จากการที่ดิฉันตัดสินใจไปร่วมงาน ร่วมวงเสวนา “Happy Ba, Happy 8 มิติความดี ความงาม ความสุข”ครั้งที่ ๑ ที่บุรีเทวี อยุธยา ระหว่างวันเสาร์อาทิตย์ที่ ๑๗ – ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ เนื่องจากเคยพบหน้าตามาก่อนแล้ว ทั้ง อ. ดร. ยุวนุชและอาจารย์ศิลา พบว่าอาจารย์มีความสุขภาวะที่ดีและใบหน้าเจือด้วยรอยยิ้มเสมอ คำพูดมีพลังสร้างสรรค์ ผู้พบเห็นก็มีความสุขไปด้วย ทำให้อยากมาเรียนรู้ว่าคนที่มีความสุข มีเทคนิกในการใช้ชีวิตอย่างไร นอกจากนี้ยังเห็นว่าเพื่อนในโกทูโนหลายคนจะมางานนี้ด้วย ทำให้อยากเข้ามา face to face ด้วย
สำหรับตัวเองจะขอกล่าวถึง มิติความสุข ๘ ประการ เพื่อองค์กรสุขภาวะและครอบครัว/สังคมที่มีสุข ที่ตนเองมีโอกาสได้ทำและเรียนรู้กิจกรรมของคนอื่นๆด้วย
-
สุขภาพดี(happy body) ตัวดิฉันเชื่อมั่นว่า การจะมีความสุข สุขภาพกายต้องดี ไม่มีโรค ไม่เจ็บไม่ป่วย ดังนั้นการรับประทานทุกสิ่งต้องเลือกสิ่งที่เป็นประโยชน์ ในวัยเช่นเรา อ้วนง่าย ไม่ควรกินขนมหวาน น้ำตาล ลดข้าว แป้ง อาหารทุกชนิดงดใส่น้ำตาล ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ควรทำอาหารรับประทานเอง งดขนมที่เป็นของว่าง เพราะเราต้องประชุมบ่อย ถ้ากินของว่างทุกครั้ง มีหวังว่าอ้วนแน่ๆ นอกจากนี้เราต้องออกกำลังกายด้วยนะคะ การออกกำลังกาย เราต้องมีหลายแบบ ถ้าออกกำลังกายที่บ้าน เราก็มีเครื่องออกกำลังกายหลายแบบ ทั้งปั่นจักรยาน โยคะ เดิน หรือใช้ไม้พองสำหรับยืดตัว แต่เราควรไปออกกำลังกำลังกายกับกลุ่มที่ทำงานเขาจัดด้วย เช่น แอโรบิค และ โยคะ หรือ เต้นรำ เป็นต้น นอกจากสุขภาพกายของตัวเองแล้ว เราต้องดูแลสุขภาพผู้ร่วมงานด้วย เพราะพยาบาลของเราทำงานหนัก ทำให้โอกาสเครียดสูง ทำให้กินมาก อ้วน สุขภาพไม่ดี เราก็มาจัดรณรงค์การกินอาหารที่ถูกสุขลักษณะ มีการออกกำลังกาย การจัดเลี้ยงในที่ทำงาน ก็จัดหาอาหารสุขภาพ แคลอรี่น้อยมาเลี้ยงกัน เช่น สุกี้ แจ่วฮ้อน หรือ แหนมเนือง เป็นต้น ทำให้พยาบาลบุคลิกดี ไม่อ้วน แต่งชุดพยาบาลแล้วดูดี
-
น้ำใจงาม (happy heart) การมีน้ำใจกับผู้ร่วมงาน มีสวัสดิการเยี่ยมไข้ในที่ทำงาน มีการเยี่ยมญาติของเจ้าหน้าที่ มีการจัดของขวัญเล็กน้อยในวันเกิด นอกจากนี้ยังจัดหาเสื้อทีม เช่น เสื้อกันหนาวของที่ทำงาน ทำให้ผู้ร่วมงานรู้สึกของการทำงานเป็นทีม มีกำลังใจ รู้สึกการเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
-
สังคมดี (happy society) มีกิจกรรมช่วยเหลือสังคมรอบข้าง มีการบริจาคของใช้ที่ยังดี เช่น เสื้อผ้า กระเป๋า เราสามารถนำมาบริจาคที่ทำงาน เพื่อให้ประมูล แล้วนำเงินเข้าสวัสดิการของที่ทำงาน เงินที่ได้ก็นำมาใช้จัดกิจกรรมในหน่วยงานได้
-
ผ่อนคลาย (happy relax) ที่ทำงานของเรา ต้องจัดห้องเจ้าหน้าที่ สำหรับใช้ในการรับประทานอาหารร่วมกัน พักเบรคจากการทำงาน หรือมุมสงบ เพราะการทำงานในระบบสุขภาพ โดยเฉพาะพยาบาลต้องทำงานต่อเนื่อง ในแต่ละวัน บางคนต้องขึ้นเวร 2 กะ ต่อวัน ด้งนั้นต้องทำที่ทำงานให้เหมือนบ้าน ให้คนทำงานมีความสุข
-
ใฝ่รู้ (happy brain) นอกจากจัดที่ทำงานให้เหมือนบ้านแล้ว เราต้องจัดให้เอื้อต่อการเรียนรู้ มีหนังสือประกอบการทำงาน หนังสืออ่านเพิ่มพลังใจ และมีอินเตอร์เน็ต ค้นคว้าเพื่อทำผลงานวิชาการ เพราะ ทุกวันนี้การพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญ
-
ทางสงบ (happy soul) การเป็นพยาบาล จะต้องคุณธรรม จริยธรรมในการทำงานสูง ดังนั้นการส่งเสริมให้บุคลากรมีจริยธรรมเป็นสิ่งสำคัญมากๆ โดยการส่งเสริมบุคลากร ให้มีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมมอบรักด้วยธรรม การพูดคุยแลกเปลี่ยนการดูแลผู้ป่วยแต่ละคน ในแต่ละวัน เพื่อเป็นกรณีศึกษา แม้แต่ตัวเราเองก็ต้องหาเวลาไปเรียนรู้การปฏิบัติธรรม การเข้าร่วมฝึกปฏิบัติที่มีครูอาจารย์สอนธรรมมะ แล้วนำมาปฏิบัติเองที่บ้านได้ด้วย
-
ปลอดหนี้ (happy money) การใช้เงิน ต้องใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียง ถ้าไม่มีความจำเป็นก็ไม่ควรเป็นหนี้ ต้องมีการวางแผนการออมเงินด้วย และศึกษาการบริหารเงินของตนเอง การจ่ายภาษี และอื่นๆ
-
ครอบครัวดี (happy family) แม้ว่าเราจะมุ่งงานเพียงใด การให้เวลากับครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญ เรามีทั้งครอบครัวตัวเอง สามีและลูก 2 คน การให้เวลากับลูก การให้เวลา การให้กำลังใจลูกของเราเพื่อให้เธอเป็นคนที่ดีของสังคมประเทศไทย เป็นภาระกิจของเราด้วยเช่นกัน เรายังมีครอบครัวของเราเดิม คือ พ่อ แม่ พี่ น้องของเรา โดยเฉพาะมีแม่ที่อายุมากแล้ว ต้องดูแลสุขภาพแม่ ต้องหมั่นกลับไปเยี่ยมแม่ เราต้องมีเวลาไปเข้าร่วมกิจกรรมครอบครัวด้วย 1 ปี เราจะมีกิจกรรมครอบครัวเดิม คือ วันสงกรานต์ และปีใหม่ นอกจากนี้เรายังมีครอบครัวของคู่ชีวิตเราอีก ที่เราต้องมีกิจกรรมร่วมกับเขา ดังนั้นการจัดสรรเวลาร่วมกิจกรรมเป็นเรื่องสำคัญ
การดำรงชีวิตของเรา ถ้าเราทำได้ทั้ง 8 เรื่อง เราจะมีความสุขได้ไม่ยากนักนะคะ
แก้ว...
30/10/55