ลปรร. เรื่องการจัดการความรู้ ของกองทันตฯ (5) ... KM กับงานกลุ่มเด็กปฐมวัย ... ตั้งแผน การส่งเสริมสุขภาพช่องปากในเด็กเล็กต่อยอด

 

สุดท้ายจากการ ลปรร. งาน KM ของกลุ่มเด็กเล็ก ก็นำสู่แผนเด็กเล็กต่อยอดนะคะ ว่า กลุ่มได้มองประโยชน์จากตรงนั้น โดยมองว่า

• ในเรื่องของการให้ความสำคัญกับฟัน เราคงต้องทำในเรื่อง การสร้างกระแส เพื่อสนับสนุน คน ให้เห็นความสำคัญของฟัน ซึ่งปีนี้เราก็มีหัวข้อที่เราเริ่มพูดกันแล้ว ว่าจะใช้หัวข้อว่า “ฟันดีเริ่มที่ซี่แรก” ก็คือ การสร้างกระแสให้เห็นความสำคัญของฟันน้ำนม เพื่อที่จะได้ช่วยพัฒนางานในพื้นที่ให้คล่องตัวขึ้น
• ในส่วนของการพัฒนาวิชาการ ทีมงานเด็กเล็กมองว่า
  ... วิชาการที่เราพัฒนาขึ้นมา ต้องตอบสนองต่อพื้นที่ ต่อลูกค้า ก็จะเป็นระบบบริการส่งเสริมป้องกัน ซึ่งพื้นที่ต้องไปใช้ และพัฒนาอย่างต่อเนื่องให้ดีขึ้น
  ... กับอันที่สองคือ เรื่องการพัฒนาและถ่ายทอดโมเดลการทำงานต่างๆ ที่ทำได้จริง เพราะว่าพื้นที่หลายๆ พื้นที่บอกว่า การทำงานได้ประสบความสำเร็จ เขาต้องเชื่อว่า สิ่งที่เขาจะทำนั้นเขาทำได้ เพราะฉะนั้น การที่มีโมเดลต่างๆ ที่ทำให้เขาเห็นว่า มีรูปธรรมที่เห็นว่า เขาทำได้ เขาก็จะทำโดยใช้บทเรียนเหล่านี้ไปถ่ายทอด ไปขยายต่อ ก็จะทำให้การทำงานเพิ่มขึ้นได้
• ส่วนที่สาม ที่ส่วนเด็กเล็กเห็นว่ามีความสำคัญจากการเรียนรู้ตรงนี้ เราคิดว่า เราต้องทำงานกับเครือข่ายเพิ่มมากขึ้น เพราะว่าตัวนี้เป็นตัวที่จะบอกความสำเร็จส่วนนี้ด้วย
• ในเรื่องการใช้การสื่อสาร เราต้องมีการสื่อสารกับเครือข่ายมากยิ่งขึ้น ในทุกๆ ช่องทางที่มีความเป็นไปได้

หมอแต๊ว ... ซือเจ๊ของเราได้กล่าวเสริมด้วยหน่อยค่ะ ว่า ... กระบวนการของพื้นที่จะเริ่มจากการที่เขาก็มีความตระหนักจริง แต่ถ้าเราไม่ไปสนับสนุน ไม่ไปคุย เรื่องต่างๆ นี้ก็จะไม่เกิด อย่างที่บางจาก ก็จะมี สอ. กับเจ้าหน้าที่เข้าไปคุย เรื่องก็เลยเกิดด้วยการตั้งเป้าหมายร่วม แต่พอเรื่องเกิด เขาก็ต้องการการสนับสนุนในหลายๆ เรื่อง เรื่องของวิชาการ สื่อสิ่งพิมพ์ พอจบแล้วก็ต้องมีการชื่นชม ก็เป็นสิ่งที่เขาต้องการ นี่ก็เป็นสิ่งที่พื้นที่เรียกร้องเราอยู่ด้วย

คุณหมอสุธา เจียรมณีโชติชัย ... ผอ.กองทันตสาธารณสุข ได้เสนอความเห็นตบท้ายไว้ว่า

ผมคิดว่า กลุ่มเด็กเล็กได้ทำงานมาร่วมหลายปี มีเครือข่ายที่น่ารัก และการทำงานเข้มแข็ง มีข้อเด่นๆ ของกลุ่มเด็กปฐมวัยตรงนี้ ที่สามารถดำเนินการในลักษณะของทีมสหวิชาชีพได้มากขึ้น และก็มีความพยายามค้นหาจุดว่า ถ้าพูดเรื่องฟันอย่างเดียว อาจไม่ค่อยสื่อเท่าไร ก็ไปดึงภาคีต่างๆ เข้ามา รวมทั้งเรื่อง เด็กไทยไม่กินหวาน ตรงนี้ผมคิดว่า เป็นสิ่งสำคัญ และเกิดการขยายวงต่างๆ มากขึ้นเรื่อยๆ ก็ขอชื่นชม กลุ่มที่ทำเรื่องเด็กปฐมวัย ที่พยายามดึงส่วนเสริมในส่วนของวิชาการ ตลอดจนองค์กรทันตแพทย์เข้ามาร่วมได้ด้วย และในอีกหลายๆ เรื่อง ซึ่งก็จะเรื่องดีดีที่จะนำพาเข้าสู่จังหวะก้าวของงานทันตสาธารณสุขต่อไปครับ