เมื่อวันก่อนมีโอกาสได้ไปนั่งฟังผู้ใหญ่เค้าคุยกัน เรื่องการจัดทำหนังสือเกี่ยวกับ KM ภาคปฏิบัติของภาควิชาฯ สาเหตุที่ได้ไปฟังเนื่องจาก ท่านอยากฟังไอเดียแปลกๆ จากเรา โถ...ท่านไม่รู้หรอกว่าไอเดียอันบรรเจิดนั่นน่ะ มักจะมาตอนดึกๆ และมาไม่ได้บ่อยๆ (ถือคติ ของดีๆ ย่อมมีน้อย) สรุปเลยได้นั่งฟังไอเดียดีๆ ที่มีไม่จำกัดของท่านอื่นๆ แทน
มีคำถามในวงสนทนาว่า หนังสือ KM แบบไหนที่ใครๆ ชอบอ่าน คำว่าใครๆ ในที่นี้ก็หมายถึงบุคคลทั่วไป (ที่ไม่ได้รู้จักผู้เขียนมาก่อน) ที่มองเห็นชื่อหนังสือ อ่านคำนำ ดูสารบัญ เปิดดูเนื้อหาคร่าวๆ แล้วตัดสินใจซื้อเลย รวมทั้งเมื่อเปิดอ่านแล้วอยากอ่านแบบรวดเดียวจบ ขนาดที่ว่าจะเข้าห้องน้ำยังต้องถือติดมือไปด้วย ไม่อยากให้เป็นหนังสือประเภทที่สร้างความทุกข์ทรมานให้กับผู้อ่าน อ่านไปบ่นไปว่า "เสียดายเงินจังเลย" หรือ "โชคดีนะที่ได้มาฟรี" หรือ "เมื่อไหร่จะอ่านจบล่ะเนี่ย..เล่มหนาจัง" ฟังแล้วให้สงสารทั้งคนอ่านและคนเขียน
ระหว่างที่สนทนากันนั้น ท่านผู้ใหญ่ได้นำหนัง KM เล่มอื่นๆ มาให้ดูเป็นตัวอย่าง รับมาเปิดๆ ดู ก็ทราบได้ทันทีว่า "อ๋อ...แบบนี้หนูไม่อ่านค่ะ" เนื่องจากหนังสือเหล่านี้ส่วนใหญ่จะเป็นวิชาการ ถ้าไม่สนใจใคร่รู้จริงๆ ล่ะก็คงไม่อ่านแน่ๆ (หรือไม่ก็อ่านเพราะจำเป็น "ต้องอ่าน" ) แต่สุดท้ายก็ขอยืมมาเล่มหนึ่งเป็นเล่มเล็กๆ ดูๆ แล้วน่าอ่านดี อ่านแล้ว...ยังไม่จบ..เพราะเผลอหลับ...จนได้ สงสัยว่าจะเข้าไม่ถึง (ไม่ in)
ตกลงก็ยังตอบไม่ได้ว่าตัวเองชอบหนังสือ KM แบบไหน แต่ถ้าเป็นหนังสือประเภทอื่นๆ ตอบได้ทันทีเลยว่าชอบหนังสือที่ผู้เขียนเล่าจากประสบการณ์ของตัวเอง แบบเล่าไปเรื่อยๆ แต่น่าติดตามเพราะเป็นตัวละครที่มีตัวตน มีพัฒนาการไปเรื่อย จากเด็กจนโต มีโน่นนี่ ล้มลุกคลุกคลาน ดีใจเสียใจบ้าง ตามธรรมดาของชีวิตคนจริงๆ ภาษาที่ใช้ก็เป็นภาษาง่ายๆ อ่านแล้วสบายใจ หนังสือแบบนี้บางทีอ่านไปเรื่อยๆ อ่านแล้วเหมือนไม่มีสาระ เหมือนไม่ได้อะไร แต่จริงๆ แล้ว ได้ใจ มันค่อยๆ ซึมซับเข้าไปโดยไม่รู้ตัว โดยที่เนื้อหาไม่ได้บอกว่า สิ่งนั้นดี สิ่งนี้ดี
มีอยู่เล่มหนึ่งที่เพิ่งได้อ่าน intro (คำโฆษณา) แล้วสนใจ หนังสือชื่อ "กว่าจะถึงหลักสี่" เขียนโดยคุณคาร่า พลสิทธิ์ (นางแบบ พีธีกร และนักเขียน) คำว่าหลักสี่ หมายถึงอายุ 40 ปี หนังสือเล่มนี้น่าจะเหมาะสำหรับคน 30up ทั้งหลาย ว่าจะไปหามาอ่าน เผื่อจะได้เขียนแบบนี้ซักเล่ม....ดีมั๊ยนะ
เริ่มต้นด้วยหนังสือ KM ทำไมมาลงท้ายที่เรื่องหลักสามหลักสี่กันล่ะนี่ ขอปิดท้ายด้วยคำถามที่ว่า หนังสือ "KM" สไตล์ไหนที่คุณชอบอ่าน ??
ถ้าครูอ้อยเขียน... ก่อนถึงหลักห้า
คงเป็นเรื่องที่น่าอ่านมากๆ เลย ได้ความรู้ด้านภาษาอังกฤษด้วย แถมเรื่องดูแลสุขภาพอีกต่างหาก
อีกอย่างแฟนๆ กลุ่มนี้เยอะนะคะ
จะรออ่านค่ะ..อ้อ ขอฟรีหนึ่งเล่มนะคะ เป็นค่าไอเดีย...555555
คุณศิริ
หนังสือหลักสี่ ถ้าซื้อและอ่านจบเมื่อไหร่จะให้ยืมค่ะ (แต่ไม่รู้จะได้ซื้อมั๊ย ต้องดูราคาก่อน)
แล้วตกลงชอบหนังสือ KM แบบไหน ยังไม่ได้บอกกันเลย
คุณรัตติยาคะ