"ขนมจั้ง"
สมุดภาพอาหารการกินถิ่นใต้
ขอนำเสนอ
"ขนมจั้ง"
"ขนมจั้ง"
- การทำขนมจั้งนั้นยากตรงที่ไปหาใบไม้ใผ่ป่า อย่างอื่นก็ไม่ยาก
- ล้างข้าวหนียว 2-3น้ำ ไม่ต้องแช่ พอสะเด็ดน้ำก็นำด่างมาคลุกให้ทั่ว
- สมัยก่อน ทำน้ำด่างโดยใช้ งวงตาลแห้งมาเผาแล้วนำขี้เถ้ามาแช่ไว้สัก 5-6วัน จึงตักน้ำใสๆมาใช้
- แต่สมัยนี้ ใช้น้ำด่างจากตลาด
- คลุกน้ำด่างให้พอข้าวเหนียวออกสีเหลือง และเม็ดข้าวนิ่มๆ พร้อมที่จะห่อมัดจั้งแล้ว
- ตักหนึ่งช้อนลงกลางใบไม้ใผ่ ใช้สองมือโอบจีบหัวท้ายพับหมุมหมุนพริ้วไปเป็นมุมสามเหลี่ยม
- แล้วดึงเชือกที่ติดกับเสาแคร่มามัด เมื่อได้ขนมจั้งพวงใหญ่
- ก็นำไปต้มในปี๊บเติมน้ำพอท่วม ประมาณ 4ชั่วโมง
- การต้มนานจะช่วยให้ขนมเหนียวดี
- รับประทาน กับ *น้ำผึ้งจาก จึงจะกินดี
* น้ำผึ้งจาก หมายถึง น้ำตาล ที่ทำจาก "ต้นจาก"
* จึงจะกินดี หมายถึง จึงจะกินอร่อย
เพิ่มเติม
มีชื่อเรียกที่สำเนียงอาจจะแตกต่าง ในแต่ละบ้าน ... ก็มี " ขนมจ้าง , ขนมซั้ง , ขนมจั้ง แต่ก็คือ อันเดียวกัน
ขนมจั้ง ค่ะ
<p></p><p></p><p>นารี ชูเรืองสุข </p><p>วันที่ 11 มกราคม 2556</p><p>สวัสดีค่ะ </p>
<p></p><p></p><hr>
<ul>
ความเห็น (11)
สวัสดีค่ะน้องหนูรี
ชอบค่ะ แปลกดี ทั้งใบใผ่ ทั้งใส่น้ำด่าง ตอนแรกที่กินก็อยากรู้เลยว่าเค้าทำกันอย่างไร อย่างเดียวกันกะในข้อมูลที่น้องเขียนมาด้วย หาใส่น้ำเชื่อม ราดกระทิสด และใส่น้ำแข็งใส. อืมม์. กทม. เรียก ".ข้าวต้มน้ำวุ้น"..ที่ทำเอาเด็กปักษ์ใต้เมื่อสมัยเข้ากรุงใหม่ๆวัยรุ่น ..งงๆๆ ว่า ก็ขนมจั่งบ้านเรา นี่นา
เรียกกันหลายชื่อมาก เวลาแซวกันกะน้องๆในกลุ่ม ต้องบอกหลายๆชื่อ ..คนคอน. คนพัทลุง คนสงขลา เรียกต่างๆกัน
ขอบคุณค่ะ ครัวหนูรี เสนอของน่าทาน อิ่มตา อิ่มใจ พร้อมไปกับ ภูมิปัญญาที่แฝงมา.. "หนมจั่ง" (บ้านชุมพรเรียกอย่างนั้น เจ้าค่ะ): -))
ทางอีสานไม่เคยเห็นนะคะพี่หนูรี เคยเห็นครั้งแรกตอนไป กทม.ค่ะ ดูจากสีน่าจะหอมๆ นะคะ คงจะทำยาก ^_^
สวัสดีค่ะอาจารย์วรรณชไม
- "ข้าวต้มน้ำวุ้น" ที่ กทม. จะห่อด้วยใบตอง ห่อม้วนเป็นสามเหลี่ยมจิ้มด้วยไม้กลัดตรงกลาง นำไปนึ่งให้สุกแล้วใส่น้ำเชื่อมอย่างที่อาจารย์เล่ามา
- ขนมจั้ง ที่บ้านถ้ำทะลุ เรียกว่า "หนมซั้ง " เมื่อก่อนนานมาแล้วแม่เคยทำ น้ำด่างที่แม่ใช้ คือ นำเปลือกทุเรียนตากแห้ง นำไปเผาให้เป็นขี้เถ้า จึงเอาขี้เถ้าไปแช่น้ำ ได้น้ำด่างอย่างที่เล่าไว้ในบันทึก
