นำมาใช้กับครูอาสาฯในครั้งนี้  ผมว่าดีมากๆ ครับ