เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 มาตรา 49 รายละเอียดของมาตราดังกล่าว สรุปได้ว่า “ทุกสถาบันการศึกษา จะต้องรับการประเมินคุณภาพภายนอก โดยสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์กรมหาชน) หรือที่เรารู้จักกันดีในนาม สมศ.อย่างน้อยหนึ่งครั้งในทุกห้าปี นับตั้งแต่การประเมินครั้งสุดท้าย และจะต้องเสนอผลการประเมินต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสาธารณชนได้รับทราบ”
จากประเด็นสำคัญของมาตราดังกล่าว มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้รับการประเมินคุณภาพภายนอกครั้งที่ 1 โดย สมศ. เมื่อวันที่ 25 – 27 พฤศจิกายน 2545 ซึ่งเป็นการประเมินผลการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ประจำปีการศึกษา 2544 ซึ่งในการประเมินครั้งแรกนั้น มีรายนามคณะกรรมการประเมิน ดังนี้
1. ศาสตราจารย์ นายแพทย์วันชัย วัฒนศัพท์ ประธานคณะผู้ประเมินภายนอก2. ศาสตราจารย์ธีระยุทธ กลิ่นสุคนธ์ ประเมินภายนอก
3. รองศาสตราจารย์วิเชียร ชิวพิมาย ผู้ประเมินภายนอก
4. รองศาสตราจารย์ไพศาล หวังพานิช ผู้ประเมินภายนอก
5. อาจารย์สายหยุด จำปาทอง ผู้ประเมินภายนอก
ด้วยความที่เป็นการประเมินภายนอกครั้งแรก ถ้าทุกคนยังจำบรรยากาศในครั้งนั้นได้ จะพบว่า ทุกหน่วยงานเร่งทำความเข้าใจในนิยามของของมาตรฐานและตัวบ่งชี้ ตามที่ สมศ.กำหนด ทำความเข้าใจถึงวิธีการเขียนเพื่อแสดงให้เห็นถึงผลสัมฤทธิ์ จากเดิมที่เน้นเขียนเพื่อให้เห็นกระบวนการ สำหรับคณะวิทยาศาสตร์ ไม่ถือว่าเป็นเรื่องใหม่ เนื่องจากคณะฯ ได้เริ่มมีระบบประกันคุณภาพตั้งแต่ พ.ศ.2539 โดยได้มีการนำระบบประกันคุณภาพเข้ามาใช้ในทุกภารกิจของคณะฯ อยู่แล้ว การรายงานเพื่อรับการประเมินในครั้งนั้น จึงเป็นการรายงานตามสภาพจริง โดยเน้นให้เห็นถึงกระบวนการที่นำไปสู่ผลสัมฤทธิ์ในแต่ละมาตรฐานและตัวบ่งชี้ สอดคล้องกับนโยบายและวัตถุประสงค์ของการประเมินในรอบแรก คือ
“มาประเมิน (ตรวจเยี่ยม) เพื่อมุ่งเน้นให้เห็นถึงกระบวนการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ไม่ได้มุ่งเน้นการจับผิดหรือให้คุณให้โทษ ดำเนินการด้วยความโปร่งใส เที่ยงธรรม ตามสภาพที่เป็นจริง ด้วยลักษณะของกัลยาณมิตร มีส่วนร่วมจากทุกฝ่ายทั้งนี้เพื่อให้ทราบถึงระดับคุณภาพและกระตุ้นเตือนให้สถาบันอุดมศึกษาพัฒนาคุณภาพการศึกษาและประสิทธิภาพการบริหารจัดการอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังช่วยสะท้อนจุดเด่น จุดด้อย ของสถาบันฯ และช่วยเสนอแนะการปรับปรุงการบริหารเพื่อคุณภาพในการจัดการศึกษาแก่สถาบันนั้น ๆ”
ซึ่งในการประเมินภายนอกรอบแรกนั้น กรรมการประเมินฯ ได้สะท้อนถึงจุดเด่นของคณะวิทยาศาสตร์ 2 ข้อ ดังนี้
1. มีอาจารย์ในสาขาวิชาชีวเคมี ที่พร้อมซึ่งมีวุฒิปริญญาเอกจำนวนมาก เปิดสอนปริญญาโทและปริญญาเอกเป็นสาขาแรก มีความพยายามจะผลักดันให้เป็น Excellence Center
2. มีความร่วมมือกับคณะศึกษาศาสตร์ ที่จะผลิตครูวิทยาศาสตร์ที่มีความเชี่ยวชาญทั้งด้านวิธีการสอนและเนื้อหาวิชาการเป็นความร่วมมือที่ดีมาก โดยคณะศึกษาศาสตร์สอนวิชาครู คณะวิทยาศาสตร์สอนวิชาวิทยาศาสตร์ (โครงการ สควค.) และยังเสริมสร้างความเข้มแข็งทางวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และคอมพิวเตอร์ตามโครงการ SIS (Science In School)
นอกจากนี้ ในส่วนของข้อเสนอแนะในภาพรวมของมหาวิทยาลัย ผลการดำเนินงานของคณะวิทยาศาสตร์ ยังถูกนำไปกล่าวอ้างถึง อาทิ เช่น การมีหลักสูตรนานาชาติ ที่เป็นที่ยอมรับจากนานาประเทศ, มีความโดดเด่นในการวิจัยและองค์ความรู้ด้าน “เทคโนโลยียาง”
บรรยากาศประเมินในครั้งนั้น เป็นไปโดยรูปแบบของกัลยาณมิตรจริง ๆ กรรมการทุกท่าน ได้ให้ข้อสังเกตและข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ในภาพรวมเพื่อให้การดำเนินงานของคณะฯ ที่ดีอยู่แล้ว ทำอย่างไรถึงจะทำให้ดีขึ้น ท่านได้ช่วยเป็นตัวกลางในการสะท้อนให้มหาวิทยาลัยเราได้รับทราบข้อมูลว่า โดยภาพรวมของภายนอกสังคม ม.อ. ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholder) ต้องการเห็นม.อ.ของเราในบทบาทใด และสิ่งใดบ้างที่เขาเหล่านั้นอยากให้ ม.อ.เราเข้าไปมีส่วนร่วม
หลังจากฟังสรุปผลการประเมินด้วยวาจา จากคณะกรรมการประเมินแล้ว ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ต่าง โล่งอกกันไปตาม ๆ กัน โดยเฉพาะสิ่งที่นำเสนอออกมาในรายงานผลการประเมินภายนอก ที่ระบุว่า “มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มีผลการดำเนินงานในภาพรวมอยู่ในระดับ ดี – ดีมาก”
สำหรับการประเมินภายนอกรอบสองนี้ จะมีอะไรที่แตกต่างไปจากรอบแรก และเราควรจะเตรียมพร้อมเพื่อรับการประเมินในครั้งนี้อย่างไร ติดตามอ่านในตอนต่อไปนะคะ
อ้างอิงจาก รายงานการประเมินคุณภาพภายนอก มอ. 2545
ขอบคุณ คุณปวีณา มากค่ะ