เลาะริมชล ยลของเก่า(๑)


       ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ถือโอกาสไปเดินเลาะริมฝั่งแม่เจ้าพระยา เดินชมวัง ชมวัดไปเรื่อย ๆ แบบสบาย สบาย จ่ายน้อย ๆ ครับ...เริ่มจากปั่นจักรยานมาจอดไว้ปากซอยแล้วก็ขึ้นรถตู้มาลงที่อนุสาวรีย์ชัย ฯ จากนั้นก็คันนี้แหละครับ..


    สนามหลวงคือจุดหมายปลายทาง...จากนี้ไปก็ เดิน เดิน เดิน..ครับ

(คลิกบนภาพเพื่อดูภาพขยายใหญ่ขึ้น)

    เราวางแผนไว้ว่าจะเข้าชมพระบรมมหาราชวัง วัดพระแก้ว วัดโพธิ์ ข้ามฟากไปวัดอรุณ เข้าวังเดิม ออกไปวัดโมลีโลกฯ ข้ามคลองบางหลวง เดินเลาะริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ไปวัดกัลยาฯ ศาลเจ้าแม่กวนอิม วัดซางตาครู้ส อุทยานฉลิมพระเกียรติสมเด็จย่า วัดอนงคาราม วัดพิชัยญาติ แล้วมาข้ามสะพานพุทธ เพื่อขึ้นรถเมล์กลับตามเส้นทางเดิม...
     ถึงสนามหลวง พอลงรถเมล์ก็เจอกระทรวงกลาโหม ซึ่งอยู่ใกล้กับศาลหลักเมืองและศาลเทพารักษ์

ปืน พระพิรุณแสนห่า(ปากกระบอกกว้างใหญ่) ปืน พญาตานี(กระบอกที่๓ตรงกับธงชาติ)

      หลักเมือง

เทพารักษ์ ทั้ง ๕  พระเสื้อเมือง พระทรงเมือง พระกาฬไชยศรี เจ้าเจตคุป เจ้าหอกลอง

        โดยปกติทั่วไปจะต้องเข้าทางประตูพิมานไชยศรีครับ แต่คนไทยสามารถเข้าทางประตูมณีนพรัตน์ได้ 

นักท่องเี่ที่ยวชาวต่างประเทศต้องซื้อตั๋วเข้าชมครับ

    ภายในพระบรมมหาราชวังที่อนุญาตให้เข้าชมคือวัดพระแก้ว หมู่พระที่นั่งต่าง ๆ ชมได้แต่ภายนอกครับ

     วัดพระแก้ว

    หอพระคันธารราษฎร์

พระบรมมหาราชวัง

       หมู่พระมหามณเฑียร ประกอบด้วยพระที่นั่งอัมรินทรวินิจฉัย พระที่นั่งไพศาลทักษิน และพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน สร้างในรัชกาลที่ ๑ ใช้ประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ในราชวงศ์จักรี

     พระที่นั่งสมมติเทวราชอุปบัติองค์เดิม(ด้านหลังของพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท)เป็นสถานที่ประสูติของรัชกาลที่ ๕

พระที่นั่งสุทไธสวรรยปราสาท อยู่บนกำแพงพระบรมมหาราชวัง ด้านถนนสนามไชย


            หลังจากชมพระที่นั่งต่าง ๆ แล้วก่อนจะถึงทางออกจากพระบรมมหาราชวังจะมีพิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เป็นแหล่งความรู้เรื่องผ้า ประวัติ์ศาสตร์เครื่องแต่งกายของไทยในราชสำนักยุคต่าง ๆ รวมทั้งฉลองพระองค์ในสมเด็จพระนางเจ้า ฯพระบรมราชินีนาถ

     จากพระบรมมหาราชวังแล้วก็จะไปวัดโพธิ์...

ใต้ฐานชุกชีพระประธานในพระอุโบสถตรงผ้าทิพย์เป็นที่บรรจุพระบรมราชสรีรางคารของรัชกาลที่ ๑

   ภาพมงคล ๑๐๘ ที่ฝ่าพระพุทธบาทพระพุทธไสยาสน์

ที่วัดโพธิ์นี้มีสิ่งมหัศจรรย์ ๙ สิ่ง ก็พยายามเดินดูให้หมดนะครับ
เจดีย์สี่รัชกาล จากซ้ายไปขวา รัชกาลที่ ๔ รัชกาลที่ ๒ รัชกาลที่ ๑ และรัชกาลที่ ๓

ทุกท่านคงจะเคยได้ยินเรื่องราวของยักษ์วัดแจ้งกับยักษ์วัดโพธิ์มาแล้วนะครับ
ผมดูแล้วยักษ์วัดโพธิ์ตัวเล็กกว่ายักษ์วัดแจ้งครับ...

    ก็ขออนุญาตทานข้าวกลางวันก่อนนะครับ เดี๋ยวจะข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปวัดแจ้งต่อไปครับ....ขอบคุณที่เข้ามาอ่านครับ

หมายเลขบันทึก: 515093เขียนเมื่อ 4 มกราคม 2013 13:02 น. ()แก้ไขเมื่อ 4 มกราคม 2013 13:02 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (15)

ให้กำลังใจครับ จัดรูปภาพได้ดีมากครับ

ใบเสมา วัดพระแก้ว งดงามมาก  


ที่วัดพระแก้วก็มียักษ์เหมือนกัน ...มีเยอะด้วย...


ยืนกันเป็นแถวเลย...


ชมภาพไปด้วยคิดถึงถิ่นเก่าสมัยเป็นนักเรียนโรงเรียนราชินี..ผ่านไปมาทุกวันค่ะ..

เทพารักษ์ทั้งห้า

พระเสื้อเมือง คุ้มครองป้องกันทั้งทางบก ทางน้ำ รักษาบ้านเมืองให้ร่มเย็น

พระทรงเมือง รักษาการปกครอง กระทรวง ทบวง กรมต่างๆ ดูแลทุกข์ สุขประชาชนให้ร่มเย็นเป็นสุข

พระกาฬไชยศรี  บริวารพระยม เป็นผู้นำวิญญาณของมนุษย์ทำบาปไปสู่ยมโลก

เจ้าเจตคุปต์ บริวารพระยม เป็นผู้จดความชั่วร้ายของชาวเมืองที่ตายไป อ่านประวัติผู้ตายเสนอพระยม

เจ้าหอกลอง ประจำหอกลอง ดูแลรับผิดชอบเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในแผ่นดิน ฯลฯ


ยักษ์วัดโพธิ์ตัวเล็กครับ...หลายคนคิดรูปตุ๊กตาจีนตัวใหญ่นี้คือยักษ์วัดโพธิ์


ยักษ์โพธิ์เฝ้าอยู่หน้าประตูทางเข้ามณฑป ครับ  


 เคยไปเที่ยวชมเมื่อนานมาแล้วค่ะ....มาอ่านบันทึกนี้ชักอยากจะไปอีก

ขอบคุณนะคะ

ถ้าเดินเข้าทางช่องทางของนักท่องเที่ยวประตูวิเศษไชยศรี  เข้าวัดพระแก้วก็จะพบกับหมอชีวกเป็นอันดับแรก เจ็บไข้ได้ป่วยอะไรก็ขอพรจากท่านให้หายเจ็บหายป่วยครับ...


วัดโพธิ์ เป็นวัดที่ว่ากันว่ามีเจดีย์มากที่สุด ๙๙ องค์ และเป็นเจดีย์ที่ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบทั้งหมดงดงามมาก ..


แม้กระทั่งเสาไฟฟ้า ก็ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบ...!!!


