ข้าวปั้นทำง่ายๆในเศรษฐกิจพอเพียง


นึกถึงตอนหนึ่งที่เดินทางท่องเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนนานาชาติ ที่ต้องเตรียมอาหารไปกันเอง

คนไทยเตรียม มาม่า ข้าวกึ่งสำเร็จรูป ประเภทเติมน้ำร้อนก็กินได้เลย

เพื่อนฝรั่งเตรียมมาก เป็นกล่องๆ ใส่กล่องโฟมใหญ่ๆ มีทั้งขนมปัง ไข่ต้มสุก แยม เนย เบค่อน ผัก ผลไม้ เป็นเอิกเกริก

แต่เพื่อนญี่ปุ่นสองคน พกข้าวปั้นห่อสามเหลี่ยมไปกิน กับพวกปลาป่น สาหร่าย ส้ม แล้วก็มาเอาน้ำร้อนชงชา เท่านั้น

พอเอามาแชร์กัน แบ่งกันชิม เลยทำให้ได้รู้วิธีทำข้าวปั้นที่จะทำให้เก็บไว้ทานได้สักสองวัน ซึ่งง่ายและคล้ายๆกับข้าวเหนียวปั้นของทางเหนือ

เพียงแต่หุงข้าวญี่ปุ่น พอสุกโรยเกลือพออร่อย โรยงาดำ เสร็จแล้วก็ตักขึ้นมาปั้นในพลาสติก wrap ใส่ใส้ ปั้นขึ้นรูปเป็นสามเหลี่ยมก็เสร็จ เวลากินก็เอาสาหร่ายมาห่อและกินตอนที่สาหร่ายยังไม่เหนียว

การทำใส้มีหลายอย่าง เอาที่ง่ายๆ รีบๆ ก็เอามายองเนสคิวพีผสมกับหมูหยอง คนให้เหนียวเข้ากัน หรืออาจจะเป็นปลาป่นผสมงาตำใส่เกลือเล็กน้อยก็ได้

ตอนที่กินถ้าให้ครบถ้วนสารอาหารจะมีผักด้วยก็ดี เสร็จแล้วก็ปิดท้ายด้วยผลไม้

จำได้ว่าตอนเป็นเด็ก เวลาต้องไปที่ไหนไกลๆเลยมื้ออาหาร ก็ต้องพกข้าวไปเองไม่ได้ซื้อกินกลางทาง ส่วนหนึ่งเพราะว่าฐานะทางบ้านไม่เอื้อให้ไปซื้อกินจนอิ่มได้ทุกคน กับอีกส่วนหนึ่งคือบ้านนอกหาที่กินข้างทางไม่ค่อยมี การห่อข้าวไปนั้นคุณยายจะเอาข้าวเหนียวร้อนๆมาแผ่ให้แบนๆ เติมใส้ที่มักเป็นหมูแห้งๆ หรือปลาย่างตำคลุกเกลือแล้วปั้นคืนให้เข้ารูปกลมยาวคล้ายๆใส้กรอก ห่อใบตองให้ ผักมักเป็นผักสดอย่างกระถิน ถั่วฝักยาวดิบ

พอมาลองทำข้าวปั้นญี่ปุ่นแล้ว คิดว่า ใกล้เคียงกัน ที่จะมีข้าว มีใส้ มีปลาหรือเนื้อแห้ง กินกับผักสด

บอกกับตัวเองว่า จะอยู่อย่างเศรษฐกิจพอเพียงและปลอดภัย ห่อข้าวไปกินเองดีกว่า

ข้าวปั้นแบบเมืองๆหรือแบบญี่ปุ่น ก็น่าจะดี พกพาสะดวกและกินง่ายด้วย

คำสำคัญ (Tags): #adaptation
หมายเลขบันทึก: 50965เขียนเมื่อ 20 กันยายน 2006 16:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน 2012 01:30 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)
  • มารอกินข้าวปั้น
  • สรุปว่าน่ากินมากเลยครับ
  • ขอบคุณครับ
 ตอนหนูเรียนชั้นประถมก็ห่อข้าวไปกินที่โรงเรียนเหมือนกันค่ะ  ที่บ้านกินข้าวเหนียวเลยห่อใส่กระติบข้าวไปเรียนทุกวัน ข้างในกระติบข้าวจะมีข้าวเหนียวแล้วก็ ปลาทู ไข่เจียวบ้าง สลับกันไปแต่ละวัน บางทีกินได้ 2 มื้อคือ มื้อเช้าและมื้อเที่ยงส่วนตอนเย็นกลับไปกินที่บ้านค่ะ

อาจารย์จันทรัตน์

ผมก็นึกถึงข้าวปั้น ที่แม่ผมทำให้ สมัยก่อนเราอยู่บ้านนอก ปลาทูราคาถูกครับ เอาปลาทูมาปิ้งจนหอม และแกะเนื้อปลาทูเป็นใส้ในข้าวเหนียวปั้น กินอร่อยและอยู่ท้องนะครับ

