วิธีเพาะเห็ดแบบรวดเร็วและประหยัดแรงงาน มอบไว้เป็นมรดกโลก
การปลูกเห็ดกำลังเป็นเกษตรกรรมที่สร้างรายได้ให้เกษตรกรมากโข ในวงกว้าง แต่การบ่มเพาะเห็ดเพื่อการค้า มีกระบวนการที่เหนื่อยยากอยู่ส่วนหนึ่งคือ ช่วงบ่มเชื้อ ที่ต้องให้ความชื้นด้วยการฉีดพ่นละอองน้ำทุกวันเป็นเวลานานนับเดือน
ครั้งหนึ่งผมเคยไปซื้อถุงเชื้อเห็ดมาลองเพาะดู ซื้อมาสองถุง ถุงหนึ่งทำการรดน้ำแบบที่คนขายบอกตามวิธีการมาตรฐาน อีกถุงหนึ่งผมไม่รดน้ำเลย แต่เอาจานใส่น้ำไปวางไว้ก้นถุง (เอาถุงห้อยลอยไว้) ปลากดว่า (ปลาหมอก็คงว่าด้วยแหละ) ถุงหลังนี้ออกดอกใน ๒วัน ส่วนอีกถุงที่ปลูกตามวิธีปกติออกดอกใน ๔ วัน แถมดอกในถุงหลังงามกว่าเสียอีก แถมยังไม่ต้องเสียแรงรดน้ำ ๔ วัน เช้าเย็น
ด้วยเหตุนี้ผมเลยเกิดแนวคิดในการเพาะเห็ดแบบใหม่ดังนี้
1) สร้างโรงเรือนเป็นเรือนทรงกระบอกกลม หรือ ๘ เหลี่ยมด้านเท่า ทำด้วยเสาไม้ไผ่ก็ได้ แล้วหุ้มผนังโดยรอบด้วยผ้าพลาสติกแบบ slant (มีรูพรุน) ส่วนหลังควรคลุมด้วยพลาสติกสีชา หรือทึบ กันแดด ฝน
2) สมมติว่าโรงเรือนมีขนาดเส้นผ่าศก. สัก ๕ เมตร จากนั้นตรงกลางห้องให้ขุดบ่อขนาด ๒ เมตร ลึก 50 ซม. เอาพลาสติกรองก้น เอาน้ำเทลงไปให้เต็ม เอาสุ่มไก่ไปครอบไว้ เอาใส้ตะเกียง หรือเศษผ้าขี้ริ้ว ไปห้อยไว้กับสุ่มไก่ ปล่อยปลายให้จุ่มน้ำจนเปียกโชก
3) จากนั้นพื้นที่วงรอบนอกของบ่อน้ำ ก็เอาลวดหรือเชือก ไปห้อยไว้จากขื่อหลังคาโดยรอบ ห้อยยาวมาถึงพื้นห้อง แล้วเอาถุงเห็ดไปห้อยไว้กับเชือกเหล่านี้อีกที (โดยไม่ต้องทำชั้นวางถุงเห็ดให้สิ้นเปลือง) โดยเชือกเส้นหนึ่งก็ห้อยได้สัก ๒๐ ถุง เชือกสองร้อยเส้นก็อาจห้อยได้ 4000 ถุง
จากนั้นก็ปล่อยเขาเสรี ไม่ต้องรดน้ำเช้าเย็นให้เหนื่อยยาก ทั้งนี้เพราะน้ำจากบ่อตรงกลางจะระเหยออกมาผ่านเส้นผ้าขี้ริ้ว แล้วแพร่กระจายความชื้นออกไปทั่วห้อง
ส่วนการระบายอากาศก็จะดีเพราะผนังเป็น slant ที่มีรูพรุน แดดก็เข้ามารำไรแบบกระจายผ่านรูพรุนของ slant ซึ่งเห็ดมักชอบบรรยากาศแบบนี้
ผลดีของวิธีนี้คือ
-ประหยัดแรงงานและเวลาในการรดน้ำ รวมทั้งประหยัดน้ำด้วย (ประหยัดเครื่องฉีดพ่นด้วย) (ประหยัดสุขภาพคนทำงานด้วย เพราะไม่ต้องไปอยู่ในห้องชื้นๆ อับๆ นานๆ )
-เห็ดได้ความชื้นตลอดเวลา ๒๔ ชม. (เหมือนสภาพป่าจริงๆ ) ทำให้น่าจะร่นเวลาการเพาะปลูก และได้ดอกเห็ดมากกว่า (ดังที่ได้พิสูจน์แบบจานใต้ห่อแล้ว)
-ประหยัดค่าก่อสร้างโรงเรือน (ไม่ต้องมีชั้นวางเห็ด) แถมยังสามารถเดินเข้าไปเก็บเห็ดสะดวก ไม่ต้องเอื้อมมือผ่านขอบชั้น
ให้ฟรีๆ ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ท่านใดเอาไปใช้ได้ผลอย่างไรแจ้งกันด้วย เป็นวิทยาทาน ควรมีการทำวิจัยเสริม โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นความสม่ำเสมอของความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศ
การควบคุมความชื้นให้มากน้อยในช่วงเวลาต่างๆ ก็ไม่ยาก เพียงเพิ่มลดจำนวนเส้นผ้าขี้ริ้ว ก็ได้แล้ว
โชคดีมีเห็ดกิน ขาย กันทั้งปีเด๊อพี่น้องเด๊อ จะได้ไม่ต้องไปรับจ้างเดินขบวน เผาบ้านเผาเมืองเหมือนเก่าก่อน
...คนถางทาง (๑ พย. ๕๕)
กำลังอ่านเพลินๆ แหม! มีประเด็นจิกตอนท้ายจนได้หนออาจารย์เรา
เคยได้ทำทุกขั้นตอนในการเพาะเห็ด ตั้งแต่เอาเนื้อเยื่อเห็ดมาเพาะในข้าวฟ่างนึ่ง และขยายพันธ์เห็ดนางฟ้า นางรม โดยเอาหัวเชื้อเห็ดที่เลี้ยงเต็มขวดข้าวฟ่าง. ออกมาเพาะใส่ท่อนขอนไม้ใหญ่ โดยเจาะรูที่ขอนไม้ขนาดเท่าฝาน้ำอัดลมแล้วเอา เชื้อเห็ดใส่ในรูนั้นแล้วปิดฝารูด้วยฝาน้ำอัดลม โรงเพาะเห็ดต้องมืดๆ ชื้นๆ ตอนรดน้ำ จำได้ว่าเรารดที่ท่อนไม้ค่ะ. . ให้ผลผลิตดีค่ะ แต่ก็ขี้เกียจรดน้ำ. แต่ถ้าเอาหลักการท่านอาจารย์ มาประยุกต์ต่อยอด เราอาจจะต้องให้ท่อนไม้มันยืนจุ่มอยู่ในน้ำ ทำให้ไม้อมน้ำและเปียกตลอดเวลา น่าจะใช้ด้วยกันได้นะคะ แฮะๆๆ. . สายวิทย์ พื้นฐานเกษตรค่ะ
การห้อยถุงเห็ดแบบนี้ จะทำให้ระบายอากาศได้ดีกว่าการวางบนหิ้ง บนชั้นเสียอีก ก็น่านะยิ่งทำให้ได้เห็ดเร็วขึ้น และมากขึ้นกว่าระบบปกติ
ของอาจารย์น่าจะมีภาพให้ดูนะครับ
คือมีความรู้เรื่องนี่น้อยนะค่ะ แต่อยากทราบว่ามีใครลองทำจำนวนเยอะๆแล้วได้ผลบ้าง เพราะการทดลองเพาะเห็ดแค่ สองก้อน เปรียบเทียบกัน รู้สึกค่ะว่าจำนวนน้อยไปบ้าง
คุณ nunoi ก็ลองทำดูบ้างสิครับ แค่คิดผมก็หมดเวลาแล้ว จะให้ผมลองทำด้วยหรือ การเริ่มคิดจุดประกายไฟน้อยนิดมันยากกว่าทดลองเผาป่ามากนักนะครับ
ไม่มีรูปมาให้ดูบ้างคะ อยากลองทำดูบ้าง ขอบคุนนะคะที่มาสอน
ผมอยากเห็นภาพผมนึกภาพตามไม่ออกครับ
ผมสนใจวิธีการเพาะเห็ดในแบบของคุณมาก แต่ยังไม่เข้าใจพอ กรุณาถ่ายรูปลงให้ดูหน่อยหรือ ทิ้งเบอร์โทรไว้อยากรู้ให้แจ่มแจ้ง
สนใจมากค่ะ แต่ไม่ค่อยเข้าใจนัก อ.น่าจะมีภาพประกอบ เขียนเป็นภาพก็ได้ หนูเรียนน้อยน่ะค่ะอาจารย์
เอาเชือกมาผูกเเล้วเอาก้อนเห็ดมามัด อย่างไงครับ นึกภาพไม่ออกจริงๆมันยากกว่าการทำชั้นไหมครับ