ขอบคุณข้อมูลจาก Facebook

พระแก้วมรกต
หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
         เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อครั้งท่านพระอาจารย์มั่นพักที่วัดป่าบ้านหนองผือ พระอุปัชฌาย์อุ่น (พระครูบริบาลสังฆกิจ (อุ่น อุตตโม) วัดอุดมรัตนาราม อำเภออากาศอำนวย จังหวัดสกลนคร) ได้ไปกราบนมัสการฟังเทศน์ และได้นำรูปพระแก้วมรกตขนาด 20 นิ้ว เป็นภาพพิมพ์ใส่กรอบไปถวายท่านพระอาจารย์ แต่ดูท่านจะลืมทำความสะอาด เพราะมีฝุ่นจับอยู่ ท่านพระอาจารย์ก็น้อมรับด้วยความเคารพ
         ... หลังจากท่านอุปัชฌาย์อุ่นลาลงกุฏิไปแล้ว ท่านพระอาจารย์ได้ทำความสะอาด โดยนำผ้าสรงน้ำของท่านฯ มาเช็ดถู ผู้เล่า (หลวงตาทองคำ-ภิเนษกรมณ์) เอาผ้าเช็ดพื้นเข้าไปช่วยทำความสะอาดด้วย เพราะเห็นว่าผ้ายังสะอาดอยู่ ท่านหันมาเห็นเข้า พูดว่า 
           "อะไรกัน นั่นรูปพระพุทธเจ้าแท้ๆ ยังเอาผ้าเช็ดพื้นมาถูได้"
ผู้เล่าสะดุ้งไปทั้งตัว เพราะความโง่เขลาปัญญาอ่อน ท่านฯ ก็เลยทำความสะอาดเอง
เสร็จแล้วก็มีเพื่อนภิกษุทยอยกันขึ้นไป รวมทั้งท่านอาจารย์วิริยังค์ด้วย ท่านเลยเทศน์ถึงความมหัศจรรย์ของพระแก้วมรกต ท่านว่า
          "พระแก้วมรกตประดิษฐานอยู่ในประเทศใด ประเทศนั้นจะไม่ว่างจากพระอริยบุคคล พระอริยบุคคลมีอยู่ในประเทศใด ประเทศนั้นจะไม่ฉิบหายด้วยภัยแห่งสงคราม"
          การเสด็จไปสู่สถานที่ต่างๆ ของพระแก้วมรกตนั้นมีปัจจัย 3 อย่าง คือ เพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนา เกิดกลียุคในประเทศนั้น และด้วยความรัก
           และท่านยังบอกอีกว่า วัดพระแก้วนี้เป็นวัดพระพุทธเจ้าโดยเฉพาะ พระสงฆ์อยู่ไม่ได้ เพราะพระสงฆ์มาจากตระกูลต่างๆ ทั้งหยาบทั้งละเอียด ไม่รู้พุทธอัธยาศัย พุทธธรรมเนียม เพราะพระพุทธเจ้าเป็นทั้งกษัตริย์ และผู้สุขุมาลชาติ เมื่อพระสงฆ์ไม่รู้พุทธธรรมเนียม ถ้าไปอยู่ก็มีแต่บาปกินหัว
          ผู้รู้ทั้งพุทธอัธยาศัยและพุทธธรรมเนียมแล้ว มีพระมหากษัตริย์องค์เดียวเท่านั้น ครั้งพุทธกาลก็มีพระเจ้าพิมพิสารเท่านั้นทรงรู้ แต่จอมไทย คือ พระมหากษัตริย์ทรงรู้มาแล้ว ได้ทรงสร้างวัดถวายจำเพาะพระแก้วเท่านั้น
         พระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์เป็นหน่อเนื้อพุทธางกูร คือ จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในกาลข้างหน้า ต่างแต่วาสนาบารมีมากน้อยต่างกันเท่านั้น ท่านจึงทรงรู้พุทธอัธยาศัยเป็นตัวแทนพระพุทธเจ้า ...ผู้ใดย่างกรายเข้าสู่วัดพระแก้วเป็นบุญทุกขณะที่อยู่ในบริเวณวัด
         แม้แต่ชาวต่างชาติ มีโอกาสเข้าไปในบริเวณวัดพระแก้ว จะด้วยศรัทธาหรือไม่ก็ตาม ก็ได้เข้ามาสู่วงศ์พระพุทธศาสนาโดยปริยาย หรือจะบังเอิญก็แล้วแต่ สามารถเป็นนิสัยให้เข้ามาได้ ต่อไปจะสามารถมาเกิดเป็นคนไทย สืบต่อบุญบารมีสำเร็จมรรคผลได้


ขอบคุณมากครับ..คุณ Yong Ico48ิิ   อาจารย์นงนาท Ico48   คุณฺBlue_star  Ico48  อาจารย์รินดา Ico48  คุณเมียวดี  Ico48  และทุกท่าน ๆ ที่เข้ามาอ่านครับ

ขออนุญาตนั่งพักที่ ริมเจ้าพระยา ก่อนครับ...อีกสักพักจะไปต่อ...



สวัสดีปีใหม่ค่ะ ชมภาพเพลินเลย สวยมากค่ะ



ภาพนี้ขอจากคุณบัวชมพูค่ะ ดอยเล็กๆใกล้ดอยหลวงเชียงดาว..



(ภาพจาก http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A2)

๑  คลองลัดแม่น้ำเจ้าพระยา ขุดในรัชสมัยสมเด็จพระไชยราชาธิราช แห่งกรุงศรีอยุธยา พ.ศ.๒๐๗๗ - ๒๐๘๙

๒ คลองลัดแม่น้ำเจ้าพระยา ขุดในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าจักพรรดิ์ แห่งกรุงศรีอยุธยา พ.ศ.๒๐๙๑ - ๒๑๑๑

๓ คลองลัดแม่น้ำเจ้าพระยา ขุดในรัชสมัยขุดในรัชสมัยพระเจ้าปราสาททอง พ.ศ.๒๑๗๙


อีกภาพหนึ่งของพระบรมมหาราชวัง...


พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท