"พึ่งตนเอง" ทางเลือก ทางรอด ของนิยายของการพัฒนา


ยืนมองแบบคนนอกเป็น คนกลาง เข้าใจเลยว่า สถานการณ์การพัฒนาชุมชนวันนี้เป็นอย่างไร? และ ชุมชนจะก้าวไปอย่างไร? ในอนาคต

ผมเดินเข้าไปติดต่อประสานงานหน่วยงาน ภาพที่ผมเห็นชินตาคือ  ความขึ้งเครียด และอารมณ์ที่ไม่สู้ดีนักของเจ้าหน้าที่ถึงแม้ว่า เขาฝืนยิ้มและมีมิตรไมตรีที่ดีกับผมเวลาผมไปติดต่องาน

เพื่อนที่รู้จักกันสมัยมัธยมมาเยี่ยมผมที่บ้าน ถามผมว่า  ผมสุขสบายดีหรือ? อาจเพราะไม่ได้พบกันมานาน ผมสังเกตเขาอิดโรย ดูแววตาไม่มีความสุขนัก  ผมทราบว่าเพื่อนคนนี้รับราชการเป็นครูสอนเด็กบนดอย และมีชีวิตครอบครัวเล็กๆ(ที่คาดว่าน่าจะเป็นสุข)

ภาพของเพื่อนที่มาเยี่ยมผมที่บ้านในวันนั้น ไม่เหลือเค้าของเพื่อนคนที่ร่าเริงสมัยเรียนด้วยกัน...

ไม่ได้ถามปัญหา ไม่ได้พูดคุยเรื่องไม่สบายใจ  แต่บทสนทนาของเพื่อนก็ได้ระบายเรื่องทุกข์ออกมาเรื่อยๆ..

จนถึงประโยคที่ว่า  การรับราชการที่ไม่ก้าวหน้า เหมือนชีวิตย่ำอยู่กับที่..

 ผมคิดเองว่า ไม่ก้าวหน้า คงเป็นประเด็นรอง แต่สาเหตุหลักๆน่าจะเป็นปัญหาที่รุมเร้าเพื่อนผมขณะนั้นนั่นเอง ส่งผลให้เขาอ่อนแรง อ่อนล้าอย่างเห็นได้ชัด

........เจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่จมกับปัญหา จะมีแรงสรรค์สร้างงานใหม่ๆได้อย่างไร........

เหตุการณ์อย่างนี้ ขอเชื่อมไปยังเรื่องราวที่จะเล่าต่อไป....

ตัดภาพไปที่ส่วนราชการแห่งหนึ่ง ที่ผมเพิ่งไปติดต่อไม่กี่วัน

...ผมเห็นหัวหน้าหน่วยงานที่ยังสลึมสลือด้วยฤทธิ์สุรา  สรุปแล้วเนื้อหางานที่ผมไปติดต่อหน่วยงานนั้นไม่ประสบผลสำเร็จ ได้เพียงมิตรไมตรีที่เจือด้วยแอลกอฮอล์ เชื้อเชิญร่วมวงร่ำเมรัย...ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านั้น

...ผมขอตัวเดินกลับออกมาอย่างมึนๆเมาๆ  ยิ่งกว่าได้กรึ๊บกับพวกเขาเสียอีก

 ในความจริงผมจะนำนักศึกษา เพื่อเข้าไปเรียนรู้ในพื้นที่

...ผมคิดเอาเองว่า หากผมเป็นหัวหน้าหน่วยงาน ผมคงจะดีใจมาก ที่มีพันธมิตรมาร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้งาน พัฒนาชุมชนที่พวกเขาดูแลรับผิดชอบโดยตรง...แต่กลับตรงกันข้าม

ผมตัดสินใจไปเก็บข้อมูลด้วยตนเองในชุมชน ...เดินเข้าหาชุมชนเอง

ด้วยความที่หลายๆคนในชุมชนรู้จัก ในนามของนักพัฒนาและวิจัย เห็นหน้ากันบ่อยๆ  การสนทนาใต้ต้นไม้ที่ร่มรื่นด้วยมิตรไมตรี การแลกเปลี่ยนความรู้ ระหว่างกันระหว่างผมกับคนในชุมชน...ผมได้ข้อมูลดีๆมากมาย และพร้อมที่จะนำนักศึกษามาเรียนรู้ และคิดว่า คิดถูกที่นำนักศึกษาและคัดเลือกชุมชนนี้...นักศึกษาจะได้เรียนรู้ ถึงความเข้มแข็งของชุมชนที่มาจากกระบวนการคิดของชุมชนเอง...โดยที่รัฐไม่ค่อยได้เหลียวแลเท่าไหร่

ทุกวันนี้ผมคิดว่า ชุมชนจะพัฒนาได้อย่างยั่งยืน ทางรอด ทางเลือกเดียวน่าจะคือ การพึ่งตนเอง 

หากพึ่งตนเองได้ ก็ไม่จำเป็นต้องร้องขอ ความช่วยเหลือจากรัฐ(ที่ไม่เข้าใจ)  ที่ดำเนินการตามนโยบาย นอกจากไม่สอดคล้องกับวิถีชุมชน ยังทำลายชุมชนเสียอีก...

ผมดีดตัวเองจากคนของภาครัฐ....

ยืนมองแบบคนนอกเป็น คนกลาง เข้าใจเลยว่า สถานการณ์การพัฒนาชุมชนวันนี้เป็นอย่างไร? และ ชุมชนจะก้าวไปอย่างไร? ในอนาคต

พึ่งตนเอง เป็นคำตอบสุดท้าย  ...จริงๆ

 


"เพื่อก้าวพ้นนิยายของการพัฒนา เราจะต้องมีระบบเศรษฐกิจท้องถิ่นที่พึ่งตนเอง"

 

อมาตยา เซน

นักเศรษฐศาสตร์ ชาวอินเดีย 

 

หมายเลขบันทึก: 50184เขียนเมื่อ 15 กันยายน 2006 11:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 15:54 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

Thanks for a friendly greeting today.

Reading this story lets me think of meeting people with happiness...which comes from your unexpectated connections with others.

Different personality of the individuals may annoy your mind sometimes...Being optimal friendship is extent to your contacts day by day, and this won't be necessary to keep in mind. Unless just for a special treat from good friendship, you may like to keep it in the bottom of your heart.

Have a nice weekend krab. Take good health for  your mind and body.

Talk to you later krab.

 

  • ขอบคุณค่ะที่ได้อ่านเรื่องดี ๆ และให้แง่คิด
  • การพึ่งตนเอง  ย่อมเป็นคำตอบสุดท้ายที่ดีที่สุด สำหรับชุมชนค่ะ

สวัสดีค่ะคุณจตุพร

บางทีการทำงานของคนราชการเขายึดนโยบายเป็นหลัก  ถ้าไม่มีในนโยบาย  เวลาทำงานอาจจะยากนิดหนึ่ง  แต่ทั้งนี้ขึ้นกับหัวหน้าหน่วยงานด้วย  เพราะบางอย่างถ้าเลี่ยงได้ก็จะพยายามเลี่ยง เหมือนที่ อบต.ที่เปียอยู่เรื่องการจัดซื้อครุภัณฑ์ให้ศูนย์ความจริงเราไม่สามารถซื้อได้  แต่ก็จะเลี่ยงเป็นลักษณะให้ยืมใช้อย่างนี้เป็นต้น ก็เห็นใจพี่เอกค่ะที่เจอข้าราชการที่ไม่ทำหน้าที่ของตนเอง  แต่ที่เขาตั้งใจทำงานก็มีนะคะ  เช่น......เป็นต้น  ถ้าเราทำงานแล้วรู้สึกสนุกกับงาน  ไม่ต้องคิดเรื่องขั้นหรอกค่ะ  ให้คิดว่าขั้นเป็นผลพลอยได้แล้วกัน  ให้คิดว่าทำยังไงเราถึงจะทำประโยชน์ให้ประชาชนได้มากที่สุด  ขอบคุณค่ะ

    ขอบคุณพี่ชายที่มีเรื่องดีๆ  มาเล่าสู่กันฟัง   เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง  กับคำที่ว่า   ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน  และให้กำลังใจแด่...  นักสู้แห่งขุนเขา...

........เจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่จมกับปัญหา จะมีแรงสรรค์สร้างงานใหม่ๆได้อย่างไร........

คำพูดท่านถูกใจข้าน้อยนัก มิใช่ไม่มีคนหลุดจากปัญหาได้แต่คนที่ทำได้จะมี 3 พวก คือ

  1. บุคคลระดับจอมยุทธ์ที่ฝีมือกล้าแกร่ง สามารถฟันฝ่าปัญหาได้ด้วยตนเอง
  2. บุคคลที่มีบารมี มีสหาย, ลูกน้อง, เจ้านายคอยช่วยเหลือฝ่าฟัน
  3. บุคคลที่มีทั้ง 2 อย่าง ถือว่าบุญมาวาสนาส่งโดยแท้ ยากยิ่งที่ปัญหาใดๆ จะทำให้ท่านล้มได้

 แม้ในบางเวลาจอมยุทธ์จะอ่อนแอ เพลี้ยงพล้ำแต่ข้าน้อยหวังให้ท่านเป็นหนึ่งในคนกลุ่มนี้ตลอดไป

               คำเมามายจากคนเมามาย

                คารวะท่านด้วยเต้าหู้นมสด

อ่านบทความแล้ว เหมือนจะได้คำตอบจากการที่ถามอาจารย์ไปค

 ขอบคุณมากค่ะ

อาจารย์ Pop

วันนี้พูดกับอาจารย์ยังไม่จบ เพราะมีภารกิจเร่งด่วน ในการเข้าพื้นที่ของรุ่นน้องนักศึกษา...ขออภัยครับ

ในชุมชน กระบวนการทำงานเราได้เรียนรู้...ทั้งการทำงานและการเรียนรู้กับคน ไปพร้อมกัน...ทุกอย่างมีเหตุผล และสามารถอธิบายได้ตามเหตุปัจจัย

ขอบคุณครับ ผมจะดูแลตนเอง และคนรอบข้างครับ 

คุณสุชานาถ บุญเที่ยง

ขอบคุณที่มาเยี่ยมเยียนชุมชนผมครับ...ยินดีสำหรับการเรียนรู้ชุมชนครับ

หากเราทำงานคลุกคลีกับชุมชน เราจะพบอย่างหนึ่งว่า สิ่งที่ยั่งยืนที่สุดคือ การพึ่งตนเอง...

การสร้า้งสรรค์ให้ชุมชนพึ่งตนเองให้ได้ เป็นวิถีที่น่าจะเป็นทางรอดของชุมชนครับ 

ยินดีที่ได้แลกเปลี่ยนครับผม

....................................................... 

คุณPia

ประสบการณ์ที่คุณPia มาหลายครั้ง...เป็นความพยายามของ อบต.ที่น้องทำงานอยู่ ในการที่จะช่วยให้ชุมชนพึ่งตนเองให้ได้

นายก อบต. ที่น้อง Pia ทำงานอยู่มีวิธีคิดที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาชุมชนน่าชื่นชม

การทำงานในท้องถิ่น...ขอให้ผลประโยชน์ตกถึงชาวบ้านให้มากที่สุดครับ...ในฐานะข้าราชการ ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุดครับ ..ให้กำลังใจครับ ขอบคุณครับ

................................................................... 

น้องสิทธิเดช กนกแก้ว

ทุกวันมีข้อคิดเห็น ที่มอบกำลังใจให้ผมตลอด ต้องขอขอบคุณครับ ...ที่ติดตามอย่างต่อเนื่อง

ขอให้น้องชายของผม มีความสุขกับการทำงานนะครับ... 

................................................................................

เพื่อน - จันทร์เมามาย /ทันสิษฐ์

ผมพยายามถามคำถามตัวเอง ประเมินตนเองบ่่อยครั้งเมื่อคิด เมื่อทำ...

การทบทวนตนทำให้เข้าใจเหตุผลของการคิดและปฏิบัติของตนเอง

ผมไม่ได้สมบูรณ์แบบ แต่ก็พยายามพัฒนาตนให้ดีขึ้นตลอดเวลา

ขอบคุณกำลังใจจากเพื่อน ...คารวะครับท่านจันทร์ฯ

จาก...จอมยุทธ์ที่ไร้กระบวนท่า

....................................................................... 

 คุณ Chah

ช่วงนี้ผมได้เข้ามาใน Gotoknow  ช่วงเช้าและกลางคืน โดยใช้เวลาสั้นๆครับ

กะ...ว่าหากว่างมากขึ้น จะตอบคำถามที่ คุณ Chah ถามผม...หากบันทึกนี้บอกอะไรได้บ้างผมก็ยินดีครับ

ขอบคุณ คุณ Chah ครับ 

    ถูกต้องที่สุดเลยค่ะท้ายสุด ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน (อัตตาหิอัตตาโนนาโถ เขียนผิดต้องขออภัยด้วยนะคะ)  ขอชื่นชมกับความตั้งใจจริงของอาจารย์ในการพัฒนาบุคคลและสังคม สิ่งใดที่คิดและทำขอให้สำเร็จนะคะ

อาจารย์ Ms.Sunee

ขอบคุณครับอาจารย์ที่เข้ามาแลกเปลี่ยน

การทำงานที่สนุก คือ การที่ได้เรียนรู้ไม่สิ้นสุด ได้พัฒนาตนเองตลอดเวลา ...ทำให้มีแรงกายแรงใจทุ่มเทกับงานพัฒนา

ที่สำคัญได้ประสบการณ์พร้อมกำลังใจดีๆ จากมิตรใน Gotoknow ด้วยครับ 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท