ช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งสำคัญในขณะนี้ เรื่องความคิดหรือทัศนะของคนเป็นตัวแปรสำคัญในการชี้นำการเปลี่ยนแปลง เพราะมนุษย์มีอะไรหลายอย่างที่ซับซ้อนยากแก่การเข้าใจ ดังหนังสือเรื่อง "สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคน" ของ "วินทร์ เลียววาริณ" ได้เขียนไว้ วันนี้จึงมีเรื่องเล่าอิงหลักจิตวิทยามาฝากดังนี้ แฮริส (Harris) นักจิตวิทยาผู้หนึ่งได้กล่าวถึงทัศนะชีวิตของมนุษย์ว่า มี 4 ทัศนะ คือ ฉันด้อย เธอดี (I ‘m not ok. – you’ re ok.) ฉันด้อย เธอด้อย (I ‘m not ok. – you’ re not ok.) ฉันดี เธอด้อย (I ‘m ok. You ‘re not ok.) ฉันดี เธอดี (I ‘m ok. – you re ok.) คนที่มีทัศนะ I ‘m not ok. – you ‘re ok. จะเป็นคนที่มองตัวเองว่าไม่เอาไหน คนที่มีทัศนะ I ‘m not ok. – you’ re not ok. จะมีทัศนะที่มองโลกในแง่ร้าย มองว่าไม่มีใครดีเลยสักคนเดียวในโลก คนที่มีทัศนะ I ‘m ok. – you’ re not ok. จะมีทัศนะที่ชอบโยนความผิดไปให้ผู้อื่น และคนที่มีทัศนะ I ‘m ok. – you ‘re ok. จะเป็นคนมองโลกในแง่ดี และมีความสร้างสรรค์ วันหนึ่งอาจารย์ไพศาล สอนนิสิตมหาวิทยาลัยในวิชาจิตวิทยา ได้นำเสนอทฤษฎีว่าด้วยทัศนะชีวิตของมนุษย์ดังกล่าว ในตอนท้าย อาจารย์ไพศาลได้กล่าวว่า "ในสังคมมนุษย์ปัจจุบัน คนที่มีทัศนะ I ‘m ok. – you’ re not ok. มีมากเกินเหลือเกิน จนมีผู้กล่าวไว้เป็นโคลง/กลอนมากมาย ใครพอจะยกตัวอย่างโคลง/กลอนที่เกี่ยวข้องกับทัศนะนี้ได้บ้าง” นิสิตผู้หนึ่งยกมือพร้อมทั้งยืนขึ้นแล้วว่าโคลงโลกนิติให้ฟัง “โทษท่านผู้อื่นเพี้ยง เมล็ดงา ปองติฉินนินทา ห่อนเว้น โทษตนเท่าภูผา หนักยิ่ง ป้องปิดคิดซ่อนเร้น เรื่องร้าย หายสูญ” เสียงปรบมือจากนิสิตอื่น ๆ และอาจารย์ดังกึกก้อง อาจารย์ไพศาลกล่าวต่อ “เก่งมาก เก่งมาก มีใครคิดได้อีกมั้ย” ทันใดนั้น อภิชาติก็ยกมือยืนขึ้นว่าเป็นกลอนด้วยถ้อยคำที่ชัดเจน “โทษผู้อื่นมองเห็นเท่าภูเขา โทษของเรามองเห็นเท่าเส้นขน ตดคนอื่นเหม็นเบื่อเหลือจะทน ตดของตนถึงเหม็นไม่เป็นไร”