- เดี๋ยวนี้ ด่างจากตลาดเป็นผงสีขาวๆ ...น่าจะเป็นสารเคมี วัตถุเจือปนอาหาร ตัวใดตัวหนึ่ง ซึ่งยังไม่ทราบข้อมูล
- ขอบคุณคนชุมพร จากปัตตานี ด้วยนะคะ ที่มาช่วยแชร์ :)
สวัสดีค่ะน้องดาวblue_star
- เป็นขนมของพื้นบ้านทางภาคใต้ค่ะ น้องดาว
- ห่อด้วยใบไม้ใผ่ กินเปล่าก็จืดๆ ต้องจิ้มน้ำตาลทรายแดงค่ะ
- ทำยากขั้นตอนมากมาย เพียงแค่หาใบไม้ก็ หมดแรงแล้ว
- พี่เองยังไม่เคยทำค่ะ
- ขอบคุณนะคะ
ที่บางแก้ว พัทลุงเรียกขนมซั้งครับ(หนมซั่ง)
ปากยูนก็เรียกหนมซั่งเหมือนบ้านพ่อเขียน (หวันเที่ยงๆ เชื่อมน้ำตาล ใส่น้ำแข็ง ใส่ถ้วย ซดวูดๆ ฮาย สาได้แรงอก)
ของโปรดพี่โอ๋เลยค่ะ เรียกข้าวต้มน้ำวุ้นเหมือนกัน แต่น้องๆคนเกาะยอ คนหาดใหญ่ สงขลาก็เรียกว่าขนมซั่งกันค่ะ เพิ่งรู้ความแตกต่างนะคะ ชอบความเหนียวกำลังดีของข้าวเหรียวและมันเย็นๆเวลากลืน กินแล้วมีความสุขค่ะ
ชอบมากค่ะ นานนนนนนน มากแล้วที่ไม่ได้ทานเลย
ไม่เคยเห็นขายที่ภูเก็ตค่ะ
เม่ื่อก่อนอยู่หาดใหญ่ใกล้ๆ คุณโอ๋ อโณ ทานเป็นขนมหวาน เค้าใส่มาในถ้วย 2-3 ลูก น้ำเชื่อมหอม ๆ น้ำแข็งก่อนเล็กๆ เย็นๆ ชื่นใจค่ะ
เล็กๆ คุณแม่ก็ซื้อให้ทานบ่อยๆ ค่ะ จิ้มน้ำตาล ก็อร่อยเหมือนกันค่ะ
ของโปรดพี่ค่ะ แม่ด้วย
ใส่น้ำเชื่อมนิด น้ำแข็ง ก็อร่อยแล้ว นะคะ
ลืมบอกว่า พี่เป็นลูกสาวคนเดียวที่ห่อขนมจั้งและขนมไหว้ บ๊ะจ่าง เป็น ห่อได้เรียบ ตึง เพราะแม่ให้ฝึกห่อหลายสิบครั้ง ค่ะ
| คุณลุงเขียนเครื่องหมาย ? คำถามเดี่ยว ขอบคุณนะคะ ที่บางแก้ว เรียกว่า ขนมชั้ง |
| พี่โอ๋ โอ๋-อโณ ขอบคุณค่ะพี่โอ๋ แบบใต้แท้กินจิ้มน้ำตาล หากเติมน้ำเชื่อมคือประยุกต์แบบภาคกลาง |
| พี่ ครูอ้อย แซ่เฮ ขอบคุณค่ะ สำหรับดอกไม้ |
| พี่อร Bright Lily อิอิ ต้องกลับมากินที่หาดใหญ่ เดี๋ยวหนูเลี้ยงหนึ่งถ้วย ::)) |
| คุณหมอภูสุภา ว้าว ...ต้องขอชื่นชมนะคะ หนูยังห่อไม่เป็นเลยค่ะ |
| อ. ธ.วั ช ชั ย ขอขบคุณสำหรับดอกไม้ค่ะ |
| บังวอญ่า-ผู้เฒ่า-natachoei-- ซดมากๆไม่ดี เดี๋ยวเบาหวานขึ้น น๊า |
| คุณหยั่งราก ฝากใบ ขอขอบคุณสำหรับดอกไม้นะคะ |
| ทพญ.ธิรัมภา น้องหมอขอขอบคุณสำหรับดอกไม้นะคะ |
| blue_star น้องดาวขอขอบคุณสำหรับดอกไม้นะคะ |
| ...ปริม ทัดบุปผา... คุณปริม ขอขอบคุณสำหรับดอกไม้นะคะ |
| อ. kwancha ขอขอบคุณสำหรับดอกไม้นะคะ |