สรุปการเสวนาเรื่อง ก้าวสำคัญและปัจจัยความสำเร็จเพื่อการพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศไทยให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมและเป็นผู้นำไอทีระดับภูมิภาคอาเซียน จากงานสัมมนา“นโยบายการพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ กรอบแนวทาง และทิศทางการปฏิบัติงานปี ๒๕๕๖” โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิร่วมวงเสวนา คือ
1. นายวรวิทย์ จำปีรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ
2. นางสาวขนิษฐา สุดกังวาน ที่ปรึกษาการพัฒนาระบบราชการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ(ก.พ.ร.)
3. ดร.มนู อรดีดลเชษฐ์ กรรมการบริหารมูลนิธิซีแอนด์ซีเพื่อการศึกษา
4. นายไชยเจริญ อติแพทย์ นายกสมาคม CIO16
ดำเนินรายการโดยดร.กำพล ศรธนรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายไอซีที สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
สรุปเนื้อหาจากการเสวนาฯ ดังนี้
1. Process
- แนวคิด นโยบายด้าน e-government ของประเทศต่างๆ นั้นไม่ต่างกันมาก หากจะแตกต่างกันคือ การนำไปปรับใช้ (Implement) งบประมาณ บุคลากร ในแต่ละประเทศ
- การดำเนินการในอดีตเน้นที่ Silo และ Transaction ในอนาคต ควรมุ่งเน้น InteractionalและIntegration มากขึ้น
- คุณค่าของประชาชนกับบริการของภาครัฐ : การออกแบบระบบบริการต่างๆ ควรคำนึงถึง Business Process ของภาคประชาชน ณ ปัจจุบัน หน่วยงานภาครัฐนำไอทีเข้ามาเพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับการทำงานของหน่วยงาน (Business Process ของหน่วยงาน) เช่น ลดขั้นตอนการทำงานเพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำงานน้อยลงในฐานะของหน่วยงานสามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้ แต่ในฐานะของประชาชนมีความเสี่ยงที่จะทำผิดกฎหมาย เช่น การกรอกแบบฟอร์มต่างๆ หากประชาชนกรอกผิด ประชาชนอาจมีความผิดทางกฎหมายโดนข้อหาสำแดงเท็จ เป็นต้น ดังนั้นควรคำนึงถึงประชาชนให้มากยิ่งขึ้น หรือออกแบบระบบให้สามารถตอบคำถามประชาชนได้
- การออกแบบที่ดีคือ ประชาชนไม่มีความเสี่ยง ระบบงานจะต้องสามารถตอบคำถามของประชาชนได้ (การใช้เทคโนโลยี In-Memory Computing)
- สิ่งที่เป็นจุดอ่อนของการพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ คือ 1) การบูรณาการ 2) ยังไม่ให้คุณค่าแก่ประชาชนอย่างแท้จริง
- สิ่งสำคัญที่ควรตระหนักในการพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์คือ การเปลี่ยนแปลงจากการพัฒนาองค์กรหรือหน่วยงานให้ดีขึ้นไปสู่การพัฒนาที่ต้องคำนึงถึงภาคประชาชนเป็นหลัก
- เน้น Citizen centric: ประชาชนจะเริ่มเข้ามามีบทบาทกับการทำงานของภาครัฐมากยิ่งขึ้นซึ่งประกอบไปด้วย citizen collaboration, citizen development, citizen interacting และ citizen communication
- Standardization: การพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ ควรผลักดันในส่วน Standardization ให้เกิดขึ้นเนื่องจากในอนาคตจะเกิดการเชื่อมโยงกันมากขึ้น ทั้งภายในประเทศและการเชื่อมโยงระหว่างประเทศ
- การพัฒนาที่จะต้องเปลี่ยนจาก "e - electronic" ไปสู่ "i - intelligence"
- การปรับเปลี่ยนกฎระเบียบ กระบวนการ, การใช้ เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์ มากยิ่งขึ้น
- การพัฒนาที่จะต้องบูรณาการมากยิ่งขึ้น ซึ่งภาคเอกชนได้ดำเนินการไปแล้ว เช่น บัตรโดยสาร BTS ที่สามารถนำไปซื้ออาหารหรือเครื่องดื่มที่ร่วมรายการได้ เป็นต้น
- Differentiate คือ การนำ IT มา Differentiate ตัวเองหรือองค์กรเพื่อทำให้ประชาชนได้รับผลประโยชน์ไม่ใช่ การนำไอทีมาใช้เพื่อให้ระบบดีขึ้นเท่านั้น
2. People
ผู้ใช้ : ผู้ใช้ทุกวันนี้เริ่มหันมาใช้ IT มากขึ้น จึงไม่เป็นอุปสรรค หากแต่ต้องทำระบบให้ง่ายต่อการเข้าถึง เช่น Facebook เป็นต้น
ผู้พัฒนา : ต้องเรียนรู้เพื่อที่จะเป็นผู้พัฒนา วางแผนในระยะยาว
ผู้ดูแลศูนย์ : ต่อไปจะไม่จำเป็น เนื่องจากในอนาคตเริ่มหันมาใช้ Cloud มากยิ่งขึ้น
หัวหน้าหน่วยงาน, ผู้นำ : เป็นบุคคลสำคัญที่จะผลักดัน e-Government เนื่องจากต้องสามารถคิดบริการ โครงการสำหรับประชาชน เป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยี หากสามารถพัฒนา IT Leader ได้ก็จะสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงได้รวมทั้ง การ Empower ก็เป็นสิ่งสำคัญในอนาคตนอกจากการวัดด้าน Efficiency แล้วควรวัดด้าน Empower ด้วย
ก้าวสำคัญ ก้าวที่มั่นคง และความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้ย่อมเกิดจากปัจจัยที่มีความหลากหลายทั้งในเรื่องของการบูรณาการและการเชื่อมโยงข้อมูลข่าวสารระหว่างหน่วยงานภาครัฐ หรือหน่วยงานที่มีความเกี่ยวข้องเพื่อให้ได้มาซึ่งบริการที่มีความสะดวก รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยมุ่งเน้นถึงความคุ้มค่า ความต้องการและประโยชน์สูงสุดที่ประชาชนจะได้รับเป็นหลัก หรือก็คือการยึดเอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง (Citizen centric)
จากประเด็นดังกล่าวในข้างต้น เพื่อนสมาชิกท่านใดมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติม สามารถร่วมแบ่งปันกันได้นะคะ
ขอบคุณทุกกำลังใจและขอบคุณสำหรับการเยี่ยมชมบันทึกค่ะ
Performance ... อยากเห็นผลลัพธ์ ที่เยี่ยม
Product ... มีคุณภาพ ถูกใจของลูกค้า (People)
Power ... กระจายอำนาจ.... และ อำนาจในการชื้อ / บริการของลูกค้า
Policy .... ต้องชัดเจน ... เป็นไปได้ & เป็นรูปธรรม
ถือว่า.... แบ่งปันความคิดกันนะคะ (Share& Idea) ..... ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณคะ รบกวนขยายความ...การพัฒนาที่จะต้องเปลี่ยนจาก "e - electronic" ไปสู่ "i - intelligence" คืออะไรคะ
ผมว่าเนื้อหาน่าจะมีมากกว่านี้นะครับ ยังมองไม่เห็นว่าจะก้าวไปอย่างไร แล้ว 2T(Technology & Tools) มีอะไรบ้าง ฐานการพัฒฯาสำคัญที่การให้ความรู้และการนำไปใช้ประโยชน์(Utilization) ของ application ต่าง ๆ นะครับ
ขอบคุณ Dr.ple สำหรับการแบ่งปันความคิดเห็น
ขอบคุณ สำหรับการเยี่ยมชมบันทึกและการสอบถามข้อมูลคะหมอ ป.
ทั้งนี้บทสรุปที่ได้จากการรับฟังเสวนา ในส่วนของการผลักดันให้เปลี่ยนจาก
"e-electronic"ไปสู่ "i-intelligence"นั้น เป็นข้อมูลที่ทาง ท่านชัยเจริญ อติแพทย์ นายกสมาคม CIO16 ยกตัวอย่าง แผนการดำเนินงานด้าน e-Government ของประเทศเพื่อนบ้าน
ซึ่งท่านไม่ได้ระบุว่าเป็นประเทศใด โดยแนวคิดดังกล่าวถือเป็นแนวคิดที่น่าสนใจ เนื่องจากปัจจุบันเราจะมุ่งเน้น แค่ e หรือ electronic แต่เราควรมองไกลไปถึง i หรือ intelligence มากยิ่งขึ้น ในเชิงนโยบายแล้วนั้นได้มีการกล่าวไว้ในแผน ICT 2020 ซึ่งจะประกอบไปด้วย intelligence, integration และ inclusion หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะนำมาเผยแพร่และร่วมแบ่งปันกันค่ะ
เรียนคุณ เอกพงศ์
ในส่วนนี้จะเป็นบทสรุปในช่วงเสวนาฯ ข้อมูลจึงค่อนข้างน้อยอาจไม่ตอบโจทย์มากนัก ทั้งนี้สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก http://www.ega.or.th/Content.aspx?c_id=378
สำหรับ เอกสารการนำเสนอสามารถ download ได้จาก http://www.ega.or.th/Content.aspx?c_id=381
สวัสดีครับทุกท่าน
ตามมาเชียร์การทำงาน รออ่านเรื่องดีๆแบบนี้อีกครับ
เป็นการทำงานที่น่าสนใจในการให้พลังของ 2P ขอบคุณมากครับ
ไม่ขอเพิ่มเติมแต่ขอมาเชียร์แทนก็แล้วกันนะคะ
เรามาเชียร์ อ่อนเพลียก็ไม่สำคัญ
เย้ๆๆ
แวะมาทักทายและให้กำลังใจเช่นกันครับผม