ตกเย็นวันที่ ๒๗ ต.ค. ๕๕เราได้ไปที่พระตำหนักธงน้อย ได้ชม เรือขุนน่านซึ่งขึ้นคานอยู่ริมแม่น้ำน่านหลังพระตำหนัก และที่ตื่นตาตื่นใจคือได้ชมการแสดงวิถีชีวิตชาวบ้านในลำน้ำน่าน การแสดงขบวนเรือถวายพระพร จากชุมชนต่างๆ ปิดท้ายด้วยเรือ “พญาคึ" (ผมสงสัยว่าน่าจะเป็น “พญาคฤห์") ลำยาวมาก และชมการแข่งเรือชิงชนะเลิศของจังหวัดน่าน ระหว่างเรือ “นางสาวรจนา" (สีน้ำเงิน)ของบ้านหัวบิน กับเรือ “สร้อยวารี"(สีแดง) ผลคือฝ่ายแรกชนะ สมเด็จพระเทพรัตน์ฯ รับสั่งกับ IAC ฝรั่งว่าเมื่อปีที่แล้วผลก็เป็นเช่นนี้หลังจากนั้นเราได้รับพระราชทานเลี้ยงอาหารเย็น
ดูรูปขบวนเรือและการแสดงได้ ที่นี่ รูปเหล่านี้ดีกว่าที่ผมเห็นและถ่ายรูปได้อย่างเทียบกันไม่ติด เพราะเขาถ่ายใกล้ ผมมองเห็นและถ่ายรูปจากไกลมาก
ตอนแสดงขบวนเรือถวายพระพรและแข่งเรือเป็นเวลาพลบค่ำแล้ว จึงถ่ายรูปยาก แต่เราก็เข้าใจว่าทำไมเขาตั้งใจให้มีงานช่วงมืด เพราะตอนหลังเขาปล่อยกระทงจุดเทียนมาตามลำน้ำสวยงามมาก และตอนค่ำเมื่อจบรายการอาหารเย็นอันยืดยาว เขาก็ปล่อยโคมลอยเป็นขบวนใหญ่ เราได้ชมความงามของแสงไฟทั้งในน้ำและบนฟ้า
งานจบลงด้วยการพระราชทานถุงผ้าบรรจุของขวัญพระราชทานแก่IAC และแขกอื่นๆ
น้ำในแม่น้ำน่านตอนฤดูน้ำหลากระดับน้ำขึ้นสูงกว่าระดับปกติน่าจะถึง ๑๐ เมตร เขาเล่าว่า ในปี ๒๕๔๙ น้ำท่วมขึ้นมาที่พื้นสนามริมแม่น้ำ สูงกว่า ๒เมตร ท่วมอยู่นานเกือบ ๑ สัปดาห์
คณะผู้ตามเสด็จทั้งหมดพักที่ ศศิดารา รีสอร์ท ผมกับสาวน้อยพักที่เรือนไทย ห้อง ๑๐๖ติดกับห้องอาหาร และติดกับบันไดขึ้นชั้นบน ตอนค่ำกลับมาจากพระตำหนักเดินเข้าห้องเสียงกบเขียดที่คูน้ำหน้าห้องร้องประสานเสียงไพเราะมาก
วิจารณ์ พานิช
๒๙ ต.ค. ๕๕
เราไม่มีเวลาชมนิทรรศการเหล่านี้ |
นิทรรศการไก่ต่อ ของวิทยาลัยเทคโนโลยี |
นกแสก (Barn Owl) เลี้ยงไว้กำจัดหนูในแปลงนา |
นิทรรศการวิถีชีวิตริมน้ำ |
นิทรรศการประมงในลำน้ำ |
ตัวอย่างขบวนเรือรำถวายพระพร |
เรือพญาคีลำยาวเหยียด |
บรรยากาศคณะตามเสด็จกำลังชมขบวนเรือ เมื่อปี ๒๕๔๙ ตรงนี้ระดับน้ำท่วมสูง ๒ เมตร |
ขบวนเรือมาจอดหน้าที่ประทับและเปล่งเสียงถวายพระพร |
เดี่ยวไวโอลินโดยเด็กชายอายุ ๗ ขวบ หัดมา ๒ ปี |
ทรงฉายพระรูปกับนักดนตรีและนักฟ้อนที่มาแสดงในช่วงพระราชทานเลี่ยงอาหารค่ำ |
ประทับใจในพระองค์ท่านฯ เสมอค่ะ down on earth ค่ะ
ขอบคุณที่กรุณาแบ่งปันเรื่องราวดีๆ น่าประทับใจนะคะ