เรื่องเล่า ของคุณเชิงชาย เรือนคำปา นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร 6 ว . สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองกำแพงเพชร ทำหน้าที่เป็นเลขานุการคณะกรรมการศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรประจำตำบลนาบ่อคำ อำเภอเมืองกำแพงเพชร เล่าประสบการณ์ต่อจากคุณสายัณห์ ปิกวงค์ (ลิงค์อ่านเรื่องเล่าคุณสายัณห์)ในงาน "ตลาดนัดความรู้...ขององค์กรแห่งการเรียนรู้" ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ในวันที่ 7 กันยายน 2549
คุณเชิงชาย เรือนคำปา เล่าว่า ได้นำการจัดการความรู้ไปใช้ในการทำงานร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คือ อบต.นาบ่อคำ ได้นำแนวคิดการจัดการความรู้ไปสู่งานประจำ ในเบื้องต้นการทำKMหากพูดในหน่วยงานใหม่ๆ จะเกิดการต่อต้าน บางหน่วยงานก็ไม่ยอมรับ การทำKMนั้น CKOจะต้องยอมรับ และเข้าใจ คือคุณเอื้อจะต้องอำนวย ต้องมีการสร้างการยอมรับและสร้างทีมงาน
กรมส่งเสริมการเกษตรได้ถ่ายโอนภารกิจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแล้ว คงเหลือภารกิจของภัยธรรมชาติและการถ่ายทอดเทคโนโลยีเท่านั้นที่เป็นภารกิจที่เหลืออยู่ของกรมส่งเสริมการเกษตร การถ่ายทอดความรู้นั้นก็เพื่อให้เกษตรกรเกิดรายได้ทำไปเรียนรู้ไปก่อให้เกิดรายได้และมีความยั่งยืนในการประกอบอาชีพการเกษตร
เมื่อรู้จักคำว่าKM ก็รู้สึกเสียดายความรู้ที่ได้ทำมา เพราะประสบการณ์การทำงานประมาณ 20 ปี ไม่ได้มีการจดบันทึกหรือจัดเก็บความรู้ไว้เลย ความรู้ก็จะตายไปพร้อมกับเกษตรกรเจ้าของความรู้ ในปี 2548 เมื่อได้ยินคำว่าKMแรกๆ ก็ไม่ยอมรับKM ต่อมาเมื่อเดือนมีนาคม-เมษายน 2548 คุณสายัณห์ และคุณวีรยุทธ ได้นำแนวทางการทKMมาพัฒนาสู่ภาคปฏิบัติ จากเดิมทำงานกับเกษตรกรโดยการสอน ทำแปลงทำสอบในโรงเรียนเกษตรกร การศึกษาดูงาน การถ่ายทอดเทคโนโลยีฯ คือให้เกษตรกรได้รับความรู้ แต่กลับไปจะไปปฏิบัติหรือไม่ไม่ทราบ
ภาพใหม่ของการทำงานคือการร่วมกันออกแบบเป็นระบบมากขึ้น เกษตรกรได้ ลปรร.เรียนรู้และนำไปปฏิบัติได้ ตัวอย่างทำนำKMไปสู่การปฏิบัติร่วมกันกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คือ
1.โครงการส่งเสริมการเลี้ยงโคเนื้อ ในอดีตหากทำกิจกรรมเช่นนี้ก็เพียงแต่ซื้อพันธุ์โคมาแจกก็จบ แต่ใช้กระบวนการKM ต้องมีการหาทีมงาน ร่วมกันระดมความคิดเห็นว่าจะทำกันอย่างไร ขณะนี้มีโค 292 ตัว จัดให้เกษตรกรยืม เมื่อได้ลูกแล้วคืนแม่ให้เกษตรกรคนอื่นยืมต่อ ซึ่งก็สามารถแก้ไขปัญหาความยากจนก่อนที่รัฐบาลจะทำเสียอีก
2. ส่งเสริมการเพาะพันธุ์ปลาในท้องถิ่น ในอดีตก็เช่นเดียวกันกับโค ก็ซื้อแจก แต่ปัจจุบันมีการศึกษาร่วมกัน จัดอบรมให้ความรู้แก่เกษตรกร เกิดการ ลปรร. ได้ความรู้นำไปสู่การปฏิบัติ เกิดสถานที่เพาะพันธุ์ปลา เกษตรกรมีการเพาะพันธุ์กันเองได้แล้ว เริ่มที่สมาชิก อบต.ฝึกอบรมการเพาะพันธุ์ปลาก่อน แล้วจัดให้เกษตรกรมาเรียนรู้ ลักษณะของโครงการหรือการทำงานก็เปลี่ยนไป จาก ซื้อ-แจก-จบ มาเป็นให้ความรู้ เกษตรกรนำความรู้ไปปฏิบัติ หาวิธีการปฏิบัติ
การจัดการความรู้นั้น ต้องมีทีม และทีมต้องแบ่งหน้าที่ให้ชัดเจน จัดเก็บความรู้หรือคลังความรู้สามารถนำมาใช้ประโยชน์ แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นก็ยังจะมีการพัฒนาและปรับรูปแบบการทำงานต่อไปอีก
<p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"> ขอรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่</p><p> คุณเชิงชาย เรือนคำปา
สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองกำแพงเพชร
ตำบลในเมือง อำเภอเมืองกำแพงเพชร
จังหวัดกำแพงเพชร 62000
055-711660</p><p>
บันทึกมาเพื่อการ ลปรร.
วีรยุทธ สมป่าสัก</p>
ไม่มีความเห็น