ผมก็โตมาแบบนี้จริงๆ ..ครับ

 

     ทางบ้านผมไม่ค่อยเห็นข้าวปั้นหรอกครับ เห็นแต่ข้าวสวย หุงใหม่ ๆ ห่อใบตองสด หอมมากเวลาแกะทาน ข้าง ๆ ก็วางเนื้อเค็มถ้ามีฐานะหน่อย หากธรรมดา ๆ ก็ปลาทูเค็ม ตอนเด็ก ๆ ไปโรงเรียน ผมนึกฝันว่าเมื่อไหร่นะ ข้าวห่อผมจะมีหมูทอด หรือเนื้อ(วัว)เค็มทอด มาแบ่งปันกับเพื่อน ๆ ที่คดห่อมาด้วยกันบ้าง เพราะเปิดห่อทีไรเพื่อนทายถูกทุกที ไม่ปลาทูเค็ม ก็ปลาสารพัดปลาเค็ม หมุนเวียนกันไป (ในน้ำมาปลา ในนามีข้าว บนบกไม่ค่อยมีหมูกับเนื้อ ครับ)
อ่านแล้วทำให้นึกถึงตอนเด็กๆค่ะ
  • แม่จะฉีกเนื้อไก่ทอดหรือไก่ย่างก็ได้ เป็นเส้นฝอยๆ แล้วห่อด้วยข้าวเหนียว  (บางครั้งก็เปลี่ยนเป็นปลาเค็ม เนื้อย่าง)แล้วปั้นเป็นแท่งยาวๆพอถือกัดได้ ทำให้ลูกๆทานกันค่ะ
  • สิ่งที่แม่ไม่เคยลืมสักครั้งเดียวก็คือ...การกำชับให้ลูกๆ "ไปล้างมือให้สะอาด" ก่อน ค่อยมารับข้าวปั้นของแม่ไปทานได้
  • ขอบคุณ อ.จันทรัตน์มากนะคะ บันทึกนี้ช่วยให้ความทรงจำในวัยเด็กหวนคืนมาได้มากเชียวค่ะ

ขอบคุณทุกท่านค่ะ

ย้อนอดีตกันไป จะน้อยหรือมาก ..ก็ตามวัยที่ล่วงมานะคะ...

แอบย้อนไปถึงวัยประถมสักหน่อยค่ะ

ตอนเป็นนักเรียนประถม เด็กนักเรียนทุกคนห่อข้าวไปกินกันทุกคนค่ะ อาหารที่หรู(ในความคิดตอนเด็กๆ) คือคนที่ห่อข้าวกับไข่เจียว เพราะยุคนั้นน้ำมันที่ใช้คือน้ำมันหมูที่ต้องซื้อ หรือไม่ก็ต้องซื้อมันหมูมาเจียวเองการทำอาหารด้วยน้ำมันถือว่า ยกระดับค่ะ คนทั่วไปกินอาหารปิ้ง ต้ม นึ่ง หมก แอ็บ (เอ๊ะ ไม่ทราบภาคกลางจะเรียกว่าอะไร) เนื้อหมูซื้อแล้วต้องทำกินวันต่อวัน เหลือก็ทำเค็มหรือคลุกเกลือตากแห้ง

พออายุมากขึ้นกลับซื้อกินมากขึ้น แต่ก็ต้องอดทนกับความเค็มไป หวานไป

ระยะหนึ่งเคยเอาปิ่นโตไปซื้ออาหารเพราะเห็นโทษของโฟมและถุงพลาสติกต่อสิ่งแวดล้อม แม่ค้าไม่ค่อยชอบใจ บอกว่าเสียเวลาเขาในการกะปริมาณและการเอาปิ่นโตใส่เถา ขอเพิ่มราคา...ก็ตกลง เพื่อเป็น win-win situation

ตอนนี้เตรียมอาหารไปกินกลางวันบ่อยขึ้น ...เกิดกลุ่มห่อข้าวมากินด้วยกัน ...สองสามคน...สนุกดีแบบผู้หญิงๆ (ที่เริ่มสูงวัย)

สุดท้าย ขอยกบทความของ คุณ Schultz ที่นี่ค่ะ ที่บอกว่า some people cook because they have to. Others cook for love.

หลายๆ ท่านที่เข้ามาให้ความเห็น ..คงเห็นด้วยว่า อาหารที่แม่ของตัวเองทำ อร่อยเสมอ...ก็คงเพราะ เป็นทุกมื้อที่ cook for love ...จริงไหมคะ

  • คุณจันทรรัตน์เล่าได้สนุกเสมอค่ะ รออ่านบันทึกเสมอค่ะ
ไม่อนุญาตให้แสดงความเห็น
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท