รามเกียรติ์ ตอนที่ ๑๕ มัยราพณ์


ฉบับ ดร.สัตยพรต ศาสตรี เป็นต้นเค้าในการเรียบเรียง และฉบับนี้ก็นำมาจากของรัชกาลที่ี ๑ มาเป็นต้นเค้าอีกทีนะครับ

 

รามเกียรติ์

ตอนที่ ๑๕ มัยราพณ์

สรคะที่ ๑๓

              เมื่อหนุมานผู้ชาญฉลาด  ได้ขจัดอุปสรรคเรียบร้อยแล้ว  ก็สามารถสร้างสะพานข้ามมหาสุมทรสำเร็จทันเวลา  และได้ให้เหล่าเสนาล้อมเมืองลงกาไว้ทุกด้าน

 

            ทศกัณฐ์ปรารถนาที่จะมีชัยชนะ โดยไม่ต้องรบ  จึงได้คิดถึงจึงมัยราพณ์ ผู้เป็นสหมิตร  ผู้ครองเมืองบาดาล และผู้กล้าหาญ  อันเป็นที่รู้จักกันดีว่า  เป็นบุคคลผู้หาใครปราบได้ยาก

 

            ทศกัณฐ์ได้ขอร้องให้มัยราพณ์  ผู้เป็นวีรบุรุษผู้ประเสริฐ  ได้ช่วยฆ่าองค์รามผู้เป็นศัตรูของข้าพเจ้า

 

           มัยราพณ์   ยึดถือถ้อยคำของเพื่อนเป็นสิ่งสำคัญมาก   จึงได้มายังสถานที่ที่พระรามและเหล่าทหารพำนักอยู่  มัยราพณ์เจ้าเมืองบาดาล  ได้สะกดกองทัพพระรามด้วยฤทธิ์อำนาจให้หลับ  แล้วนำเอาพระรามผู้หลับอยู่ไปยังเมืองบาดาล

 

            มัยราพณ์ต้องการโยนพระรามลงไปในน้ำร้อน  เพื่อหวังว่าพระรามจักถึงซึ่งความตาย  เมื่อคิดได้ดังนั้น  พลังอำนาจของมัยราพณ์ได้เสื่อมไป

 

             เหล่าหทารผู้เป็นบริวารแห่งองค์ราม  ได้ตื่นขึ้น  พากันงงงวย  เมื่อไม่เห็นองค์รามในที่นั้น  มีเพียงแต่พิเภกผู้เดียวเท่านั้น  ที่รู้ได้  ด้วยดวงแก้วอันเป็นทิพย์

 

            พิเภกได้พูดขึ้นกลางหมู่เสนาขององค์รามว่า  พระรามได้ถูกมัยราพณ์เจ้าเมืองบาดาล  ลักพาองค์รามผู้ประเสริฐไปยังสถานที่ของมัน  ด้วยกลมายา

 

               ในระหว่างพวกเราทั้งหมดนั้น  มีเพียงหนุมานร่างเพชรผู้เดียวเท่านั้น  ที่สามารถไปยังเมืองบาดาลได้   อันเนื่องมาจากที่อาศัยของยักษ์นั้น  ได้แวดล้อมด้วยงูใหญ่

 

               ครั้นหนุมานได้ฟังถ้อยคำของพิเภก  ผู้เสียสละ  หนุมานได้เหาะขึ้นไปในอากาศแล้วมุ่งหน้าไปยังเมืองบาดาล  ที่กลางระหว่างทางได้พบสระแห่งหนึ่ง รอบขอบสระบัวมีลักษณะคล้ายล้อรถ  หนุมานจึงได้ถอนขึ้นมา  เพื่อที่จะดำลงไปตามช่องนั้น จนพบอีกสระหนึ่ง   ณ ที่นั้น  ได้รับการดูแลรักษาจากมัจฉานุ  ผู้เป็นลูกชายของหนุมาน อันเกิดจากนางสุพรรณมัจฉา

 

             ครั้นเมื่อนางสุพรรณมัจฉาได้ปล่อยลูกไว้ที่ฝั่งมหาสมุทร  มัยราพณ์  เจ้าเมืองบาดาลได้มาพบเข้า  จึงได้นำมัจฉานุ  ไปยังเมืองบาดาล  และรับมัจฉานุเป็นบุตรบุญธรรม  เลี้ยงดูมัจฉานุจนเติบใหญ่อย่างมีความสุข 

 

              มัจฉานุ ผู้ผ่องใส  ได้เจริญวัยขึ้น  มีฤทธิ์มาก เหมือนการตติเกยะ และเป็นผู้อันบิดาไม่เคยเห็นมาก่อน  จึงทำให้ไม่มีความสนิทกันระหว่างพ่อและลูกเลย

 

               มัจฉานุได้ยืนชื่นชมดอกไม้อยู่  เห็นหนุมานก็รู้สึกแปลกใจ จึงได้เข้าไปขัดขวางต่อต้านหนุมานทันที 

 

               เมื่อหนุมานวานรถูกมัจฉานุ  เข้ามาขัดขวาง  การสู้รบอันดุเดือนจึงเกิดขึ้น ทั้งสองต่างพากันใช้อำนาจฤทธิ์และความกล้าของตนออกมา แต่ทว่าทั้งสองก็ไม่สามารถที่จะชนะกันได้  จึงได้รู้สึกแปลกใจ 

 

               ทั้งสองต่างมองดูกันและกัน  และได้เห็นความคล้ายคลึงกันเป็นอันมาก  แล้วจึงได้สนทนากัน  โดยหนุมานได้ถามมัจฉานุว่า คือใคร เป็นลูกของใคร  เจ้าถึงได้มีฤทธิ์เดชมากเพียงนี้ ?

 

                  ครั้นได้ฟังคำนั้น มัจฉานุหัวเราะ  ได้ตอบกะหนุมานว่า  ข้านี้แหละ คือลูกของหนุมานบุตรพระพาย  ผู้มีชื่อเสียงก้องโลก ข้าเกิดจากนางสุพรรณมัจฉา ผู้เป็นธิดาของท้าวทศกัณฐ์

 

                   หนุมานได้ฟังดังนั้น  รู้สึกยินดีปรีดายิ่ง  และได้กล่าวถ้อยคำกะมัจฉานุ  มัจฉานุรู้สึกไม่ดี  ที่ตนเองได้เคยใช้สองมือของตนในการประหัตประหารบิดา  จึงได้ใช้แขนทั้งนั้นกอดรัดบิดาไว้

 

                   ครั้นกอดรัดบิดาเสร็จ  มัจฉานุได้เอามือแตะเท้าของบิดา แล้วขอโทษบิดา  พร้อมทั้งกับก้มศีรษะลงด้วยความเคารพ  หนุมานได้จูบศีรษะของมัจฉานุผู้เป็นลูก  ความสนิทกันจึงได้เกิดขึ้น

 

                    หนุมานได้เล่าเรื่องราวให้มัจฉานุรู้ถึงสิ่งที่ตนได้กำลังค้นหา  จึงได้ลงมายังเมืองบาดาลนี้  มัจฉานุมีจิตกังวลมาก  ไม่รู้ว่าสิ่งใดที่ตอนควรทำและไม่ควรทำ  เพราะว่า  ถ้าบอกทางแก่หนุมานผู้เป็นพ่อ  มันก็จะไม่ยุติธรรมต่อมัยราพณ์ผู้ชุบเลี้ยงตนมาเสมือนลูก

 

                  และถ้ามัจฉานุไม่บอกทาง  มันก็ไม่ยุติธรรมแก่พ่อ  อันเป็นที่รักของข้า  ซึ่งข้าก็เป็นลูกแท้ ๆ มัจฉานุได้สำรวมจิตและตัดสิ้นใจ โดยกล่าวออกมาเป็นคำพูดสั้น ๆ ว่า พ่อไม่อาจจะไปต่อไป  ตามวิถีทางที่พ่อได้มาถึงที่นี้

 

              หนุมานเข้าใจความคิดของมัจฉานุทันที  หนุมานได้ถอนบัวขึ้นมาก้านหนึ่งแล้วกระโจนลงไปในร่องก้านบัวนั้นทันที

 

 

หมายเลขบันทึก: 506202เขียนเมื่อ 19 ตุลาคม 2012 15:21 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 เมษายน 2014 19:34 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

 ต่างมองดูกันและกัน  และได้เห็นความคล้ายคลึงกัน  ...  ตรงนี้สำคัญ นะคะ  ... คนที่ทะเลาะกัน .... บ้างครั้ง.... เพียงต่างที่มุมมองเท่านั้นเอง... ถ้ากลับมุมมองใหม่... ให้เป็นความเหมือน ก็คงจะดี ไม่ทะเลาะกัน นะคะ

ขอบคุณนะคะ

ขอบคุณพี่เปิ้นและอาจารย์ชยพรนะครับ

สำหรับกำลังใจและ Comment ดี ๆ ครับ 

 

ขอบคุณครับ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท