การฟังเป็นพฤติกรรมที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการรับรู้และความเข้าใจ จึงต้องฝึกฝนจนให้เกิดการเรียนรู้เช่นเดียวกับทักษะอื่นๆ คือ การพูด การอ่าน และการเขียน
สำหรับผม ผมคิดว่าการฟังที่ดีต้องมีมารยาท และจุดมุ่งหมายในการฟัง เช่น ฟังเพื่อจับใจความเรื่องที่เราฟัง ฟังเพื่อหาคำตอบ และฟังเพื่อความรู้ และอย่างไรก็ตามการฟังที่ดีก็ต้องมีมารยาทในการฟัง มารยาทการฟังมีดังนี้ครับ
1. ไม่คุย ไม่ซุบซิบ ไม่ทำเสียงเอะอะ ไม่สนใจหรือไม่ให้เกียรติผู้พูด
2. ไม่พูดสอดในจังหวะที่ผู้พูดเว้นระยะหายใจหรือดื่มน้ำ ควรฟังเรื่องราวที่ผู้พูดต้องการพูดให้หมดแล้วจึงซักถามหรือแสดงความคิดเห็นภายหลัง
3. มีการสำรวมในการนั่ง เช่น ไม่นั่งไขว่ห้างหรือนั่งสบายจนเกินไป ถ้าฟังการพูดในที่ประชุมควรนั่งข้างหน้าให้เต็มเสียก่อน
4. แสดงความตั้งใจในการฟัง สนใจผู้พูด ไม่แสดงสีหน้าท่าทางว่าเบื่อหน่ายหรือไม่สนใจ ไม่ง่วง ไม่หลับ
5. ไม่ตกเป็นทาสอารมณ์ที่เกิดจากเรื่องที่ได้ฟัง
ในส่วนของผู้ฟังที่ดีถ้าจะฟังให้มีประสิทธิภาพ เราควรจะฟังหูไว้หู มีปะสาทหูที่ไว้ ไม่วอกแวก มีสมาธิ ไม่ใจลอย มีใจกว้างที่จะฟังความคิดเห็นของผู้อื่น และอีกอย่างหนึ่งคือจะต้องสามารถจับใจความได้ เหมื่อนดังกลอนที่ว่า
โบราณบอก พูดดี ศรีแก่ปาก
แต่ฟังมาก ได้รู้ ครูขยัน
ฟังสิ่งดี ทุกที ดีทุกวัน
ฟังแล้วกลั่น กรองบ้าง คงเข้าที
ที่มาของกลอน http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=36710fce9a7253a9
การฟังและการได้ยินก็ต่างใช้อวัยวะรับสัมผัสอย่างเดียวกัน แต่การฟังต่างจากการได้ยินคือ การได้ยินเป็นเพียงความสามารถในการรับของโสตประสาทเท่านั้น วันหนึ่งๆ เราได้ยินแล้วก็ผ่านไปไม่มีอะไรติดใจ ในส่วนของการฟังนั้นต้องมีทั้งการรับและการตีความหมายข้อความที่ได้ยินด้วย ต้องพยายามคิดว่าสิ่งที่ฟังหมายความว่าอย่างไร