กองทุนเครือญาติวันละบาท


หนึ่งในหลายๆเรื่องที่คุยกันและผลออกมาเป็นรูปธรรมหลังจากที่ความคิดตกผลึกดีแล้ว คือโครงการ "กองทุนเครือญาติวันละบาท"

ผู้เขียนมีเพื่อนที่สนิทอยู่คนหนึ่งแต่อยู่คนละหมู่บ้าน เราคุยกันบ่อยโดยเฉพาะเรื่องของชุมชน เรื่องภายในหมู่บ้าน หนึ่งในหลายๆเรื่องที่คุยกันและผลออกมาเป็นรูปธรรมหลังจากที่ความคิดตกผลึกดีแล้ว คือโครงการ "กองทุนเครือญาติวันละบาท"

เนื่องจากว่าในแวดวงญาติพี่น้องของเพื่อนส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร เป็นแม่ค้ารายย่อยฐานะไม่ได้ร่ำรวยอะไรมากมาย เวลาอยากได้ของ ส่วนใหญ่ก็จะซื้อด้วยเงินผ่อน ก็เป็นที่ทราบกันดีว่าของที่ซื้อด้วยเงินผ่อนราคาจะสูงกว่าซื้อด้วยเงินสด หรือช่วงเปิดเทอมอาจต้องใช้เงินจำนวนมาก เราจึงตั้งกองทุนนี้ขึ้นมาเพื่อแบ่งเบาภาระส่วนนี้

คุณสมบัติสมาชิก ขณะนี้กองทุนรับสมาชิกเฉพาะในแวดวงเครือญาติเท่านั้น  ยกเว้นผู้เขียนที่ไม่ได้เป็นเครือญาติ เขาบอกว่ายกเว้นในฐานะผู้ก่อตั้งกองทุน สมาชิกไม่จำกัดอายุ อายุน้อยที่สุดตอนนี้คือ 3 ขวบ มากที่สุดคือ 59 ปี เดือนแรกที่ทำ มีสมาชิก 16 คน เดือนที่ 2 เพิ่มเป็น 19 เดือนที่ 3 ขณะนี้ มี 24 คน ตอนนี้เราทำมาได้ 3 เดือนแล้ว

หลักเกณฑ์ เนื่องจากว่าเราทำกันในแวดวงญาติๆ หลักเกณฑ์จึงไม่มีอะไรมาก เราแบ่งเป็นหุ้น หุ้นละ 30 บาท (วันละบาท) ส่งเงินเดือนละครั้ง ใครจะส่งกี่หุ้นก็ได้ ค่าหุ้นจะถอนออกหรือยืมเป็นตัวเงินไม่ได้ จนกว่ากองทุนจะมียอดเงินครบ 50,000 บาท จึงจะกู้เป็นตัวเงินได้

การกู้

  • กู้ซื้อของ (ห้ามกู้ซื้อทองคำ)  เราให้ 5 เท่าของค่าหุ้น กล่าวคือ มีค่าหุ้น 100 บาท สามารถกู้ซื้อของได้ 500 บาท ถ้าสมาชิกต้องการซื้ออะไร ให้มาคุยกับกรรมการ กรรมการจะไปติดต่อสืบราคา ดูของ แล้วกำหนดราคาขาย ยอดเงินและเวลาที่ผ่อนกับกองทุนแล้วแต่ตกลงกัน ระหว่างกรรมการกับผู้ขอกู้  ดูความเหมาะสมร่วมกัน 
  • กู้เป็นตัวเงิน กู้ได้ครั้งละไม่เกิน 5,000 บาท ไม่คิดดอกเบี้ย กำหนดส่งคืน ภายใน 3 เดือน การค้ำประกันเงินกู้ ใช้สมาชิกด้วยกัน 2 คน เป็นผู้ค้ำประกันและ 1 ใน 2 ผู้ค้ำประกันต้องไม่ใช่คนในครอบครัวเดียวกัน ถ้าสมาชิกที่ขอกู้ยังไม่บรรลุนิติภาวะ เราจะให้พ่อแม่ใช้สิทธิ์นั้นแทน

วัตถุประสงค์หลักของเราคือ การให้กู้ซื้อของ ส่วนการให้กู้เป็นตัวเงินจะให้กู้ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้นจึงตั้งยอดเงินไว้ค่อนข้างต่ำ การประชุมประจำปี เราจะจัดปีละครั้ง ในรูปแบบวันพบญาติ มีการพบปะสังสรรค์ ทำบุญ เป็นต้น

ผลประโยชน์ กองทุนจะมีรายได้จากกำไรการขายของ  หลังหักค่าใช้จ่ายแล้ว โดยแบ่งเป็น จาก 100 ส่วน เข้ากองทุน 20 ส่วน แบ่งคืนสมาชิกตอนสิ้นปี 77.5 ส่วน ตามจำนวนหุ้น จ่ายซากาต 2.5 ส่วน***

***ซากาตคือ ตามหลักการศาสนาอิสลามถ้ามียอดเงินเก็บถึงจำนวนที่ศาสนากำหนด  และอยู่ในครอบครองเป็นเวลา 1 ปี จะต้องบริจาคตามเกณฑ์ที่ศาสนาระบุไว้ ให้กับ คนยากจน ลูกกำพร้า ครูสอนศาสนาที่ไม่ได้ทำอาชีพอื่น ผู้ที่เข้ารับอิสลาม(มาจากศาสนาอื่น) เงินจำนวนที่ต้องบริจาคนี้ ผู้ที่ต้องบริจาคจะเอามาใช้จ่ายส่วนตัวไม่ได้ เป็นกฏข้อหนึ่งที่มุสลิมทุกคนต้องปฏิบัติ

หมายเลขบันทึก: 51503เขียนเมื่อ 23 กันยายน 2006 22:20 น. ()แก้ไขเมื่อ 30 พฤษภาคม 2012 11:25 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ชื่นชมความคิดริเริ่มนี้มากค่ะ หากเราสามารถขยายวงระบบนี้ออกไปในหมู่เครือญาติอื่นๆ โดยเฉพาะแหล่งที่มีครอบครัวขยายทั้งหลาย นอกจากจะช่วยให้เงินถูกใช้อย่างคุ้มค่า (ไม่ต้องเสียเกินจำเป็น)แล้ว ยังเป็นการช่วยกันคิดให้รอบคอบ ฝึกตนกันไปด้วยให้รู้จักพิจารณาว่าสิ่งของนั้นจำเป็นจริงหรือไม่ (เอาความคิดนี้ไปใช้ ดัดแปลงรูปแบบเล็กน้อย ฝึกในสังคมเล็กๆในบ้าน ก็น่าจะเป็นประโยชน์ดีนะคะ )

น่าสนใจมากๆ ครับ ดอกเบี้ยร้อยละ 77.5 ต่อปี (พิมพ์ผิดหรือเปล่าครับ) เห็นอัตราดอกเบี้ยแล้วตาลุกวาว

คุณ Mitochondria คะ เรื่องผลประโยชน์ มีแก้ไขค่ะ คือเปลี่ยนจาก % เป็นส่วนค่ะ ชัดเจนขึ้นไหมคะ

อีกอย่างลืมพูดถึงค่าใช้จ่าย ค่าใช้จ่ายเรามีน้อยมาก มีแต่ค่าวัสดุ เช่นค่าสมุดบัญชี สมุดประจำตัวสมาชิก เราไม่มีค่าจ้างหรือค่าแรง ทุกอย่างทำฟรีค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท