มะเร็งถุงน้ำดี ผู้หญิงอ้วน ท้องอืด เป็นนิ่ว ระวัง
นพ.ธีรวุฒิ คูหะเปรมะ ผอ.สถาบันมะเร็งแห่งชาติ
กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข
บอกว่า มะเร็งถุงน้ำดีพบ ได้น้อยกว่ามะเร็งท่อน้ำดีอีก และพบในผู้มีอายุ 50 ปีขึ้นไปแล้ว พบในเพศหญิงมากกว่าเพศชายโดยเฉพาะผู้หญิงรูปร่างอ้วน ส่วนมะเร็งท่อน้ำดีจะพบในเพศชายมาก กว่าเพศหญิง
( ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต)
สาเหตุของมะเร็งถุงน้ำดี
พบว่ามีความสัมพันธ์กับนิ่วในถุงน้ำดี
คือ คนที่เป็นนิ่วในถุงน้ำดีมีโอกาสที่จะเป็นมะเร็งถุงน้ำดีประมาณ 1-4% ขณะเดียวกันคนเป็นมะเร็งถุงน้ำดีจะตรวจพบนิ่วถึง 70-80% ดังนั้นเชื่อว่านิ่วบางชนิดมีส่วนกระตุ้นให้เกิดมะเร็ง เช่น นิ่วที่มีก้อนขนาดใหญ่มาก
3 เซนติเมตรขึ้นไป หรือ ในกรณีที่ถุงน้ำดีอักเสบมีหินปูนเกาะที่ผนังถุงน้ำดี
และมีนิ่วอยู่ เมื่อเอกซเรย์ออกมาจะเห็นเป็นเหมือนกระเบื้องเคลือบ
พวกนี้เสี่ยงสูงต่อการเป็นมะเร็งถุงน้ำดี
ต้องผ่าตัดเอาถุงน้ำดีออก นอกจากนี้มะเร็งในถุงน้ำดีอาจเกิดจากติ่งเนื้อ หรือ โพลิบ ที่เกิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ เมื่อทำการ อัลตราซาวด์ถุงน้ำดี ถ้าพบติ่งเนื้อมีขนาดใหญ่กว่า 1 เซนติเมตร ควรตัดถุงน้ำดีออกเช่นกันเพราะมีโอกาสกลายเป็นมะเร็งสูง
ส่วนสาเหตุของมะเร็งท่อน้ำดี
มักเกิดจากพยาธิใบไม้ในตับ และสารก่อมะเร็งพวกไนโตร ซามีนส์ ซึ่งอยู่ในสารถนอมอาหาร พวกดินประสิว นิ่วในตับก็มีความสัมพันธ์กับมะเร็งท่อน้ำดีในตับเช่นกัน
ผู้ป่วยมักมีอาการเหมือนถุงน้ำดีอักเสบ คือ จะรู้สึกเจ็บปวดบริเวณชายโครงขวา ถุงน้ำดีโต ท้องอืด ปวดท้อง น้ำหนักลด มีไข้ หรือเป็นดีซ่าน ส่วนอาการของมะเร็งท่อน้ำดีมักทำให้เกิดอาการของดีซ่าน มีไข้ และปวดท้อง
ในการตรวจวินิจฉัย
ใช้วิธีการตรวจเลือดดูว่ามีดีซ่านหรือไม่ ใช้อัลตราซาวด์หรือคอมพิวเตอร์ ตรวจดูก้อนในถุงน้ำดี และท่อน้ำดี และในกรณีที่มีอาการอุดตันท่อน้ำดีจะใช้วิธีการตรวจพิเศษ คือ การฉีดสีเข้าไปในท่อน้ำดี เพื่อดูว่าส่วนใดที่มีการอุดตัน และวินิจฉัยแยกจากโรคอื่น การเจาะเลือดเพื่อดูสารที่มะเร็งถุงน้ำดี ปล่อยออกมาที่เรียกว่า ทูเมอร์ มาร์คเกอร์ ก็อาจช่วยในการพยากรณ์โรคและติดตามการรักษาได้
การผ่าตัดเป็นวิธีการรักษาที่ดีที่สุด
มะเร็งถุงน้ำดีจะผ่าตัดโดยตัดถุงน้ำดี และบางครั้งต้องตัดตับบางส่วนพร้อมต่อมน้ำเหลืองรอบข้างไปด้วย มะเร็งท่อน้ำดีจะตัดท่อน้ำดีและอวัยวะข้างเคียงออกด้วย แต่ในกรณีที่ผ่าตัดออกไม่ได้ การผ่าตัดเพื่อบรรเทาอาการดีซ่านก็ยังเป็นวิธีการรักษาแบบประคับประคองที่ดี ที่สุด การลดอาการดีซ่านอาจใช้วิธีใส่ท่อเข้าไปในท่อน้ำดีผ่านทางผิวหนังหรือการผ่า ตัด การให้ยาเคมีบำบัด มักไม่ได้ผลแต่เป็นการบรรเทาอาการ การใช้รังสีรักษา มักใช้ในรายที่ผ่าตัดไม่ได้ แต่เพื่อบรรเทาอาการและประคับประคองเท่านั้น หรือบางครั้งอาจช่วยเสริมการผ่าตัดได้
การตัดถุงน้ำดีออกจะส่งผลกระทบต่อร่างกายหรือไม่? นพ.ธีรวุฒิ
บอกว่าถ้าเป็นนิ่วหรือเป็นโรคอยู่แล้วไม่มีผลกระทบ เพราะถุงน้ำดีใช้การไม่ได้ การตัดถุงน้ำดีออกจะช่วยให้อาการดีขึ้น แต่ในช่วงแรกเวลากินอาหารมัน ๆ เข้าไปจะทำให้ท้องอืด กินแล้วไม่ค่อยย่อย บางคนอาจจะต้องกินยาช่วยย่อยอาหาร ผ่านไปสักพักร่างกายจะมีกลไกทดแทนขับน้ำดีออกมาในปริมาณที่มากกว่าปกติ
ดังนั้นคนที่ผ่าตัดถุงน้ำดีออกไปสักพักจะกินอาหารได้ อย่างไร
ก็ตามบางทฤษฎี ก็บอกว่า การที่ร่างกายขับน้ำดีออกมามาก ๆ อาจเป็นตัวการก่อให้เกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่มากขึ้นหรือไม่ แต่ก็ยังไม่มีข้อพิสูจน์ที่แน่ชัดว่า คนที่ตัดถุงน้ำดีออกไปแล้วจะเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่มากกว่า คนที่ยังไม่ได้ตัดออก
นพ.ธีรวุฒิ แนะนำว่า คนที่อายุ 50 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีรูปร่างอ้วนท้วนสมบูรณ์ทั้งหลาย ถ้ามีอาการท้องอืดอยู่บ่อย ๆ ควรหมั่นไปตรวจร่างกาย ทำอัลตราซาวด์ดูถุงน้ำดี ถ้าพบรอยโรคแต่เนิ่น ๆ จะได้ตัดไฟแต่ต้นลม.
( ขอบคุณ มะเร็งถุงน้ำดี จากหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ )
ด้วยความปรารถนาดี กานดา แสนมณี
ขอบคุณข้อมูลดี ๆให้เฝ้าระวังตัวเองค่ะ คราวหน้าขอจองไปทานอาหารบ้านพี่ดานะคะ
มาเติมความรู้ครับพี่ดา...
ขอบพระคุณครับ
สวัสดีค่ะ
น้องอ.Silaฯ ยินดีค่ะมาแล้วโทร.หาพี่ดานะ
อ.แผ่นดิน ค่ะ มาเติมความรู้ ได้ระวังและบอกกล่าวต่อผู้อื่นด้วยนะคะ
และกานดาน้ำมันมะพร้าว ขอบคุณมากนะคะ
ดอกไม้และกำลังใจจากทุกท่านที่มอบให้ บันทึก มะเร็งถุงน้ำดี ฯ