“การเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมาย" ในกฎหมายขัดกันของไทยและญี่ปุนเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร”
สืบเนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างบิดามารดากับบุตร แบ่งออกเป็นสองประเภท คือ
1. กรณีบุตรชอบด้วยกฎหมาย หมายถึง บุตรที่เกิดจากบิดา มารดาสมรสกันโดยชอบด้วยกฎหมาย
2. บุตรนอกสมรส หมายถึง บุตรที่เกิดจากบิดามารดาที่มิได้สมรสกันโดยชอบด้วยกฎหมายซึ่งจะขอกล่าวอธิบายในส่วนของ กรณีบุตรชอบด้วยกฎหมาย ดังต่อไปนี้
กฎหมายขัดกันของญี่ปุ่น APPENDIX 3B Act Concerning the Application of Laws (Horei) (Law No. 10 , June 21, 1898) ได้กล่าวถึง เรื่อง“การเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมาย" ไว้ ในมาตรา 17 ซึ่งมีใจความสาระสำคัญดังต่อไปนี้
มาตรา 17 (แบบของความสัมพันธ์ระหว่างบิดามารดาและบุตรชอบด้วยกฎหมาย ) บัญญัติไว้ว่า
( 1 ) การเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายในขณะที่บุตรเกิดให้เป็นไปตามกฎหมายสัญชาติของบิดามารดา และให้ถือว่าเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมาย
( 2 ) หากสามีได้ถึงแก่ความตายก่อนวันที่เด็กเกิดให้เป็นไปตามกฎหมายสัญชาติของสามีในขณะที่ถึงแก่ความตาย และให้อนุมาตรานี้ใช้บังคับกับมาตราที่ได้ระบุไว้ในวรรคก่อน
กฎหมายขัดกันของไทยที่มีบัญญัติไว้ใน พระราชบัญญัติว่าด้วยการขัดกันแห่งกฎหมาย พุทธศักราช 2481 ได้กล่าวถึงเรื่อง“การเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมาย" ไว้ ในมาตรา 29 ซึ่งมีใจความสาระสำคัญดังต่อไปนี้
มาตรา 29 บัญญัติไว้ว่า “การเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ให้เป็นไปตามกฎหมายสัญชาติแห่งสามีของมารดา ในขณะที่บุตรนั้นเกิด ถ้าหากในขณะที่กล่าวนั้น สามีได้ถึงแก่ความตายเสียแล้ว ก็ให้เป็นไปตามกฎหมายสัญชาติของสามี ในขณะถึงแก่ความตาย
ให้ใช้กฎหมายเช่นเดียวกันบังคับการฟ้องคดีไม่รับเด็กเป็นบุตร”
เมื่อพิจารณาเทียบเคียงกับกฎหมายขัดกันของไทย ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการขัดกันแห่งกฎหมาย พ.ศ. 2481 นั้น ในเรื่อง “การเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมาย" ตามกฎหมายขัดกันของไทย อยู่ใน มาตรา 29 ซึ่งกฎหมายขัดกันของญี่ปุ่นและของไทยมีความเหมือนและความแตกต่างกันในการวางหลักเกณฑ์ในเรื่องดังกล่าว คือ
กฎหมายไทยและกฎหมายญี่ปุ่นมีความแตกต่างกันดังต่อไปนี้ คือ ในอนุมาตรา 1 ของมาตรา 17 ตามกฎหมายขัดกันของญี่ปุ่นได้ระบุเกี่ยวกับการเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายโดยสามารถเลือกกฎหมายตามสัญชาติของบิดาหรือของมารดามาใช้บังคับ ในขณะที่กฎหมายขัดกันของไทยระบุให้ใช้สัญชาติของบิดาในขณะที่บุตรเกิดเพียงอย่างเดียว ดังนั้นกฎหมายขัดกันของญี่ปุ่นจึงมีขอบเขตที่กว้างกว่ากฎหมายขัดกันของไทย และให้สิทธิเสรีภาพมากกว่ากฎหมายขัดกันของไทย
กฎหมายไทยและกฎหมายญี่ปุ่นมีความเหมือนกันดังต่อไปนี้ คือ ในอนุมาตรา 2 ของมาตรา 17 ตามกฎหมายขัดกันของญี่ปุ่น และ มาตรา 29 ตามกฎหมายขัดกันของไทยมีใจความสาระสำคัญ แบบและผลของกฎหมายที่เหมือนกัน กล่าวคือทั้งสองประเทศต่างให้ความสำคัญกับสัญชาติของบิดา อันเป็นผลที่ได้รับอิทธิพลจากกฎหมายโรมันที่ฝ่ายชายเป็นผู้มีอาวุโสสูงสุดและเป็นผู้นำครอบครัว จึงเป็นผู้ปกครองที่เรียกว่า patria potestas กล่าวคือ ถึงแม้ว่าสามีได้ถึงแก่ความตายไปแล้วก็ตามกฎหมายก็ยังให้ถือสัญชาติของสามี ในขณะที่ถึงแก่ความตาย
สรุป ในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างบิดามารดากับบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายนั้น ทั้งสองประเทศต่างมีแนวคิดที่เหมือนกันที่ให้ความสำคัญแก่สัญชาติบิดา เพียงแต่ประเทศญี่ปุ่นได้วางขอบเขตไว้กว้างกว่าเท่านั้น
รบกวนหน่อยนะคะ ถ้าสามีญี่ปุ่นตาย สิทธิของภรรยาเเละบุตรที่ถูกต้องตามกฏหมายมีอะไรบ้าง