ผลสัมฤทธิ์..เริ่มที่อนุบาล


กิจกรรมส่งเสริมการอ่าน จะไม่ประสบความสำเร็จได้เลย ถ้าเด็กไม่ได้ซึมซับรับนิทานมาตั้งแต่อนุบาล

         ขออภัย..หากบันทึกนี้ไม่สอดคล้องกับหลักสูตรหรือศาสตร์การจัดประสบการณ์ชั้นอนุบาล อาจทำให้ผู้เชี่ยวชาญหรือครูอนุบาลบางท่าน ไม่ชอบใจ ..เป็นความคิดเห็นส่วนตัวและเป็นประสบการณ์จริงของผมที่พบอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

         ตั้งใจว่าจะเผยแพร่ นวัตกรรมหรือหลักการบริหารจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนขนาดเล็ก กรณีศึกษาโรงเรียนบ้านหนองผือ ทีผมทำแล้วประสบความสำเร็จ มากกว่าร้อยละ ๕๐ โดยใช้ชื่อว่า "ชยันโต..โมเดล" ไม่มีอะไรมาก   ๕ ประการเท่านั้นที่ทำอยู่เป็นประจำ คือ ๑ งานธุรการONE STOP SERVICE ๒ ...ผลสัมฤทธฺิ์ เริ่มที่อนุบาล ๓ ประสานเครือข่ายชุมชน ๔ ....อดทน อดกลั้น  อดออม  ๕..น้อมนำปฏิบัติปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

         ก็ทำมาตลอด ๔ - ๕ ปี ในทุกๆข้อ โดยเฉพาะ    ผลสัมฤทธิ์ ที่จะต้องเข้มที่ชั้นอนุบาล มิฉะนั้น ป๑ - ๖ จะไม่เหลืออะไรไว้ให้ครูและผู้ปกครองได้ชื่นชมเลย

         คราวนี้ พอดีศึกษานิเทศก์มานิเทศที่โรงเรียน..วิจารณ์สมุดการบ้านของเด็กชั้นอนุบาล ๒ บอกว่า ทำงานสะอาดเรียบร้อย ลายมือสวยกว่าเด็กป.๓  เสียอีก ทำได้ไงเนี่ย  จึงทำให้ผู้บริหารต้องตั้งหลักคิดพิจารณา เพื่อตอบโจทย์ข้อนี้ให้ชัดเจน

           ถามตนเองว่า เข้าใจหลักสูตรปฐมวัยพ.ศ. ๒๕๔๖ มากน้อยแค่ไหน  ตอบ..อ่านมามากแล้ว เข้าใจทั้งวัตถุประสงคฺ์ เป้าหมาย แต่เวลาจัดประสบการณ์ให้เด็กจริงๆ ยังต้องคำนึงถึงความพร้อมในทุกๆด้านของเด็ก  โรงเรียนเล็ก ยังต้องดูที่ตัวครู  สื่อ แหล่งเรียนรู้และสิ่งแวดล้อม

         ระยะหลังๆ ครูอนุบาลเอาใจลูกค้า(ผู้ปกครอง)มากๆ เป็นที่นิยมชมชอบกันถ้วนหน้า ที่เห็นลูกอ่านออก เขียนสวย  วันก่อน เชิญตัวแทนผู้ปกครองประชุมเตรียมงานวันเด็ก ต่างพูดว่าลูกเขาที่ขึ้นไปอยู่ชั้น ป.๑  ป.๒ เขียนสวยอ่านคล่อง ขอบคุณทางโรงเรียนที่เอาจริงเอาจัง...กำลังจะมีผู้ปกครองย้ายเด็กมาเรียนในปีการศึกษาหน้า..ว้าว..

