๑. เรียนจบ..พบเนื้อคู่
ข้าพเจ้า ได้ตั้งปณิธานไว้ตั้งแต่อายุแรกรุ่นว่า จะขออยู่เป็นโสดไปจนวันตาย เพราะเห็นแม่ต้องตรากตรำกับการเลี้ยงดูลูกๆมากถึงแปดคนด้วยตนเองอย่าง เหนื่อยยาก และข้าพเจ้าตั้งใจจะช่วยแบ่งเบาดูแลน้องๆต่อไปไม่คิดจะแยกไปตั้งครอบครัวของ ตนเอง
อย่างไรก็ตาม พรหมลิขิตบันดาลชักพาเนื้อคู่ชื่อ ประทีป สนธิสุวรรณ หนุ่มนักเรียนทุน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท) รุ่นแรก มาสู่วงจรชีวิตคู่ของข้าพเจ้าอย่างไม่คาดฝัน เราทั้งสองได้เข้าทำงานที่นี่ในช่วงเวลาเดียวกัน โดยที่ทั้งเขาและข้าพเจ้าต่างหนีจากการเรียนสาขาแพทยศาสตร์ มาที่สาขาเศรษฐศาตร์ เขาสำเร็จปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยลอนดอน ส่วนข้าพเจ้าจบจากจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย เราเข้ามาเป็นเศรษฐกรผู้ช่วยคนละหน่วยงานกัน แต่เป็นเพื่อนบ้านในตึกเดียวกัน เห็นหน้าพูดคุยกันช่วงเช้าๆก่อนเข้าทำงานแบบจับกลุ่ม ถูกอัธยาศัยกันดี ..โดยมีคุณไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม หนุ่มนักเรียนทุนธปท.รุ่นเดียวกัน มาเดินเตร็ดเตร่สนทนาด้วยใกล้กันแถวๆโต๊ะทำงานของ คุณหญิงชฏา เมื่อครั้งยังใช้นามสกุลกฤษณามระ
ย้อนกลับไปอ่านจดหมายทางเมล์อากาศ (air mail) และ โปสการ์ดที่เก็บถนอมไว้อย่างดี ลำดับเหตุการณ์ได้ว่า เราไม่ได้รักแรกพบจบม้วนเดียวแต่อย่างใด ..ความสัมพันธ์เริ่มจากการเป็นเพื่อนที่เข้าใจเพื่อน..
เนื้อหาในจดหมายของเขาจากแดนไกลกรุงวอชิงตันดีซี ในระหว่างที่เขาไปเข้าหลักสูตรอบรมด้านการเงินที่นั่นสามเดือน ที่ได้เล่าเรื่องราวโน่นนี่ ทั้งเรื่องส่วนตัวและเหตุการณ์บ้านเมือง...เขามีบ้างที่บ่นๆเซ็งกับชีวิตที่ต้องกลับไปเหมือนนักเรียนอีก..ข้าพเจ้าได้แต่ให้คำแนะนำว่า ..คนเราย่อมทุกข์บ้าง สุขบ้าง..ธรรมชาติให้ความอดทนมาเป็นพลังต่อสู้...เขาเขียนชมกลับมาว่า เป็นการให้สติที่ดี..และหลังจากนั้นไม่นาน เขาได้ส่งสัญญาณความในใจพร้อมกับบัตรรูปช่อกุหลาบหวานแหววด้วยกลอนภาษาอังกฤษซึ้งๆแต่งเองมาให้ในวันเกิดปีนั้้น ข้าพเจ้าอ่านแล้วเหมือนเหาะได้ปานนั้น
เมื่อเขากลับมาประเทศไทยแล้ว รู้สึกแปลกๆที่เมื่อมีการเที่ยวเตร่แบบรวมกลุ่มกัน จะปรากฎภาพถ่ายทุกครั้งมักมีเราทั้งสองอยู่ใกล้กัน....อีกทั้งผองเพื่อนบางครอบครัว ทำตนเป็นแม่สื่อพ่อสื่ออย่างออกนอกหน้า..มิช้านานมินานเขาขอนัดเดี่ยว ซึ่งส่วนใหญ่ข้าพเจ้าบ่ายเบี่ยงว่าคุณพ่อไม่ชอบให้ไปไหนตามลำพังกับหนุ่มๆ..แต่เขากลับเดินหน้าต่อ ด้วยการขออนุญาตคุณพ่อด้วยตนเอง โดยสัญญาจะพาลูกสาวมาส่งบ้านไม่ชักช้าให้ต้องกังวลใจผู้ใหญ่ของข้าพเจ้าจึงไฟเขียวไว้วางใจ
นับเวลาเพียงหกเดือนหลังจากรู้ใจกันว่าเขารักจริงหวังแต่ง จึงวางแผนร่วมกันในการใช้ชีวิตคู่อย่างถูกต้องตามประเพณี โดยเขาเปิดทางสะดวกให้ข้าพเจ้าได้มีเรือนหอใกล้บ้านพ่อแม่ของข้าพเจ้า ..นับเป็นการสร้างครอบครัวที่มีพื้นฐานอันอบอุ่นมั่นคงอย่างยิ่ง...
๒. จูงมือกัน..สู่ความก้าวหน้า
หลังจากแต่งงานได้ไม่นาน ธปท.ได้สนับสนุนให้สามีไปศึกษาต่อขั้นปริญญาโท ด้าน Public Administration @ The Kennedy School of Government ที่มหาวิทยาลัย Harvard ณ เมือง Massachusetts สหรัฐอเมริกา ในการไปครั้งนี้ ข้าพเจ้าถูกยื่นคำขาดจากเขาให้ไปเรียนต่อพร้อมกัน ซึ่งข้าพเจ้าได้เล่ารายละเอียดไว้แล้ว โปรดคลิ๊กที่บันทึกนี้ :
ความคิดที่ต่อยอดจากห้องเรียนกลับทาง
การใช้ชีวิตคู่อย่างนักศึกษาตามลำพังเช่นนี้ ช่วยให้เราเรียนรู้จิตใจกันและกันมากยิ่งขึ้น ได้เป็นกำลังใจและสร้างวินัยในการบริหารการเงิน และจัดการเวลาอันเหมาะสม เพื่อเป้าหมายของความสำเร็จทางการศึกษาและความสุขอันพึงมีอย่างลงตัว
๓. รักเด็ก..ได้แต่อุ้มลูกคนอื่น..ยังไม่มีของเราเอง..
เราทั้งสองคนมาจากครอบครัวใหญ่ที่อบอุ่นด้วยความรักผูกพันของ พ่อ-แม่-ลูก ดังนั้นความคาดหวังเรื่องการมีลูกของเราเอง จึงเป็นการตั้งตารอ แต่ไม่ถึงกับเร่งรีบ ได้คิดถึงความพร้อมในการสร้างรากฐานที่มั่นคงที่จะรองรับสมาชิกคนใหม่ในช่วงเวลาอันเหมาะสมต่อไป...และในที่สุดแล้ว..แม้ไม่มีลูกของเราเอง..ข้าพเจ้ากลับได้เลี้ยงดูหลานป้าชื่อ อมรพงศ์ เภกะนันทน์ ราวกับลูกของตนเอง ซึ่งได้เคยเขียนไว้แล้วที่บันทึกนี้ โปรดคลิ๊ก :
ชีวิตที่เลือกได้อย่างมีความสุข
โปรดติดตามอ่าน พลังรักแท้..แม้วันนี้ไม่มีเขาอยู่ (๒)
สวัสดีค่ะพี่ใหญ่ : แอบอ่านเนื้อความของจดหมาย (Air Mail) จากกรุงวอชิงตันดีซีแล้วโรแมนติกจังค่ะ ขอบคุณค่ะพี่ใหญ่ที่แบ่งปัน .. รออ่านตอนที่ ๒ ค่ะ ^^
โห โรแมนติก กว่าชลัญเยอะเลย ค่ะ อ่านแล้วนั่งอมยิ้ม รออ่านต่อค่ะ
รักแท้ที่ประทับใจตลอดกาล ชมภาพแล้วคุณพี่ใหญ่คงคิดถึงมากมายนะคะ ดาจะรออ่านตอนที่ 2 นะคะ
.... Ple .. อ่านแล้วยิ้มน้อย ยิ้มใหญ่ .... เหมือนได้เห็นภาพจริงๆ ที่พึ่งเกิด ตรงหน้า นะคะ .... เป็นความรักที่ "งดงามเหลือเกิน" ..... อ่านแล้วทำให้คนอ่าน (เปิ้น) มีความสุขไปด้วยนะคะ .... เป็น... "ความรักที่งดงาม" มากเลยนะคะ
ขอบคุณบทความดีดีมีคุณภาพนี้ค่ะ.....
เป็นชีวิตคู่ที่น่ารักอ่ะ
ยินดีด้วยค่ะ พี่ใหญ่ ความรักที่แสนหวาน
คือความรัก ความงาม คือความหวาน
คือความดี ที่ผลิบาน ผ่านสมัย
คือนงนาท คือผู้หญิง ผู้จริงใจ
คือประทีป ส่องไสว ในทรงจำ
...................ขอแสดงความชื่นชม ที่คุณพี่นงนาทยังเก็บความสวยงามของความรักไว้ได้ในทุกรายละเีอียด ครับ
มาศึกษาความรักจากพี่ใหญ่ค่ะ รักแท้เป็นเช่นนี้เอง
นั่นแน่!!! พี่นงนาท ก็มีความรัก + ความหลังมาเล่าให้น้อง ๆ ฟังบ้างแล้ว...จะตามมาอ่านนะคะ...ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะ...อ่านเรื่องราวแล้วทำให้รู้สึกได้กับความรักที่งดงามและอบอุ่นค่ะ...
อ่านแล้วรู้สึกดีมากเลยครับ
ขอบคุณเรื่องเล่าที่ทำให้ผู้อ่านอ่านไปยิ้มไปค่ะคุณพี่ใหญ่ ความรู้สึกเมื่อได้รับแอร์เมลล์ต่างไปจาดอีเมลล์ในปัจจุบันมากมายนะคะ
น่ารักมากค่ะคุณพี่ใหญ่ รออ่านตอนต่อไปนะคะ
ทึ่งและประทับใจกับจดหมายที่เก็บไว้คะ พี่ใหญ่เป็นคนเก็บทั้งสิ่งของและเรื่องราวมีคุณค่าจริงๆ
อ่านสิ่งที่คุณพี่"ทีป"เขียนแล้วรู้สึกว่าท่านเป็นคนละเมียดละไม อ่อนโยนและเป็น"พระเอก" เหมาะสมมากกับ"พี่ใหญ่"ที่อ่อนโยน เยือกเย็นแต่เข้มแข็งมากนะคะ ดูเป็นคู่ที่เสริมส่งกันได้ดีมากทีเดียว มีความสุขมากกับการละเลียดอ่านบันทึกนี้ของพี่ใหญ่ค่ะ ทำเอาลืมโลกรอบๆตัวไปได้ชั่วครู่เลย ขอบพระคุณพี่ใหญ่มากๆค่ะที่นำมาแบ่งปัน
โรแมนติกจังค่ะพี่ใหญ่
อ่านไปก็อมยิ้มไป รออ่านต่อค่ะ :)
ความรักของคุณพี่ทั้งสองงดงาม เพราะ ต่างช่วยเติมเต็ม ความรัก และการเรียนรู้ชีวิตไปด้วยกัน น่าชื่นชมมากค่ะ
-สวัสดีครับป้าใหญ่..
-เข้ามาอ่านเรื่องราวความรัก.
-อบอุ่นและน่ารักครับ..
-ความรักเป็นสิ่งดีงามจริง ๆ ครับ
-ขอบคุณครับ
มาติดตามเรื่องความรักจากเส้นทางชีวิตจริงด้วยความซึ้งใจ...รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะ
พี่ประทีป จากไปแล้ว
แต่ความงดงามที่เคยเกิดขึ้น
ไม่เคยจืดจางไปเลยนะคะ
(เรียกพี่ใหญ่ว่าพี่แล้วแฟนพี่ใหญ่ก็ขอใช้คำว่าพี่ด้วยเช่นกันนะคะ)
อ่านแล้วมีความสุข พี่ใหญ่มีเรื่องงดงามให้อ่านเสมอๆๆนะครับ
การจัดการงานของจิต?
เออ หนูคงต้องรบกวนให้พี่ใหญ่ช่วยแนะนำต่อๆไปค่ะ
รู้สึกว่าอ่านแล้วแปลความไปได้มากมายเหลือเกิน
เกินปัญญาของหนูซะแล้วสิ
รออ่านของอาจารย์ขจิตด้วยคนเย้ๆๆ
อ่านแล้วพบว่า ตนเองยังห่างธรรมมะอยู่มากทีเดียว
สงสัยต้องอ่านหนังสือธรรมมะที่พี่ใหญ่เขียนเพิ่มซะแล้วค่ะ
ขอบคุณพี่ใหญ่มากค่ะ
ดีใจด้วยนะครับอาจารย์
สวัสดีค่ะ
เข้ามาอ่านบันทึกนี้แล้ว เชื่อว่ารักแท้มีอยู่จริงค่ะ แต่ยังหาไม่เจอแค่นั้นเอง ขอบคุณนะค่ะ อบอุ่นจังค่ะ
พี่ใหญ่ครับ ไม่มี 555
เป็นความทรงจำที่งดงาม
ความสุข ยั่งยืนเสมอค่ะ
มากบ้าง น้อยบ้าง แต่สุดท้ายก็คือความสุข
...ติดตามมาอ่านเรื่องราวความรักในความทรงจำของพี่นงนาท...ประทับใจมากๆค่ะ
พี่ใหญ่ขอขอบคุณน้องแสงแห่งความดีที่นำบันทึกนี้ไปถอดบทเรียนที่บันทึกนี้ค่ะ
10 บันทึกแห่งปี 2558 (บันทึกที่ 1) "พลังรักแท้...แม้วันนี้ไม่มีเขาอยู่..... อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/597785
ดีใจที่ได้อ่านแม้ช้ากว่าคนอื่น แอบมีความสุขกับมุมโรแมนติกของพี่ใหญ่ด้วยค่ะ
น้อง GD...ขอบคุณมากค่ะที่แวะมาอ่านและส่งความรู้สึกดีๆเป็นกำลังใจให้กันเช่นนี้