ครูเพื่อศิษย์ส่งเสริมให้ศิษย์สนุกกับการเรียน : 37. เรียนสังเคราะห์และคิดสร้างสรรค์ (2) เปลี่ยนแปลง
บันทึกชุดนี้ ได้จากการถอดความ ตีความ และสะท้อนความคิด จากการอ่านหนังสือ Student Engagement Techniques : A Handbook for College Faculty เขียนโดย ศาสตราจารย์ Elizabeth F. Barkley ในตอนที่ ๓๗ นี้ ได้จาก Chapter 14 ชื่อ Synthesis and Creative Thinking และเป็นเรื่องของ SET 17 : Variations
บทที่ ๑๔ ว่าด้วยเรื่องการสังเคราะห์และคิดสร้างสรรค์ ประกอบด้วย ๗ เทคนิค คือ SET 16 – 22 จะนำมาบันทึก ลปรร. ตอนละ ๑ เทคนิค เทคนิคเหล่านี้ ช่วยให้ นศ. ฝึกความสร้างสรรค์ ซึ่งหมายถึงทักษะในการเชื่อมโยงสิ่งที่ตนรู้อยู่แล้ว กับสิ่งที่เรียนรู้ใหม่หรือที่พบโดยไม่คาดฝัน เกิดสิ่งใหม่ที่กระตุ้นความสนใจ หรือเกิดการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน และ นศ. ได้ฝึกทักษะสังเคราะห์ ซึ่งหมายถึงการนำเอาสิ่งที่รู้อยู่แล้ว กับสิ่งที่เรียนรู้ใหม่ มาผสมกันเป็นสิ่งใหม่ที่เป็นภาพรวมใหม่
SET 17 : เปลี่ยนแปลง
จุดเน้น : ตัวบุคคล
กิจกรรมหลัก : แตกต่างหลากหลาย
ระยะเวลา : หนึ่งคาบ
โอกาสเรียน online : สูง
เป็นเครื่องมือฝึกความคิดสร้างสรรค์ด้วยการจินตนาการแนวทางใหม่ของเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ เช่น เขียนตอนจบของนวนิยายหรือประวัติศาสตร์เสียใหม่ แต่งเพลงที่มีชื่อเสียงท่อนสุดท้ายใหม่ หรือสำเนาภาพวาดที่มีชื่อเสียงมาวาดบางส่วนเสียใหม่
ขั้นตอนดำเนินการ
ตัวอย่าง
วิชาทฤษฎีดนตรีและการแต่งเพลง
ในตอนท้ายของวิชาศาสตราจารย์ผู้สอนวิชานี้ ใช้เทคนิค “เปลี่ยนแปลง” สำหรับสังเคราะห์ความเข้าใจสไตล์ดนตรีในประวัติศาสตร์ ครูจึงเลือกทำนองใน folk song ที่รู้จักกันดี ให้ นศ. เรียบเรียงเสียงตามสไตล์ของนักแต่งเพลงต่อไปนี้ Bach, Mozart, Beethoven, Chopin, Debussy, Bartok, หรือ Ives
วิชาประวัติศาสตร์ความคิดในศาสนาคริสต์และประวัติศาสตร์ศาสนาคริสต์
ศาสตราจารย์ผู้สอนวิชานี้ ต้องการให้ นศ. เข้าใจความแตกต่าง ในความคิดเชิงเทววิทยาในศาสนาคริสต์ จึงเลือกเหตุการณ์สำคัญในช่วงเวลา ๒ พันปี ของศาสนาคริสต์ เช่น the Council of Nicaea, the coronation of Charlemagne, the schism between East and West, the Reformation ให้ นศ. ศึกษาเรื่องราวของเหตุการณ์เหล่านี้จนเข้าใจดีแล้ว จึงจัด นศ. เป็นกลุ่มละ ๕ คน ให้แต่ละกลุ่มอภิปรายกันว่า ประวัติศาสตร์ศาสนาคริสต์จะเปลี่ยนไปอย่างไร หากเหตุการณ์แต่ละเหตุการณ์เปลี่ยนไป เช่นในเรื่อง Reformation ครูตั้งคำถามว่า จะเกิดอะไรขึ้น หาก Martin Luther ไม่ถูกขับออกจากศาสนาคริสต์ในข้อหาประพฤตินอกรีต การให้ นศ. ลองจินตนาการเหตุการณ์ที่แตกต่างเช่นนี้ จะช่วยให้เข้าใจความสำคัญของแต่ละเหตุการณ์ในอดีต
การปรับใช้กับการเรียน online
เทคนิคนี้ปรับใช้ online ได้ง่าย โดยมอบเป็นงานให้ นศ. ทำ โดยนอกจากให้เปลี่ยนแปลงข้อความแล้ว ยังอาจให้เปลี่ยนแปลงสิ่งที่เป็นกราฟิก ก็ได้ หรือแม้กระทั่งโมเดล ๓ มิติ โดยให้ส่งชิ้นงานทางไปรษณีย์ก็ได้
การขยายวิธีการ หรือประโยชน์
· อาจให้ นศ. ทำงานเป็นทีม ๒ คน หรือกลุ่มย่อย
· อาจให้โจทย์ให้ นศ. เปลี่ยนแปลงหลายตอน
· อาจให้ นศ. นำเสนอผลงานในชั้น หรือเอาขึ้นเว็บ หรือทำเป็นโปสเตอร์นิทรรศการ (SET 20) หรือทำเป็นหนังสือของชั้น (SET 21)
· แทนที่จะให้เปลี่ยนแปลง อาจให้ นศ. เสนอมุมมองต่อเรื่องใดเรื่องหนึ่งจากหลากหลายมุมมอง เช่นใช้กระบวนการที่เรียกว่า “Cubing” คือมองด้วย ๖ มุมมอง ได้แก่ (๑) อธิบาย (๒) เปรียบเทียบ (๓) เชื่อมโยง (๔) วิเคราะห์ (๕) ประยุกต์ (๖) โต้แย้ง
คำแนะนำ
นศ. ที่ไม่ชอบสร้างสรรค์อาจไม่ชอบกิจกรรมนี้ ครูควรอธิบายว่าความริเริ่มสร้างสรรค์เป็นกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง นศ. ไม่ควรกังวลเรื่องถูก-ผิด ดี-ไม่ดี การทำแบบฝึกหัดนี้ก็เพื่อฝึกฝนเรียนรู้
ใช้การระดมความคิด เพื่อสร้างแนวความคิดเพื่อการเปลี่ยนแปลง
อาจเริ่มด้วยแบบฝึกหัดสั้นๆ ง่ายๆ ก่อน
เอกสารค้นคว้าเพิ่มเติม
www.unc.edu/depts/wcweb/handouts/brainstorming
วิจารณ์ พานิช
๒๓ ต.ค. ๕๕