         ผมนำสมุดของเด็กอนุบาล ให้ที่ประชุมดูด้วย ประมาณว่ายังเน้นอยู่นะครับ  แต่พอผู้ปกครองกลับไป ผมต้องเรียกครูอนุบาลมาคุยให้เข้าใจตรงกัน แน่นอน ลึกๆ ยังมีความไม่ถูกต้องแฝงอยู่  เดิมๆจะนิเทศโดยใช้สมุดนิเทศ บันทึกชื่นชมครูและให้ครูได้ปรับปรุงแก้ไขในบางจุด คราวนี้ยิงตรง โดยเชิญมาคุยกันต่อหน้าเลย

         บอกคุณครูว่า กรรมการโรงเรียนและผู้ปกครองชื่นชมแนวการสอนของครูยิ่งนัก..แต่ส่วนใหญ่ที่ผมเห็น เวลาครูสอนจะเน้นการอ่านพยัญชนะทั้งไทยและอังกฤษ  อ่านเป็นคำ อ่านสระ วรรรณยุกต์ สะกดตัวผสมคำง่ายๆ และเน้นเขีบนสวย ทำงานสะอาด รอบคอบ ในหลักสูตรไม่ได้บอกไว้ถึงขนาดนี้นะ.....คุณครูอนุบาลมองหน้าผม คงคิดว่าโดนแน่

         ผมว่าต่อ..โรงเรียนอนุบาลชั้นนำ สังกัด สพฐ. เท่าที่รู้ก็ไม่ได้เน้นประมาณนี้เพราะ  หลักสูตรให้จัดประสบการณ์ให้เล่น เตรียมความพร้อมของกล้ามเนื้อทุกส่วน ส่งเสริมพัฒนาการทางร่างกาย อารมณ์ สังคมและสติปัญญา  อ่านเขียนยังไม่ต้อง ดูแลเรื่องกินเรื่องนอนให้ถูกหลักอนามัย..เอาไว้ ป.๑ เทอมแรก ค่อยเตรียมความพร้อมก็ยังทัน

          "สุดท้ายนี้ ที่ผมพูดมาทั้งหมด คุณครูทำถูกต้องแล้ว(และถูกใจผมมาก) ขอให้ตั้งใจทำต่อไป เพราะผมเชื่อในวิวัฒนาการต่างๆ งั้นเขาจะให้ แทบเลต ป.๑ มาทำไม?  และถ้าครูเต้นตามหลักสูตร...กว่าจะถึงประถมฯก็สายเสียแล้ว ที่สำคัญต้องเร่งปูพื้นฐานวิชาการแบบนี้แหละ แต่ทำแบบยืดหยุ่น เรียนปนเล่น สิ่งที่ครูทำ ผู้ปกครองชอบ โรงเรียนอยู่ได้ ที่สุดแล้วครูป.๑ ก็ไม่ต้องอ่อนล้าจนเกินไป"    คุณครูอนุบาลค่อยยิ้มออก...ผมถือโอกาสเสริมต่อ

             ขอฝากคุณครู ๓ เรื่อง ที่เราจะทิ้งไม่ได้และ ลืมไม่ได้เลย ก็คือ

         ๑. กิจกรรมกลางแจ้ง นำเด็กไปเล่นเป็นกลุ่มเป็นทีม เด็กจะได้ฝึกการทำงานร่วมกัน ฝึกกฎ กติกา วินัย มารยาท เด็กจะได้ทักษะชีวิต ทักษะทางสังคม ได้แก้ปัญหา จากการเล่นของเขา (เรื่องนี้สังคมไทยขาดมาก เรื่องทำงานเป็นหมู่คณะ)

        ๒.  กิจกรรมร้องเพลงและเคลื่อนไหว ใช้เพลงสั้นๆ ง่ายๆ ร้องเล่นบ่อยๆ ให้เด็กเลียนแบบท่าเต้นของครู จากนั้นก็คิดท่าเต้นเอง เด็กจะมีจินตนาการ สร้างสรรค์ ได้ฝึกกระบวนการคิด เป็นการปูพื้นฐานให้ได้เรื่องเคลื่อนไหวจังหวะ ทำนอง และรักดนตรี (จังหวะดนตรี กับจังหวะชีวิตเป็นเรื่องเดียวกันที่สำคัญมาก)

         และ ๓.  เล่านิทานให้เด็กฟังบ่อยๆ  นิทาน คือ แก้วสารพัดนึก  การเรียนการสอนเด็กประถมฯจะไม่ประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน- รักการอ่าน ถ้าเด็กไม่ได้ซึมซับรับนิทานมาตั้งแต่อนุบาล ครับ


www.bannongphue.com












หมายเลขบันทึก: 515284เขียนเมื่อ 6 มกราคม 2013 09:29 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 กันยายน 2013 21:27 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (11)

สวัสดีครับ

ถ้านักเรียนได้สัมผัสกับโลกกว้าง ก็จะมีชีวิตที่สมบูรณ์ครับ

การเน้นกิจกรรมทั้งสามเรื่องนั้นสำคัญจริงๆ

มิฉะนั้นนักเรียนก็ยึดเอาแต่เรียนหนังสือเป็นหลัก ลงมือทำอะไรไม่ค่อยเป็น

สวัสดียามเพลจ้ะท่าน ผอ.คนเก่ง ...บางครั้ง บางอย่าง ทฤษฎี เป็นเพียงแนวทางในการดำเนินงานที่มีผู้คิดค้น ปฏิบัติจนประสบความสำเร็จมาแล้ว  ส่วนการนำเอาทฤษฏีมาใช้นั้น  หากไม่มีการดัดแปลง หรือประยุกต์ใช้ ให้สอดคล้องกับบริบทของเราแล้วไซร้  ผลการใช้ทฤษฏีอาจจะไม่เป็นไปตามที่ทฤษฏีว่าไว้ก็ได้....สรุป เห็นด้วยกับท่านผอ.ว่าไว้ทุกประการจ้าาาาา....ซ.ต.พ.

 

...เล่านิทานให้เด็กฟังบ่อยๆ  นิทาน คือ แก้วสารพัดนึก...

From time to time a real-world story would not erode children's ability to imagine, would it?

มาให้กำลังใจในการปลูกฝังเด็กเล็กด้วยความใส่ใจค่ะ

ชอบค่ะแนวคิดท่าน ผอ.เป๊ะ  

ทุกวันนี้หมวยน้อยเรียนอนุบาล 2 ที่ โรงเรียนสอนแบบแม่ต๊กใจ  ได้บวกเลข ลบเลข ไม่ใช่หลักหน่วยนะ หลักร้อย  ชลัญอึ้ง  เขาจะสอนให้ลูกชลัญเป็นเทวดาเปล่านี่  ไม่อยากได้ขนาดนั้นค่ะ อยากให้เน้นวินัย  รู้หน้าที่ มีระเบียบน่ะมากกว่า  แต่ดูเหมือนความต้องการของชลัญจะสวนทางกับผู้ปกครองส่วนใหญ่  น่ะ  ลุกเพื่อชลัญรุ่นเดียวกับหมวยน้อย อยู่อนุบาลต้องเรียนพิเศษทุกวัน  วัน จันทร์ - ศุกร์ เรียนถึง 2 ทุ่ม  เสาร์อาทิตย์เรียน ครึ่งวัน  ชลัญเห็ญแล้วกลุ้ม  เขาคิดอะไรกันอยู่ 

 เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ

เห็นด้วยและชอบมากค่ะ "เรียนปนเล่น เน้นความมีวินัย ใส่ใจสุขภาพ  มากคุณธรรม  .....เด็กน้อยวันนี้คือผู้ยิ่งใหญ่ในวันหน้าค่ะ

ขอขอบพระคุณทุกท่าน

ทุกความรู้สึกและความคิดเห็นที่เป็นเสมือนเพื่อนร่วมเดินทาง

ในเส้นทางการศึกษาและโกทูโนว์ ครับ

แวะมาส่งกำลังใจให้คุณครูผู้น่ารักทุกท่านค่ะ


ถูกต้องแล้วค่ะ เราต้องเตรียมความพร้อมเด็กอนุบาล 2 เพื่อขึ้น ป.1 ในเมื่อพัฒนาการทุกด้านพร้อม คุณครูก็ควรที่จะจัดกิจกรรมการอ่าน การเขียนให้กับนักเรียน เยี่ยมมากค่ะ ขอชื่นชม ถึงจะไม่ได้อยู่ดูแลโรงเรียนแล้วแต่ก็ติดตามความก้าวหน้าของโรงเรียนตลอด ผอ.เยี่ยม คุณสุดยอดค่ะ ฝากความระลึกถึงทุกท่านด้วยค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท