กำหนดการรับเกียรติบัตร"สถานศึกษาพอเพียง" โดย รมต.ศธ. เป็นผู้มอบ คือ วันที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๕๕..เย็นย่ำค่ำแล้ว ของวันที่ ๑๘ ธันวาคม ผมเดินเล่นชายหาดของโรงแรม รู้สึกได้ว่ามีความสุข อบอุ่นใจ เดินเตะผืนทรายเล่นไปเรื่อยๆ ปล่อยเวลาให้หมดไป อิ่มเอมกับรสชาติแห่งความสำเร็จในชีวิตการทำงาน กายสัมผัสลมหนาวและไอเย็นจากทะเล ที่คลื่นซัดสาดชายหาดตลอดเวลา..ไม่สนใจฝรั่งต่างชาติที่เดินกันขวักไขว่ ใจผมมุ่งไปที่..ศูนย์การเรียนรู้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง"
"พรุ่งนี้แล้วสินะ ที่ผมจะได้เที่ยวชมนิทรรศการของศูนย์การเรียนรู้..." โรงเรียนที่จะเป็นศูนย์การเรียนรู้ได้ ต้องเป็นสถานศึกษาพอเพียงก่อน เมื่อพร้อมแล้ว ก็สมัครขอรับการประเมิน โดยคณะกรรมการจากส่วนกลาง (ระดับชาติ)
อย่างไรก็ตาม โรงเรียนต้องผ่านการกลั่นกรองเตรียมความพร้อมจากเขตพื้นที่การศึกษาก่อนรับการประเมินเป็นศูนย์ ผมไม่มีข้อมูลมากนัก ตอนนี้ได้แต่ฝันหวาน ประมาณว่า ได้คืบจะเอาศอก..ได้เป็นสถานศึกษาพอเพียงแล้ว แต่อยากไปต่อ พยายามหาเหตุผลให้ตนเอง ว่า คิดไปทำไม และเข้าใจตนเองมากน้อยแค่ไหน..
แต่ที่แน่ๆ สถานศึกษาพอเพียง จะได้รับเกียรติบัตร ส่วนป้าย ศธ.บอกให้ไปทำเอง งานนี้พอเพียงจริงๆ ส่วนศูนย์การเรียนรู้ที่มาจัดนิทรรศการทั้ง ๒๗ ศูนย์ จะได้รับ"ป้าย.."จากรัฐมนตรี ไปติดที่โรงเรียนด้วย
๑๙ ธันวาคม ๒๕๕๕ กำหนดให้รับเกียรติบัตรตอนบ่าย ช่วงเช้าถึงเที่ยง ผมเดินชมนิทรรศการอย่างเพลินเพลิน แต่ใจก็ไม่เป็นสุข เหมือนเมื่อคืนที่เดินเล่นชายหาด จิตไม่ว่างเลย มันเหมือนอยากเรียนรู้ไม่รู้จบ เข้าศูนย์นั้นออกศูนย์นี้ จดบันทึก สัมภาษณ์และถ่ายภาพ หรรษาระคนปนเศร้าอยู่ลึกๆ พอรู้ตัวว่าจิตใจชักจะเตลิด ต้องถอยออกมาแล้วบอกตัวเองว่า "พอ"
เพราะผมดูนิทรรศการ แต่ผมไม่ได้ปล่อยวางงานที่โรงเรียน...ผมไม่ทำให้มันสนุก แต่ไปคิดเปรียบเทียบ และคิดสร้างงานให้ทุกข์ใจไปเปล่าๆ...
ทุกครั้งที่เห็นศูนย์การเรียนรู้ฯที่สดใส อลังการ งานสร้าง..กลับคิดไปว่า เราจะทำได้หรือ..และพบว่า..ไม่มีศูนย์การเรียนรู้ใดเลย ที่เป็นโรงเรียนขนาดเล็ก ที่มีเด็กต่ำกว่าร้อยคน..แค่คิดก็ไปไม่รอดแล้ว..
นั่งนิ่งๆ สักพัก ก็รู้สึกขำตัวเอง..นี่หรือใจ มันกำหนดไปล่วงหน้า และทุกข์ไปล่วงหน้า ทั้งที่ยังไม่ได้ทำ และปัญหาก็ยังไม่เกิด
ถามตนเองว่า.."วันนี้มาทำอะไรเนี่ย มาเพื่อพอเพียง..ก็ควรจบที่พอเพียงสิ..".
เรื่องเล่าจากโรงเรียนเล็ก