การเรียนคือสิ่งที่ต้องทำไปเรื่อย ๆ คือการปฎิบัติธรรมอย่างหนึ่ง_จดหมายถึงลูก


สติช่วยเตือนเราว่า เรามาเรียนที่ต่างแดนเพราะอะไร ตรงนี้คือหน้าที่ของลูก

ลูกรัก

แม่ฟังพระไพศาล วิสาโล มีหัวข้อหนึ่งพูดถึงการทำงาน แม่จึงคิดไปถึงการเรียนของลูก และของแม่ด้วย

พระท่านสอนว่าการเรียน และการทำงาน คือสิ่งที่ต้องทำไปเรื่อย ๆ คือการปฎิบัติธรรมอย่างหนึ่ง

เหมือน การปลูกป่า ให้ปลูกต้นไม้ไปทีละต้น ๆ ไม่ต้องไปกังวลว่า ปลูกต้นนี้เสร็จแล้วต้องปลูกต้นอะไรต่อ

อย่าไปท้อ หรือคิดสงสัยว่า ต้นไม้นี้เมื่อไหร่จะโต และเมื่อไหร่ที่จะโตมาก ๆ หรือเมื่อไหร่จะออกดอก ออกผล

หรือเมื่อไหร่ที่จะให้ร่มเงา

ไม่ใช่หน้าที่เรา ซึ่งเป็นผู้ปลูก

หน้าที่ผู้ปลูกคือ ปลูกต้นไม้ เมื่อเราขุดดินเสร็จหนึ่งหลุม ก็เท่ากับว่า เสร็จงานไปขั้นหนึ่ง เมื่อเอาต้นไม้ลงดิน เอาดินกลบ ก็เท่ากับเสร็จงานไปอีกเรื่อง เมื่อทำสิ่งค้ำยันให้ต้นไม้ก็ใกล้เสร็จงาน เมื่อรดน้ำ เกลี่ยดินที่โคนต้นที่ปลูกใหม่ให้เสมอ เท่ากับเสร็จงาน

(ลูกจำได้มั้ยว่า ต้นไม้บ้านเราก็ปลูกทีละขั้น ๆ แบบนี้หลายต้น ที่เราไปช่วยกันปลูกไง)

หน้าที่เราก็คือปลูก และดูแลรดน้ำ เพิ่มปุ๋ยให้ต้นไม้
ส่วนต้นไม้จะเป็น หมายถึง อยู่รอดนั้น ไม่ใช่หน้าที่เรา

 

แม่ขอมาเพิ่มเติมตรงนี้หน่อย 13.10.2012

 

เราปลูกต้นไม้ เราปลูกด้วยวิธีการที่ดี ถูกหลักการปลูก ทุ่มเทเวลาดูแลเหล่าต้นไม้ แต่นอกจากนั้น มีองค์ประกอบอื่น ๆ อีกมากมายเช่น ดินฟ้าอากาศ ฝน แสงแดด ที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของต้นไม้

คราวนี้ต้นไม้จะอยู่รอดปลอดภัย หรืองดงามเพียงใด ขึ้นกับต้นไม้ต้นนั้นเอง

ต้นไม้นั้น ๆ ต้องปรับตัวเข้ากับดิน แร่ธาตุในดิน ลมฟ้าอากาศ
ฟันฝ่าอุปสรรคอีกนานาประการ

เปรียบดั่ง เรา พ่อแม่ ให้ความรัก ความเอาใจใส่ พร่ำสอนดูแลลูก แต่การที่ลูกจะเติบโต มีความคิดความอ่าน สติปัญญา มีความรู้เต็มคน

มีองค์ประกอบหลายสิ่งจากสังคมรอบตัวของลูก และความสามารถในความเป็นหนึ่งเดียวกับโลก ของลูกด้วย

 

ลูก ต้องมีความรู้สำนึกในใจตน มีการปรับตัวเข้ากับสังคมรอบตัวลูก การขวนขวายสั่งสมวิชาความรู้ รวมไปถึงปัญญาทั้งทางการเรียนรู้และปัญญา ความหยั่งรู้ ที่เหนือจากปัญญา คือ intuition or wisdom ไม่ใช่แค่ knowledge 

 

หน้าที่เอาตัวเองให้รอด เติบโต งาม ออกดอกออกผลคือหน้าที่ของต้นไม้

ถ้าเราคิดมาก สงสัยมาก ฟุ้งซ่านมาก จะปลูกต้นไม้ไม่สำเร็จ

เหมือนที่แม่ประสบมา

แรก ๆ ที่แม่มาอยู่ที่อังกฤษ ฟังภาษาอังกฤษไม่ค่อยออก ปรับตัวไม่ได้ คิดเรื่องโน้น เรื่องนี้สะเปะสะปะ ไม่มีสมาธิที่จะเก็บเกี่ยวความรู้ ทำให้อะไร ๆ  ช้าไปหมด ช้า ใช้เวลามากกว่าจะรู้เรื่อง

ตอนหลังแม่เปลี่ยนความคิดใหม่ ไม่เกร็ง ไม่กลัวที่จะถามซ้ำ ๆ เขียนถามเพื่อเพิ่มความเข้าใจว่า ถามเรื่องนี้นะ หรือ เค้าสอนเราแบบนี้ เราฟังผิดหรือเปล่า
เรื่องที่เรียนรู้ ช่วงหลังนี้ ยากกว่า และอาจารย์ก็มอบหมายงานให้แม่มากกว่าแรก ๆ เยอะ

ทำไมแม่เริ่มรู้สึกว่าเราพอทำได้ และมีความสุข
แม่ก็สงสัยตัวเอง

ลองนั่งคิดจนได้ข้อสรุปว่า เพราะแม่ประยุกต์วิธีทางธรรม มาใช้โดยไม่รู้ตัวนั่นเอง

 

โดยคิดเหมือนกับการปลูกต้นไม้ ปลูกให้เสร็จทีละต้น
แม่ก็ทำงานให้เสร็จทีละวัน ทีละวัน ทีละชิ้นงาน

 

อ่านสไลด์กล้ามเนื้อทีละห้าเคส ทำงานวิจัยทีละหน้า เขียนโน้ตย่อทีละบท ถามอาจารย์หรือนักวิทยาศาสตร์ทีละเรื่อง ฯลฯ

พยายามตั้งสติ มุ่งมั่นแต่ไม่ตึงจนเครียดเกินไป

 

ลูกมีต้นทุนที่มากกว่าแม่ ลูกได้ภาษาอังกฤษเป็นพื้นฐานแล้ว
ลูกมีความมั่นใจในตัวเอง มีความสนใจใฝ่รู้ในเรื่องหลาย ๆ เรื่อง รวมทั้งการเรียน (และเกมส์ เอ๊ย ไม่ใช่และการใช้งานคอมพ์หรอก แม่แซวเล่น)

เพราะฉะนั้นขอให้ลูกรักษาส่วนดีตรงนี้ไว้ และดำรง หรือคงไว้ซึ่งสติ

สติเป็นข้อธรรมที่กำกับให้เราระลึกตัวเองบ่อย ๆ ว่า เรากำลังทำอะไรอยู่

เรามาเรียน และเราตั้งใจมาเก็บเกี่ยวความรู้ ไม่เร่งรีบแต่ไม่ปล่อยให้เวลาผ่านไปเฉย ๆ

หมั่นใคร่ครวญ ถึงสติ ระลึกบ่อย ๆ จนระลึกได้เองโดยอัตโนมัติทุกขณะ

 

สติช่วยเตือนเราว่า เรามาเรียนที่ต่างแดนเพราะอะไร
ตรงนี้คือหน้าที่ของลูก

หรือจริง ๆ คือ หน้าที่ของ สติ ของลูกนั่นเอง

 

ลูกควรฝึกตนให้ระลึกถึงสติ สติที่จะทำตามฉันทะ ความพอใจที่ลูกมีและเลือก

พ่อกับแม่ให้เกียรติ ให้ความไว้วางใจลูก เพราะเห็นลูกมีฉันทะที่ดี เราจึงส่งเสริม

เพราะฉะนั้น สติ จึงเป็นสิ่งสำคัญมาก

มีธรรมอีกหลายหัวข้อ หลายเครื่องมือ หรือตัวช่วย ที่จะมาเป็นผู้ทำหน้าที่ช่วยลูกหรือ ทำแทนลูก ตลอดเวลาอีกนอกจากสติ เช่น กัลยาณมิตรหรือการคบเพื่อนที่ดี (รวมทั้งคุณครูด้วย) การมีความกตัญญู กตเวที การรักษาศีล การคิดใคร่ครวญอย่างลึกซึ้งฯลฯ

ธรรมที่ดี ที่เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวมนุษย์เรา นั่นแหละเป็นผู้ช่วยให้เรา ประสบความสำเร็จ ความเจริญ สำเร็จเรื่องการเรียน การงาน โดยไม่เครียด

เพียงแต่ทำไปเรื่อย ๆ โดยทำทุกวัน ทุกนาที ทุกขณะ

อย่างมีสติ ทำแบบรู้ตัว มีจุดมุ่งหมาย
มีกัลยาณมิตร มีครู มีเพื่อนที่ดี ชี้นำแนวทางที่ดี ไม่หลงผิด หลงทาง
มีความกตัญญู รู้บุญคุณผู้มีพระคุณ
มีกตเวที คิดตอบแทนผู้มีพระคุณ คือ พ่อแม่ ครู เพื่อน ทำให้เราทำดี ไม่ทำผิด

มีโยนิโสมนสิการ ใคร่ครวญอย่างลึกซึ้งถึง เรื่องกุศล และอกุศล
มีสัมมาทิฎฐิ คิดดี สัมมาวายามะ สัมมาสมาธิ

...

 

 

 

 

โอยต้องยกไปคุยกันต่อ ฉบับหน้า

หวังว่า ลูกคงอ่านเข้าใจ ไม่เบื่อ

จะแซวแม่อีกก็ได้ว่า มีพระคัมภีร์ อีกแล้ว เหมือนตอนลูกเด็กๆ ที่แซวแม่ว่า "ชวนม่วนซื่น" หนังสือธรรมเล่มเล็ก ที่อ่่านง่ายและขำ ๆ เป็นพระคัมภีร์ของแม่

ความคิดที่แม่คิดว่าดี สรุปได้ อยากให้ลูกรู้ ถึงได้ตั้งใจเขียนมาให้ลูกอ่าน

รักลูกมาก รักเยอะ(สำนวนพ่อ)

 

แม่เอง
--

หมายเลขบันทึก: 498447เขียนเมื่อ 13 สิงหาคม 2012 07:33 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 ตุลาคม 2013 19:47 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (29)

อ่านแล้วทำให้นึกถึงbutterfly effect   ชอบวิธีคิดแบบนี้จังคะขออนุญาตแชร์นะคะ

ข้อคิดข้อเขียนแบบนี้ ไม่ว่าลูก หรือ ใครๆ ก็อ่านไม่รู้เบื่อหรอกครับ ท่านอาจารย์ ขอบคุณนะครับ

ขอบคุณที่เติมความอิ่มอร่อยของการดำเเนนชีวิต

น้องหมอป. ปัทมาคะ(ก๊อปรูปลงมาไม่ได้..)

พี่เขียนจดหมายให้ลูกเพราะนอนฟังเสียงธรรมของพระอาจารย์ไพศาล วิสาโลตั้งแต่เมื่อคืน ท่านกล่าวสอนทำนองนี้

และชอบใจที่ตัวเองกำลังพยายามบันทึกเรื่องราวการปลูกต้นไม้เมื่อสี่ห้าปีก่อน สมัยเมื่อไม่รู้เรื่องต้นไม้เลย จนกระทั่ง รู้ ขึ้นมาบ้าง(พอตัว) ต้นไม้ที่ปลูกเติบโตขึ้นทุกวัน ต้นไม้(ต้นความอดทน, รอคอย และต้นเฝ้ามองความเป็นไปของต้นไม้)ในใจพลอยโตขึ้นมาด้วย เมื่อมีความสุข รู้สึกสมองแล่น จึงพิมพ์จดหมายแมวถึงลูกได้ยาวเหยียด

เมื่อกดส่งลูก แล้วจึงนำมาบันทึก วันนี้ ลูกตอบกลับมาคำเดียวว่า

"แง้ว"

นั่นแสดงว่า เขาอ่านและชอบค่ะ

* รักลูก..ถูกทาง..ด้วยถ่ายทอดคุณธรรม..นำชีวิต..

* ยินดีด้วยกับความสุขดีๆเช่นนี้ค่ะ..

ตรงกับคำที่ว่า "หางานให้.....จิตทำ" นำหลักธรรมมาใช้ที่ได้ผลเสมอครับ

ขอบคุณครับ อาจารย์ Blank

..โย นิ โส ม น สิการ..เจ้า..ค่ะ.."ยายธี."...(..ต้นไม้..เป็น.ทั้ง ครูทั้งแม่..สอน..ธรรม..ทั้งๆที่..ไม่พูด.ภาษาคน."ยิ่งใหญ่จริงๆ....อ้ะะๆๆ..)....นะเจ้าคะ..คุณภูสุภา..

สวสดีค่ะท่าน Blank ภูสุภา  หวังว่าท่านคงจะสบายดีนะคะ

ชอบคำที่สอนลูก  ของท่านมากค่ะ

 

คำสอนของพระไพศาล วิสาโล มีหัวข้อหนึ่งพูดถึงการทำงาน แม่จึงคิดไปถึงการเรียนของลูก และของแม่ด้วย

พระท่านสอนว่าการทำงาน(และการเรียน) คือสิ่งที่ต้องทำไปเรื่อย ๆ คือการปฎิบัติธรรมอย่างหนึ่ง

...

แม่จึงมาเติมคำว่า การเรียน เพิ่มเข้าไป แล้วเขียนจดหมายให้ลูกน่ะค่ะ

เวลาที่เราอยู่ใกล้ ๆ กัน เมื่อต่างคนต่างอ่านหนังสือเงียบ ๆ จะมีที่ลูกชายหรือแม่ยื่นหัวไปแอบดูว่า อ่านถึงตรงไหน บางทีเขาก็หยิบยกเรื่องที่เขาอ่าน นำส่วนที่เขาชอบหรือคิดว่าน่าเล่าให้แม่ฟัง หยิบยกขึ้น มาเล่าหรือพูดคุยกัน

ระยะหลังแม่อ่านหนังสือธรรม ติดใจตรงไหนจึงเล่าบ้าง

ลูกชายเป็นนักฟังที่ดีค่ะ

คิดว่า เขาคงได้ไปบ้างจากการฟังแม้ว่า เขายังไม่เคยหยิบอ่านเอง

 

หน้าที่แม่ คิดว่าควรถ่ายทอดคำสอนแบบนี้

ขอบคุณนะคะที่ตามอ่าน 

ชอบอ่านบันทึกเช่นนี้ครับ อ่านแล้วเกิดปิติครับคุณหมอภูสุภา ขอบคุณมากนะครับ

Blankอาจารย์ชยันต์คะ สวัสดีค่ะ ลูกยังเด็ก(เสมอ ในใจแม่) อายุย่างสิบสี่ ความสนใจค่อนไปทางเรื่องเกี่ยวกับไฮเทคโนโลยี จึงกลัวลูกเบื่อเรื่องที่แม่อยากคัดลอกคำและความคิดมาสอนค่ะ

ยังดีว่าลูกชอบอ่านหนังสือ จึงยังมีเรื่องให้คุยกันเรื่อย ๆ เช่นตอนที่กลับมาพบกันเมื่อเดือนเจ็ด แม่อ่านพุทธธรรม ลูกอ่านนิยายของผู้เขียนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญทางภาษา เรื่อง Deaf Sentence เขียนโดย David Lodge ซึ่่งเป็นหนังสือที่อ่านไม่ง่าย หมายถึงต้องนั่งคิดจึงจะขำลึก ๆ จึงได้โอกาสผลัดกันเล่าเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย แลกเปลี่ยนกัน

แม่อ่าน ก่อนเล่าหาวิธีเชื่อมโยงให้เขานึกตาม บางทีก็อธิบายไม่ได้

มาฟังธรรมคำสอนของพระไพศาล วิสาโลทีหลัง ใช่เลย พระคุณเจ้าอธิบายได้เข้าใจง่าย ๆ จึงดีใจ เขียนเป็นจดหมายให้ลูกอ่านบ้าง

ขอบคุณนะคะที่ติดตามอ่าน เกิดกำลังใจ จะพยายามเขียนเล่าให้ลูกฟังอีกและลงบันทึกค่ะ

Blankดิฉันติดตามครูน้อยที่บล็อก ชอบดูภาพถ่ายที่ครูน้อยถ่ายมาจากโรงเรียน

และชอบบันทึกด้วย เขียนบ่อย ๆ นะคะ

Blankพี่ใหญ่คะ ลีลาวดีงามจัง พาให้คิดถึง ขาวพวงของน้องที่บ้าน :-)

Blankอาจารย์ วิชญธรรม ขอบคุณค่ะ

ชอบภาพหนูน้อยคนนี้จัง น่ารักเชียวค่ะ

Blank ยายธี คะ ต้นไม้ยิ่งใหญ่แม้จะเป็นต้นใหญ่ ดอกฟ้า หรือดอกหญ้าเจ้าค่ะ

มาเพิ่มรูปประกอบหน่อยค่ะ


แสงแห่งความดีBlank เพราะใจที่เป็นห่วง ลูก จึงพยายามหววิธีใดที่ลูกจะมีหลักยึด

คำสอนจากพุทธองค์ น่าจะเป็นคำตอบ

ความไม่ง่ายอยู่ที่ เราเข้าใจดีหรือยัง

เราจะอธิบายให้ง่าย ให้เข้าใจได้อย่างไร

 

น้องแสงช่วยพี่คิดหรือfeedback ด้วยนะคะ

ขอบคุณค่ะ

Blankครูทิพย์คะ วันนี้มาย้ายคำสอน จริง ๆ เป็นเรื่องชวนคุยกันไปที่
เรื่องกล้วย ๆ ที่แม่คุยกับลูก ค่ะ

กว่าจะเอามาคุยกัน หลายเรื่องเราไม่ได้มาแบบกล้วย ๆ เลย

 

การงาน คือสิ่งต้องทำไปเรื่อย ๆ 

สุขสันต์วันทำงานอีกวันหนึ่ง วันนี้จะนำเสนองาน 

 

สวัสดีครับ

แวะมาอ่านบทความดี ๆ (จากแม่กับลูก และลูกถึง Gotoknow)

อ่านธรรมของแม่และรู้สึกว่าดีพอ ๆ กับธรรมะของพระเลยนะครับ

เพราะแม่เป็นครู เป็นอานุเนยยะบุคคล เป็นพระอรหันต์ ที่ดีกว่าพระเสียอีกนะครั

ขอคอมเม้นนิดหนึ่งนะครับ เรื่องการปลูกต้นไม้นะครับ

หน้าที่เราก็คือปลูก และดูแลรดน้ำ เพิ่มปุ๋ยให้ต้นไม้ ส่วนต้นไม้จะเป็น หมายถึง อยู่รอดนั้น ไม่ใช่หน้าที่เรา หน้าที่เอาตัวเองให้รอด เติบโต งาม ออกดอกออกผลคือหน้าที่ของต้นไม้

อ่านละรู้สึกว่า  ถ้าเราไม่ดูแลมันว่าจะอยู่หรือตาย มันคิดว่าไม่ควรที่จะปลูกนะครับ เราอย่าลืมนะครับว่า ถ้าต้นไม้มันอยู่ของมันดี ๆ แล้วเราย้ายมันไปปลูก (แยกออกจากดินเดิม) เราก็ควรที่จะรับผิดชอบมันนะครับ แต่ถ้าเราหว่านเมล็ดผมคิดว่ามันจะเป็นหรือตาย ก็ไม่ใช่หน้าเรานะครับ 

แต่ถ้าไปซื้อต้นไม้มา แสดงว่าเราได้แยกต้นไม้ออกจากดินเดิมเสียแล้ว หน้าที่ความเป็นหรือตาย ก็จะต้องตกเป็นหน้าที่ของไปด้วยนะครับ

Original_images 

เซลล์กล้ามเนื้อที่ระบบขับเคลื่อนพลังงานด้วยไมโตคอนเดรียบกพร่อง อาจเกิดจากความผิดปกติตั้งแต่จีน(gene) ในไมโตคอนเดรียเอง หรือผิดปกติของจีนเจ้านาย (geneของนิวเคลียส)ทำให้ขบวนการเกี่ยวกับการใช้พลังงานแบบใช้ขบวนการอ็อกซิเดชั่นเสีย ทำงานต่อไปไม่ได้

ไมโตคอนเดรียที่ผิดปกติจะตกตะกอนจับกลุ่มกันเห็นเป็นสีแดงในการย้อมเอ็นไซม์ และการย้อมสี trichrome เทคนิค modified Glomeri Trichrome เห็นเป็นสีแดง

คล้ายเดินบนแผ่นดินสีเขียวแล้วเจอะหน้าผาสีแดงกระทันหัน..

สวย จนเกิดจินตนาการ

 

แต่คนไข้อาการ หนัก

Blank   หน้าที่เราก็คือปลูก และดูแลรดน้ำ เพิ่มปุ๋ยให้ต้นไม้ ส่วนต้นไม้จะเป็น หมายถึง อยู่รอดนั้น ไม่ใช่หน้าที่เรา หน้าที่เอาตัวเองให้รอด เติบโต งาม ออกดอกออกผลคือหน้าที่ของต้นไม้


น้องคะ ต้องขอบคุณมาก ๆ เลย พี่ต้องกลับไปแก้ข้อความข้างบนใหม่ค่ะ อ่านแล้ว สั้น ห้วน พาให้ถูกตีความเช่นนี้ได้


ตามที่เคยคุยกันกับลูก พี่หมายจะให้หมายความว่า...


เราปลูกต้นไม้ เราปลูกด้วยวิธีการที่ดี ถูกหลักการปลูก ทุ่มเทเวลาดูแลเหล่าต้นไม้ แต่นอกจากนั้น มีองค์ประกอบอื่น ๆ อีกมากมายเช่น ดินฟ้าอากาศ ฝน แสงแดด ที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของต้นไม้

คราวนี้ต้นไม้จะอยู่รอดปลอดภัย หรืองดงามเพียงใด ขึ้นกับต้นไม้ต้นนั้นเอง

เปรียบดั่ง เรา พ่อแม่ ให้ความรัก ความเอาใจใส่ พร่ำสอนดูแลลูก แต่การที่เขาจะเติบโต มีความคิดความอ่าน สติปัญญา มีความรู้เต็มคน

มีองค์ประกอบหลายสิ่งจากสังคมรอบตัวร่วมด้วย


ลูก ต้องมีความรู้สำนึกในใจตน ด้วย...



ยาวสักนิด เดี๋ยวขอเวลาเกลา แล้วโพสต์แก้ไขค่ะ

ขอบคุณคุณลูกสายลมมาอีกครั้งอย่างมากค่ะ


  • สงสัยต้องดึงสมุดพี่หมอเล็กเข้าแพลนเน๊ตหลายสมุดเลยมังคะ อิอิ
  • น่าสนใจให้แง่คิด ให้ความสุขทุกบันทึกเลยค่ะ

Blank ของทุก ๆ ท่านเลยนะคะ ทุกคนเขียนเพราะมีความสุขในการเขียน เขียนเพื่อแบ่งปันความสุข อืม ทำไงดีล่ะ โกทูโน ห้องสมุดใหญ่แห่งความสุขนั่นเอง

มาอ่านแนวคิดของตัวเอง ณ ช่วงเวลาดี ๆ ของชีวิต

วันนี้ ล้ามากกับการงาน

และ

...

มาแวะอ่านอีก คิดถึงลูกครับผม

มาแวะอ่านบันทึกนี้ time flies  fast
เวลาผ่านไปเร็ว ลูกยังอยู่ไกลบ้าน พูดคุยกันล่าสุด เจ้าตัวแสดงความจำนงว่า จะมุ่งมั่นทำหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุด

ขอบันทึกไว้หน่อยค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท