รามเกียรติ์ ตอนที่ ๔ กำเนิดนางสีดา


ฉบับ ดร.สัตยพรต ศาสตรี เป็นต้นเค้าในการเรียบเรียง และฉบับนี้ก็นำมาจากของรัชกาลที่ี ๑ มาเป็นต้นเค้าอีกทีนะครับ

รามเกียรติ์ 

ตอน  กำเนิดนางสีดา

สรคะที่ ๔

          นนทก  เมื่อได้เกิดเป็นทศกัณฐ์แล้ว  ก็ได้ครอบครองเมืองชื่อว่า "ลงกา"  โดยมีมหาสมุทรเป็นขอบเขต

 

          ในบรรดาพระมเหสีทั้งหลาย   มีพระนางมณโฑทรงเป็นพระมเหสีที่ทศกัณฐ์รักมากที่สุด   และทศกัณฐ์ก็ได้นับถือยำเกรงถ้อยคำของนางมาก

 

        เมื่อพระนางมณโฑ  ได้กลิ่นก้อนข้าวและประสงค์ก้อนข้าวนั้น   ทศกัณฐ์ก็จะรับสั่งให้นางยักษ์ที่ชื่อว่า "กากนาสูร"  ไปนำก้อนข้าวมา

 

         ครั้นนางยักษ์กากนาสูร  จะไปนำก้อนข้าวมา  ก็จะแปลงรูปกายเป็นกาแล้วบินไปยังแคว้น อุตตรโกศล  เพื่อคาบก้อนข้าวนั้นกลับมาครึ่งก้อน  แล้วนำมาถวายแก่ท้าวทศกัณฐ์  และพระองค์จึงได้ประทานก้อนข้าวนั้นแก่พระนางมณโฑ

 

        กาลครั้งกระนั้น  พระนางมณโฑได้เสวยก้อนข้าวเสร็จแล้วก็ทรงครรภ์  และต่อมาจึงได้ประสูติพระราชธิดา อันมีลักษณะพิเศษ 

 

          พระราชธิดานั้น  พอประสูติออกมา  ได้ทรงร้องบอกว่า “ขอให้ทศกัณฐ์ จงถูกฆ่า” ถึงสามครั้ง  พิเภกผู้เป็นโหราจารย์  ผู้ฉลาดในคัมภีร์  เป็นคนแรกที่ทราบและคิดว่า  พระราชธิดาพระองค์นี้   ได้ทรงทายถึงวงศ์ตระกูลของทศกัณฐ์และเมืองลงกาว่า  จะถึงกาลพินาศ

 

       ครั้นทศกัณฐ์ได้สดับคำนั้นแล้ว ก็ทรงตกพระทัยกลัว  และให้พิเภกผู้เป็นพระอนุชาจัดการพระราชธิดาพระองค์นี้

 

         พิเภกได้เอาพระทาริกาใส่ลงไปในผอบ  แล้วสั่งให้สาวใช้นำผอบนี้  ไปทิ้งลงในแม่น้ำโดยเร็ว

 

          ครั้นสาวใช้  ได้นำผอบไปเหวี่ยงลงในแม่น้ำ  ปรากฏว่าผอบนั้น  ไม่สามารถจมลงไปในแม่น้ำได้   เพราะทาริกานั้น  ก็คือพระนางลักษมีผู้อวตาร   ด้วยอำนาจของพระนางจึงทำให้เกิดมีดอกบัวขึ้นมากลางแม่น้ำ   เพื่อรองรับผอบนั้นไว้

 

         ณ  ริมฝั่งแม่น้ำ  พระราชาฤษี  (พระราชาผู้ถือเพศเป็นฤษี)  พระนามว่า ชนก  ได้ทรงเห็นผอบอันตั้งอยู่บนดอกบัว  จึงทรงเปิดผอบออก  และทรงเห็นเด็กหญิงผู้เกิดใหม่ในผอบนั้น

 

          เทพธิดา  นามว่า  มณีเมขลา  ผู้อาศัยอยู่ในแม่น้ำ  ได้อุ้มทาริกาแล้ววางไว้บนตักของพระราชาฤษี   พระราชาฤษีก็ทรงทราบได้ว่าทาริกา  ผู้นี้ก็คือ  พระนางลักษมี  ซึ่งมาปฏิสนธิในโลกนี้  และด้วยเหตุนี้  จึงสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้  และไม่ได้รับอันตรายใด ๆ

 

         พระราชาฤษีไม่ประสงค์ที่จะทำลายตบะ  จึงได้นำผอบนั้นเข้าไปในป่า  และได้ขุดหลุมไว้ที่โคนต้นไม้ตนหนึ่ง  หลังจากนั้นพระองค์ก็ทรงสวดอ้อนวอนต่อเทพยดาทั้งหลายว่า  ถ้าทาริกานี้  เป็นพระมเหสีของพระนารายณ์ผู้ทรงอวตารแล้วไซร้  ขอให้ดอกบัวจงผุด  และก็ได้ปรากฏขึ้นเป็นดอกบัว ณ ที่นั้นทันที

 

        ต่อจากนั้น  พระราชาฤษีก็ทรงสวดอ้อนวอนขอร้องเทพยดาทั้งหลาย  ขอให้ความสวัสดีและความปลอดภัยจงมีแก่ทาริกาผู้นี้  เมื่อสวดเสร็จพระองค์ก็ได้เสด็จกลับไป  เพื่อบำเพ็ญตบะอีก

 

          เมื่อกาลผ่านพ้นไป ๑๖ ปี  พระราชาฤษีก็สามารถบำเพ็ญตบะอย่างแรงกล้า  แต่ก็ยังไม่สมประสงค์  พระองจึงไม่ปรารถนาที่จะบำเพ็ญอีก  จึงได้เสด็จนิวัตรพระนครอีก 

 

        แต่ก่อนที่พระองค์จะถึงพระนครนั้น  พระองค์ก็ได้ทรงระลึกถึงผอบนั้นขึ้นมา  และพระองค์ทรงรับสั่งให้เสวก   (เสวะกะ/เส-วก = ผู้รับใช้/ทหาร/มหาดเล็ก ฯ) ผู้มีนามว่า โสม ไปยังต้นไม้  แล้วขุดนำเอาผอบที่ใต้ต้นไม้นั้นมาโดยเร็ว

 

        โสมเสวก  เมื่อไปขุดก็ไม่พบผอบ  จึงได้นำความมากราบทูลพระราชาชนก  เมื่อพระราชาชนกทราบก็ทรงโศกเศร้า    และรับสั่งให้ไปนำเอากองทัพมา  โดยให้นำเอาไถและผาลมาขุดด้วย

 

           เหล่ากองทัพใช้เวลานานก็ไม่สามารถพบผอบได้  พระราชาชนกจึงได้ทรงจับไถ  พร้อมที่จะขุดดิน  ทันใดนั่นเองผอบก็ได้ปรากฏขึ้นมา  ในผอบนั้นก็ได้มีกุมารีที่สวยสดงมงาม  นั่งอยู่บนดอกกลีบบัว

 

          ครั้นพระราชาชนกเห็นกุมารี  ผู้มีแก้มหอม  นัยน์ตาโตและมีขนตายาว  ก็ทำให้ชนทั้งหลายเกิดความสงสัย

 

           และเนื่องจาก  กุมารี  เกิดขึ้นมาจากรอยไถ  ดังนั้น  จึงได้มีสมญานามว่า สีดา  และท้าวชนก  ก็ได้กลายมาเป็นพระบิดาของนาง

 

หมายเลขบันทึก: 505212เขียนเมื่อ 11 ตุลาคม 2012 12:55 น. ()แก้ไขเมื่อ 29 พฤศจิกายน 2013 10:27 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

ขอบคุณอาจารย์ ชยพรที่แวะมาให้ดอกไม้นะครับ

อ่านแล้วคงรู้สึกขัด ๆ บางนะครับ

กะว่าจะล้มประโยคก็กลัวความหาย ถ้าไม่ล้มประโยค ความแปลก ๆ ก็ยังมี

อ่านแล้วอาจรู้สึกขัดบางนะครับ

ขอบคุณนะครับ

ขอบคุณคุณ Krugui นะครับ

ที่แวะมาให้ดอกไม้นะครับ

 

 

หมอเปิ้น...อยากเป็นเช่น ... พระนางมณโฑ.. น่าจะดีนะคะ ...ไม่แน่ใจ ... แต่เป็นแค่ความอยาก...เป็นหมอเปิ้น นะดีแล้วนะคะ

ขอบคุณพี่เปิ้นนะครับ

จริงครับพี่ เป็นพี่อะดีแล้วครับ

หรือว่าจะดีน่า....ชักไม่แน่ใจแล้วละ......O

ขอบคุณ

คุณ อักขณิช

คุณ krugui

คุณ ภูสุภา

และคุณ tuknarak

ที่แวะมาอ่านและมอบดอกไม้ด้วยนะครับ

 

 

 

 

 

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท