ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติหน้าที่ทำการสอนตั้งแต่ปี พ.ศ. 2517 ในระดับประถมศึกษาปีที่ 5- 6 จนถึงปี พ.ศ. 2539 ได้มีคำสั่งให้ลงมาทำการสอนในระดับอนุบาล ซึ่งเป็นเด็กที่มาจากครอบครัวที่มีการเลี้ยงดูที่ไม่เหมือนกันและฐานะทางครอบครัวแตกต่างกัน ซึ่งเด็กบางคนไม่เคยออกห่างจากอกพ่อ-แม่ มีทั้งร้องไห้และยังไม่สามารถบอกความรู้สึก และความต้องการที่ตนเองต้องการได้เพราะส่วนใหญ่ พ่อ-แม่ จะเป็นผู้ทำให้ตลอดเวลาจนเกิดเป็นนิสัยที่จะต้องให้ครูผู้สอนเป็นคนทำให้ จึงทำให้ข้าพเจ้าต้องปรับวิธีการสอนและศึกษาพฤติกรรมของเด็กระดับอนุบาลใหม่และพยายามที่จะใช้คำพูดที่เด็กเข้าใจง่ายๆพร้อมทั้งศึกษาพฤติกรรมของเด็กแต่ละคนว่าเป็นอย่างไรพอได้เข้ามาสัมผัสทำให้รู้ว่าเด็กอนุบาลเปรียบเสมือนผ้าขาวที่ครูสามารถแต่งแต้มสีสดใสให้ ซึ่งเด็กอนุบาลมีความน่ารัก ความจริงใจ ที่แสดงออกมา และในปีนี้เองทำให้ข้าพเจ้าต้องเหนื่อยมาก เพราะทางสำนักงานการประถมศึกษาอำเภอได้กำหนดให้มีการประกวดห้องเรียนมาตรฐานเหรียญทอง (โล่ทอง) ข้าพเจ้าจึงต้องเตรียมประดิษฐ์สื่อและเกมการศึกษาให้ครบทุกหน่วยการเรียนและครบทั้งปี (40 สัปดาห์) ซึ่งมีผลทำให้สายตาสั้นต้องสวมแว่นตาเวลาอ่านหนังสือ ผลที่ทำให้ข้าพเจ้าก็ภูมิใจคือได้รางวัลเหรียญทองติดต่อกันหลายปี และที่สำคัญคือเด็กของข้าพเจ้าได้ใช้สื่อและเกมการศึกษาในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน และในปี พ.ศ.2540 ข้าพเจ้าได้สมัครเข้าประกวดครูผู้ดีเด่นของคุรุสภา ระดับอำเภอและจังหวัด ไม่ประสบผลสำเร็จในระดับจังหวัด ปี พ.ศ.2542 ได้นำผลงานเข้าเสนอประกวดใหม่ในระดับอำเภอและจังหวัด ในปีนี้ข้าพเจ้าภูมิใจมากเพราะได้รับรางวัลครูผู้สอนยอดเยี่ยมคุรุสภาระดับอำเภอและระดับจังหวัด ซึ่งทำให้ข้าพเจ้าคิดว่าทุกอย่างไม่ได้มาง่ายๆ อย่างที่ต้องการแต่ถ้าเราพยายามผลดีจะเกิดขึ้นเช่นกัน ดังนั้นข้าพเจ้าจึงนำสื่ออุปกรณ์และวิธีการจัดกิจกรรมที่ลงสู่เด็กปฐมวัยมาใช้อย่างต่อเนื่องและเรื่อยมา ปี พ.ศ.2548 ทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครสวรรค์ เขต. 3 ได้ออกประเมินคัดเลือกโรงเรียนที่ทำการสอนอนุบาล เพื่อพิจารณาให้เป็นโรงเรียนต้นแบบปฐมวัยระดับอำเภอ ซึ่ง 1. อำเภอ จะมี 1. โรงเรียน ผลการคัดเลือกโรงเรียนของข้าพเจ้าได้รับคัดเลือกให้เป็นโรงเรียนต้นแบบปฐมวัย ถือว่าเป็นงานที่หนักที่จะต้องพยายามจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้สนองต่อรัฐบาลที่ต้องการให้เด็กได้รับการดูแลอย่างถูกวิธี และถูกต้อง ซึ่งครูผู้สอนจะต้องให้เกิดกับเด็กโดยให้เด็กกล้าแสดงออกที่อยู่ในขอบเขต รู้จักคิดและมีเหตุผล ยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่น รู้จักการให้อภัยและขอโทษ รู้จักการเป็นผู้นำ-ผู้ตามที่ดี รู้จักการแบ่งปัน รู้จักการรอคอย รู้จักการช่วยเหลือตนเองและผู้อื่น รู้จักการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น และรู้จักยินดีกับเพื่อน สอนให้รู้จักเคารพผู้ใหญ่ ให้มีคุณธรรม และรู้จักการออมการใช้จ่ายที่ประหยัด โดยผู้สอนจะต้องสอนสอดแทรกไปตลอดเวลาให้เด็กเกิดการเรียนรู้ที่ทำให้เป็นกิจนิสัยส่วนตัวที่ดีเพื่อให้เด็กเป็นคนดี คนเก่ง และมีความสุข ให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างปลอดภัย และเป็นพลเมืองที่ดีของชาติต่อไปในอนาคต