ต่อ
ผลกระทบของ NTBs ที่มีต่อการค้า
๑. การเพิ่มขึ้นของต้นทุนการผลิต การกำหนดมาตรการต่างๆของกล่มประเทศผู้นำเข้าย่อมต้องสร้างภาระเรื่องค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้ผลิตเป็นธรรมดา แต่กรณีที่ต้องพิจารณานั้นอยู่ที่การเพิ่มขึ้นของภาระค่าใช้จ่ายว่าเป็นไปโดยนัยสำคัญหรือไม่ เพราะการที่ประเทศผู้นำเข้ากำหนดมาตรการอย่างใดอย่างหนึ่งขึ้นมา มาตรการนั้นย่อมต้องนำไปบังคับอย่างเสมอภาคและทั่วถึง ดังนั้นผู้ผลิตทุกรายก็ย่อมต้องได้รับผลกระทบเหมือนๆกัน ขึ้นอยู่กับว่าผู้ประกอบการรายใดจะสามารถควบคุมรายจ่ายให้อยู่ในระดับที่สามารถแข่งขันทางการค้ากับผู้ผลิตรายอื่นได้ แต่ประเด็นที่น่าเป็นห่วงคือกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยหรือ SMEs ที่ยังไมมีศักยภาพเพียงพอที่จะปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีของตนเพื่อรองรับกับมาตรการใหม่ๆที่ถูกกำหนดขึ้น
๒. ความสามารถในการแข่งขันลดลงหรือไม่ ในประเด็นนี้ผู้ประกอบการจะต้องคำนึงโดยเปรียบเทียบทั้งกับผู้ประกอบใน EU และผู้ประกอบการรายอื่นที่ประสงค์จะส่งสินค้าเข้าไปขายใน EU ในประเด็นนี้ที่ประชุมเห็นว่าไม่น่าเป็นห่วงสำหรับผู้ประกอบการรายใหญ่ โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่มีประสบการณ์ในการทำการค้ากับประเทศที่มีมาตรการทางการค้าที่มิใช่ภาษีจะสามารถปรับตัวและพัฒนาเทคโนโลยีได้เท่าทันมาตรการใหม่ๆได้
๓. การย้ายแหล่งผลิตสินค้า หรือย้ายตลาดรองรับสินค้า เนื่องจากในบางกรณีประเทศผู้นำเข้าใช้มาตรการที่เข้มงวดจนผู้ประกอบการไม่สามารถปรับเปลี่ยนหรือแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าได้ทัน ก็มีความจำเป็นต้องย้ายตลาดรองรับสินค้าไปยังประเทศที่ไม่มีมาตรการดังกล่าวหรือมีมาตรการที่ไม่เข้มงวดเท่า เป็นต้น
ตัวอย่างสินค้าที่อาจได้รับผลกระทบ
อาหาร อาจมีมาตรการดังต่อไปนี้เข้ามาเกี่ยวข้อง
- มาตรฐานอาหาร มักเป็นการกำหนดกันเองระหว่างผู้ซื้อ – ผู้ขาย
- การขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์อาหาร โดยการขึ้นธรรมเนียมในการรับใบประกันคุณภาพสินค้าประเภทนี้ยังอยู่ในระดับค่อนข้างสูง
- สารปนเปื้อนในอาหารและบรรจุภัณฑ์ มาตรการนี้จำเป็นต้องใช้เครื่องมือในการตรวจสอบซึ่งเครื่องมือดังกล่าวมีราคาสูงมาก
- กฎแหล่งกำเนิดสินค้า เป็นต้น
เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ อาจมีมาตรการดังต่อไปนี้เข้ามาเกี่ยวข้อง
- มาตรการเกี่ยวกับความปลอดภัยของผู้บริโภค
- มาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม เป็นต้น
เครื่องนุ่งห่มและสิ่งทอ อาจมีมาตรการดังต่อไปนี้เข้ามาเกี่ยวข้อง
- การตรวจสอบกระบวนการผลิต เป็นต้น
ทั้งนี้ภาพลักษณ์สินค้าไทยในสหภาพยุโรป ยังคงมีภาพลักษณ์ที่ดีในแง่คุณภาพและชื่อเสียง แต่ทั้งนี้ราคาจำหน่ายก็ยังอยู่ในระดับปานกลาง คือไม่ต่ำและไม่สูงจนเกินไป ยังสามารถแข่งขันได้ แต่ทั้งนี้ผู้ส่งออกของไทยเองก็สามารถเสริมสร้างความน่าเชื่อถือในผลิตภัณฑ์ได้ เช่น การออกฉลากประหยัดพลังงานโดยไม่ต้องรอให้ประเทศผู้ซื้อกำหนดมาตรการออกมาก่อน มาตรการสมัครใจนี้สามารถเรียกความน่าเชื่อถือจากผู้ซื้อได้เป็นอย่างดี
NTBs ในอนาคต
- คาดการว่าจะมีการใช้ NTBs มากขึ้น โดยนำมาใช้แทนภาษีศุลกากร
- NTBs จะครอบคลุมประเภทสินค้ามากขึ้นเรื่อยๆ
- NTBs จะเข้มงวดและมีบทลงโทษที่รุนแรงยิ่งขึ้น เช่นกรณีที่เกิดกับพริกแห้งอินเดียที่ส่งออกไปยังสหภาพยุโรป แล้วถูกตรวจพบเชื้อราที่ประเทศฟินแลนด์ สหภาพยุโรปก็ได้กำหนดมาตรฐานพริกแห้งที่จะนำเข้าสหภาพยุโรปครั้งใหม่ให้สูงยิ่งขึ้น ไม่เฉพาะจากอินเดียเท่านั้นแต่รวมถึงประเทศผู้ส่งออกรายอื่นๆด้วย ซึ่งเป็นการสร้างภาระแก่ผู้ส่งออกเป็นอย่างมาก
- NTBs จะเข้าไปกำหนดกลุ่มสินค้ามากขึ้นเรื่อยๆ เช่น จากเดิมมีแค่การกำหนดไก่แช่แข็ง ไก่ปรุงสุก ก็กำหนดเป็นไก่แช่แข็ง ไก่หมักเกลือแช่แข็ง ไก่ปรุงสุก เป็นต้น
- NTBs จะถูกสงสัยว่าเป็นมาตรการที่กีดกันทางการค้ามากขึ้น เช่น การกำหนดมาตรการ Bio – Terrorism ของสหรัฐอเมริกาที่กำหนดให้ตู้คอนเทนเนอร์ทุกตู้ที่จะบรรจุของเข้าสหรัฐอเมริกาต้องมีการติดตั้งสัญญาณ GPS เพื่อสามารถอ้างอิงที่อยู่ตั้งแต่ต้นทางไปจนถึงปลายทางได้ มาตรการดังกล่าวเป็นที่สงสัยของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกว่าเป็นมาตรการที่เกินความจำเป็นหรือไม่
- NTBs จะถูกนำไปใช้ตามๆกัน เช่นมาตรการ REACH ของสหภาพยุโรปที่กำลังพิจารราจะนำมาใช้ ทางญี่ปุ่นก็ได้นำความคิดดังกล่าวไปศึกษาเพื่อหาวิธีที่จะนำมาปรับใช้ต่อไป
--------
ขอขอบพระคุณ
รองศาสตราจารย์ ดร. นิรมล สุธรรมกิจ
คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
คุณชุติมา บุณยะประภัสร
ผู้ตรวจการกระทรวงพาณิชย์
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. จาริต ติงศภัทิย์
ผู้อำนวยการศูนย์ยุโรปศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จ้า . . . ขอบคุณ
ที่เอาข้อมูลมาก็จากกระทรวงเธอทั้งนั้นแหล่ะ
เด๋วว่างๆจะแวะไปเยิ่ยมเยียนนะ
นอต
มาแวะเยี่ยมเยือน...
บล็อกแน่นไปด้วยความรู้ดีจังจ้ะ ^_^
สนใจด้านนี้อยู่พอดี
//เยี่ยมๆ
สวัสดีครับอาจารย์
ขอบคุณที่สนใจงานของผมครับ งานชิ้นนี้เป็นผลพวงมาจากการเข้าร่วมประชุมแล้วหัวหน้า (ที่ทำงานเก่า) ให้ทำรายงานส่ง ก็เลยเป็นที่มาของงานชิ้นนี้ครับ
นอต