ข้อเท็จจริง บางประการ เกี่ยวกับเด็กวัยรุ่น : พฤติกรรมการยกพวกตีกัน


เมื่อความร้อนแห่งอารมณ์นั้นได้รับการควบคุมให้เย็น สงบ นิ่งสนิท เมื่อนั้นพลังที่แฝงเร้นอยู่ในตัวตนจะพัฒนาเป็นเพลังทางปัญญาอันจะนำมาซึ่งความเจริญก้าวหน้าทั้งต่อตนเอง สังคม และประเทศชาติ ได้อย่างไม่น่าเชื่อ เฉกเช่นลาวาภูเขาไฟ

          เรื่องราวเกี่ยวกับพฤติกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์ โดยเฉพาะพฤติกรรมที่นำไปสู่ความก้าวร้าว รุนแรงของวัยรุ่นที่ก่อให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมามากมาย มองว่า แค่เพียงหนึ่งพฤติกรรมแห่งความก้าวร้าว รุนแรง แต่อาจจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างทั้งเชิงบวกและเชิงลบ แต่จะมุ่งหนักไปในเชิงลบการทำลาย...ทำร้ายเสียมากกว่า ผลกระทบแห่งการเปลี่ยนแปลงย่อมเกิดขึ้นทั้งต่อตนเอง สังคม และประเทศชาติ วัยรุ่นนับเป็นวัยแห่งการย่างก้าวเข้าสู่วัยผู้ใหญ่อันเป็นกำลังผลิตสำคัญของประเทศชาติให้มุ่งสู่ทิศทางแห่งความเจริญรุดหน้า หรือถอยหลังประชิดฝาเข้าคลองจมหายไป ก็เป็นได้ทั้ง 2 ทาง และต้องอาศัยช่วงจังหวะนี้เป็นช่วงแห่งการพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส เพราะแท้ที่จริงแล้วการพัฒนาชาติคงต้องพึ่งพิงกลุ่มคนหนุ่มคนสาวที่มีพลังแห่งความสมบูรณ์ที่สุดในช่วงวัยของชีวิต และกินเวลานานกว่าจะหมดเรียวหมดแรงไปในที่สุด

          พัฒนาการของวัยรุ่นเป็นตัวกระตุ้นที่ก่อให้เกิดพฤติกรรมต่าง ๆ มากมาย สภาพแวดล้อม การอบรมเลี้ยงดูของบิดามารดา ครอบครัว ล้วนแล้วแต่มีส่วนสำคัญยิ่งต่อการเกิดพฤติกรรมก้าวร้าว รุนแรง พบว่า พฤติกรรมบางอย่างแฝงเร้นร้อนระอุอยู่ในกาย เปรียบเสมือนภูเขาไฟที่รอคอยวันจะปะทุระเบิดออกมาเป็นลาวาอันร้อนแรงที่แผ่ทำลายทั้งตนเอง สังคม และประเทศชาติให้ย่อยยับภายในพริบตา แต่หากลาวาที่ร้อนระอุที่ประทุออกมานั้นเย็นสงบลง นิ่ง สนิท จะพบว่าพื้นผิวดินบริเวณนั้นย่อมเต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ของแร่ธาตุต่าง ๆ ที่เหมาะแก่การเกษตรกรรม แร่ธาตุที่ตกผลึกเหล่านั้นสร้างความเจริญเติบโตสวยงามให้กับพืชพันธุ์นานาชนิด ได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ ภูเขาไฟแห่งลาวาร้อนจึงเปรียบได้กับพฤติกรรมของวัยรุ่น ที่เต็มไปด้วยความร้อนแรงแห่งอารมณ์ และความร้อนแรงแห่งพลัง หากระเบิดออกมาก็เท่ากับความหายนะของพื้นแผ่นดินและสรรพสิ่งที่อยู่รายรอบ หากแต่ในทางตรงข้าม  เมื่อความร้อนแห่งอารมณ์นั้นได้รับการควบคุมให้เย็น สงบ นิ่งสนิท เมื่อนั้นพลังที่แฝงเร้นอยู่ในตัวตนจะพัฒนาเป็นเพลังทางปัญญาอันจะนำมาซึ่งความเจริญก้าวหน้าทั้งต่อตนเอง สังคม และประเทศชาติ ได้อย่างไม่น่าเชื่อ เฉกเช่นลาวาภูเขาไฟ ที่เอ่ยไว้ข้างต้น

          เมื่อเช้า (11 กันยายน 2548) เข้าไปสืบค้นข้อมูลจากเดลินิวส์ เรื่อง ความขัดแย้งของนักศึกษาอาชีวะ พบว่า นักศึกษาชั้นปีที่ 1 ของสถาบันแห่งหนึ่งถูกยิงเสียชีวิตบนสะพานลอยย่านศูนย์การค้า ด้วยฝีมือของนักศึกษาต่างสถาบัน สาเหตุสืบเนื่องมาจากต้องการแก้แค้นแทนเพื่อนร่วมสถาบันเดียวกันที่ถูกฆ่าก่อนหน้านี้และได้สืบสาวว่าเป็นฝีมือของสถาบันฝ่ายตรงข้าม จึงได้วางแผนล่าตัวนักศึกษาอีกฝ่ายไม่ระบุตัวแต่ต้องมีบุคลิกเป็นเด็กเรียน สุภาพเรียบร้อย เพื่อง่ายต่อการลงมือกระทำแล้วลงมือสังหารโหด เมื่ออ่านจบจึงทบทวนประเด็นดังกล่าว ซึ่งหากจะว่าไปแล้วมนุษย์เราทุกคนรักชีวิต รักเกียรติ รักศักดิ์ศรี รักพวกพ้อง รักความถูกต้อง ความยุติธรรมกันทุกคน พอพูดมาถึงประเด็นนี้จึงย้อนถามตนเองว่าอะไรเป็นสาเหตุให้วัยรุ่นยกพวกตีกัน เพราะความรักเกียรติ รักศักดิ์ศรีเหรอ เพราะความรักพวกพ้อง รักความถูกต้องใช่หรือไม่  หรือเพราะว่าสังคมนี้ยังมีความอยุติธรรมอยู่อีกมาก จึงทำให้พวกเขาดิ้นรนเพื่อเรียกร้องเรียกหาสิ่งเหล่านี้กัน ทางออกแห่งการเรียกร้อง คือ การยกพวกตีกันรุมทำร้ายกันเพื่อให้ย่อยยับเช่นนั้นหรือ หรือต้องการเรียกร้องศักดิ์ศรีของพวกตนกลับคืนมา แล้วความถูกต้องความยุติธรรมอยู่มุมไหนของสังคมนี้

          ย้อนมาตอบคำถามของตัวเองว่าสิ่งต่าง ๆ ที่กล่าวอ้างมานั้น น่าจะเป็นมูลเหตุหนึ่งแห่งพฤติกรรมก้าวร้าวของวัยรุ่น แต่อย่างไรก็ตามในความมืดยังมีสิ่งที่เรามองไม่เห็นอีกมากมาย ที่มองเห็นอยู่ก็ใช่ว่าแน่ กระบวนการหาความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นน่าจะต้องลงไปคลุกคลีตีโมง หรือไม่ก็เข้าไปพูดคุยกับคนที่ได้หลุดพ้นออกมาแล้ว เพื่อสะท้อนภาพการคิด มุมมอง และสะท้อนจุดเปลี่ยนที่เกิดขึ้น หากย้อนเวลาได้ คำตอบที่ใช่ อาจจะแทนความจริงได้มากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ ซึ่งล้วนเกิดจากการคาดเดา ไปตามฐานทฤษฎี ก็เป็นได้

          ในความมืดที่ยังไม่สามารถอธิบายความจริงแห่งพฤติกรรมบางอย่างได้ มีประเด็นหนึ่งที่น่าสลดใจเมื่อสืบค้นเข้าไปในแว๊บไซด์เดียวกัน เรื่อง จับครบทีมแล้ว 5โจ๋ทรชนรุมโทรม ม.3 ดับ และขอไว้อาลัยกับเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย “น้องปุ๋ย” (นามสมมติ) เด็กนักเรียนชั้น ม.3  ที่ถูกรุมโทรม เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยถูกล่อลวงจากนางนกต่อ เพื่อให้เพื่อนรุมโทรม แต่ที่น่าตกใจหนึ่งในนั้นมีผู้ปกครองที่เป็นนักการเมืองท้องถิ่นอยู่ด้วย และพยายามวิ่งเต้นเพื่อให้ลูกพ้นคดี  ภายหลังจากเกิดเหตุแล้ว “น้องปุ๋ย”  ก็เสียชีวิตลง เมื่อทราบว่าตัวเองเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว ได้เกิดอาการเครียด จนล้มป่วยและตรอมใจตายในที่สุด ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าว จำนวน 5 คน ล้วนแล้วแต่อยู่ในช่วงวัยรุ่น หนึ่งในนั้นเคยต้องคดีร่วมกับเพื่อนอีก 4 คนรุมโทรมหญิงมาแล้ว เมื่อตอนอายุเพียง 17 ปี โดยถูกศาลตัดสินจำคุก 1 ปี 6 เดือน เมื่อออกจากคุกมาก็ไม่ได้ประกอบอาชีพอะไรเป็นเรื่องเป็นราว จนมาทำผิดซ้ำเดิมอีกครั้ง

          ในประเด็นดังกล่าว อะไรคือความจริงแห่งพฤติกรรมวัยรุ่น ภาพที่สะท้อนชวนให้คิดไปว่า สิ่งที่เด็กขาดหายไปใช่ความรัก ความอบอุ่นจากครอบครัวใช่หรือไม่ พ่อแม่ผู้ปกครองขาดการอบรมสั่งสอน ห่างเหินลูกเกินไปหรือเปล่า คุณธรรมจริยธรรมเคยปลูกใส่ฝังเข้าไปในตัวลูกมากน้อยเพียงใด ผิดถูกดีชั่วเคยสอนลูกกันหรือไม่ เวลาที่หายไปกับวัตถุสิ่งของที่ได้มา หากแลกกับความดีที่ขาดหายไปในตัวลูกคุ้มกันเช่นนั้นหรือ

          ตอนต่อไปจะได้ว่าด้วย...พฤติกรรมการก่ออาชญากรรมของวัยรุ่น ซึ่งยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ และปัญหาดังกล่าวคงต้องร่วมมือร่วมใจกันจากผู้ที่เกี่ยวข้องหลาย ๆ ฝ่าย ด้วยใจที่เข้าใจกันจึงจะผลักดันให้ปัญหาดังกล่าวถูกขจัดให้หมดไปจากสังคม

หมายเลขบันทึก: 49577เขียนเมื่อ 11 กันยายน 2006 20:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 21:26 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (15)
  • ไม่ทราบว่าเกิดอะไรในสังคมวัยรุ่น
  • พยายามทำความเข้าใจ แต่ยังไม่เข้าใจสักที
  • ขอบคุณมากครับผม

 

    Pouty





วันนี้ยังไม่มีไอเดียว่าจะต่อยอดเรื่องวัยรุ่นยกพวกตีกันกับอาจารย์น้องอย่างไรดี!......

แต่มีเรื่องคับอกคับใจเกี่ยวกับวัยรุ่นหญิงมาเล่าให้ฟังอีกเรื่องหนึ่ง...วันนี้เมื่อตอนเย็นพอดีมีกิจจำเป็นต้องเข้าไปเดินห้างแถวที่ทำงาน...เจอน้องสาวสวยอยู่สองคนอายุมากกว่าสิบหกไม่น่าจะเกินสิบแปดปี เธอแต่งหน้าและแต่งกายสวยดี...แม้ในความรู้สึกของคนเริ่มแก่เช่นดิฉันจะรู้สึกว่ากางเกงและเสื้อน้องเขาอาจจะดูเล็กไปสักหน่อยแต่ก็ยังดีกว่าน้องเขาไม่สวมใส่อะไรเลยแล้วมาเดินที่ห้างสรรพสินค้า...ก็ต้องขอโทษเจ้าตัวเขาด้วยที่เราเผอิญได้ยินเรื่องที่น้องสองคนเขาคุยกันในร้านอาหารซึ่งดิฉันนั่งโต๊ะถัดไปจากน้องเขาจับประเด็นได้ความว่าน้องสองคนเขารอเพื่อนผู้ชายคนหนึ่งมารับไปถ่ายวีดีโอคลิปด้วยกัน..ระหว่างเขาเล่าถึงรูปร่างหน้าตาและคารมคมคายของหนุ่มคนนั้น..อีกสาวหนึ่งก็พูดถึงเพื่อนผู้หญิงอีกคนหนึ่งว่าเป็นอย่างไรเพื่อนคนที่โดนถามก็ยักไหล่แล้วลดเสียงลง(แต่ก็ยังดังพอให้ดิฉันได้ยินอยู่ดี)ว่าฉันว่า...มันต้องเป็นฮีททีเรียแน่ๆ ต้องนอนกับผู้ชายเกือบทุกวันเลย...อีกสาวก็ทำน้ำเสียงสงสารตอบกลับว่าคนเป็นโรคนี้บางทีก็น่าสงสารนะ...ดิฉันฟังแล้วก็อยากอธิบายน้องเขาให้เข้าใจเกี่ยวกับโรคฮีททีเรีย อยู่เหมือนกันว่าไม่จำเป็นต้องเป็นผู้หญิงที่มีพฤติกรรมไปนอนหรือมีเพศสัมพันธ์บ่อยๆอย่างที่น้องเขาเข้าใจผิด แต่พวกที่แบบเรียกร้องความสนใจอย่างมากมายจากผู้อื่นซึ่งอาจแสดงพฤติกรรมอ่อนแอทางกาย หรือ มีอาการของขึ้นประจำเมื่อถูกขัดใจก็อาจเป็นพฤติกรรมแสดงอย่างหนึ่งของฮีททีเรียได้

แต่พอดีน้องเขาถามกันเองต่อไปว่าวันนี้คลิปที่เขาจะถ่ายจะมีลักษณะอย่างไรน้องคนที่เคยถูกจีบก็ให้คำตอบที่ทำให้ดิฉันยังปวดหัวอยู่ไม่หายว่า"เป็นแบบแลกคู่"...ฟังมาแค่นี้ดิฉันเลยรีบอิ่มออกมาก่อนน้องเขาจะรู้ว่าตอนนี้นอกจากเพื่อนที่เขาว่าป่วยเป็นฮีททีเรีย(แต่ดิฉันว่าอาจไม่ใช่ฮีททีเรียก็ได้)ที่น่าสงสารแล้ว..น้องสองคนเองก็น่าสงสารเหมือนกัน...ขอจบแบบห้วนๆเท่านี้ล่ะค่ะ

  • กลับมาอ่านอีกยิ่งอึ้งกว่าเดิม
  • ใครพออธิบายได้บ้างว่าเกิดอะไรขึ้นในสังคมไทย
  • ขอบคุณครับ
  • แวะมาขอบคุณครับ
  • ว่างๆช่วยเอาน้องนิว จอมยุ่งเข้าแพลนเน็ตหน่อยซิครับ
  • หาไม่เจอ ตัวอะไร น่า มูนๆชมพู ชมพู
  • ใช่ข้าวเหนียวมูนไหม จำไม่ได้
  • แวะมาดูว่าวัยรุ่นเลิกตีกันหรือยัง
  • เดี๋ยว วันรุ่น เซ็งนะ
  • วัยรุ่น ตอนปลาย สายอาชีพ หายไปครับ
  • พบบ้างไหมครับ
  • มารออ่านเรื่องครับผม
  • ขอบคุณครับ
  • อ่านเรื่องที่คุณ Vij เล่าว่าน่าอนาถแล้ว เรื่องของน้องขวัญยิ่งน่าอนาถกว่า เด็กวัยรุ่นสมัยนี้เขาไม่รู้จักยาง...อายกันแล้วใช่ไหมเนี่ย ?
     จด ๆ จ้อง ๆ ว่าจะบอกเล่าออกไปดีไหมที่ช่วงหนึ่งในชีวิต มีเหตุการณ์เฉกเช่นชื่อเรื่องเกิดขึ้นหลายครั้งหลายครา ทั้งเป็นฝ่ายรุกและรับ ปรัชญาตอนนั้นมีอยู่ว่า "ศักดิ์ศรี, เจ้าถิ่น, เอาคืน, อย่าหยาม, ระวังตัวให้ดี อย่ามีพลาด, ..." เลวร้ายสิ้นดี ไปไหนทีต้องระวัง หาความสุขสงบไม่ได้เลย แต่ถอนตัวเร็วไปก็ไม่ได้ เพราะเพื่อน ๆ อีกหลายคน ยังไม่ได้เอาคืน
     อีกมากมายสารพัดที่จะยกมาอ้าง

ชอบบททิ้งท้ายที่ว่า อะไรคือความจริงแห่งพฤติกรรมวัยรุ่น

ปีที่ผ่านมา ได้ทำรายงานเรื่อง Adolescences and risk behaviors: why do they do? มีทฤษฎีทางจิตวิทยาและจิตวิเคราะห์ที่อธิบายที่มาของพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆของวัยรุ่นได้อย่างน่าสนใจ ทำให้เข้าใจวัยรุ่นมากขึ้น ที่สำคัญคือได้ทบทวนและเข้าใจตนเองอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

 

ขอบคุณ คุณ "ขจิต" มากค่ะ ที่เข้ามาถามไถ่ในทุก ๆ วัน แต่ชักไม่แน่ใจแล้วซิค่ะว่า "วัยรุ่นตอนปลาย สายอาชีพ" นี่ใครกัน คุ้น ๆ นะคะ เหมือน ๆ จะเข้าตัวซะแล้วซิ นั่นนะสิค่ะไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับวัยรุ่นกันแน่...หากได้คำตอบที่แน่ชัดจะมาชี้แจงแถลงไขให้ คุณ "ขจิต" ทราบค่ะ

ความละเอียดอ่อนแห่งจิตใจในวัยรุ่นแต่ละคนเป็นเรื่องที่เข้าใจอยากมากค่ะ อ่อนจนเปราะบาง มักจะแตกหักเอาได้ง่าย ๆ หากคนที่ใกล้ชิดไม่คอยดูแลให้ความรักที่ถูกที่ควร เด็กอาจจะลื่นไถลล้มคว่ำลงได้ง่าย ๆ

ขอบคุณ คุณ "ขจิต" อีกครั้งค่ะ...วัยรุ่นไม่ต้องเซ็งนะคะ

ขอบพระคุณ คุณ "seangja" ที่นำเรื่องสยดสยองชวนขนลุกขนพองมาเล่า อึ้ง!! อย่างที่คุณ "ขจิต" อึ้งเลยค่ะ ยังถามตัวเองเลยว่าเขาบ่มเขาสอนกันมาอย่างไรกัน ถึงได้มีความคิดกันเฉกเช่นนี้ หรือพ่อแม่สอนมาดีแต่หากความเจริญทางด้านวัตถุเจริญรุดหน้าเร็วเกินกว่าความเจริญทางด้านจิตใจ ศีลธรรมหดหาย หรือเป็นเพราะตัวแบบในสังคมที่เสื่อม ๆ มีเยอะเกินไป และประพฤติปฏิบัติตามได้ง่ายกว่า ได้ผลทันตากว่า จึงไม่มีสติย้อนคิดไปถึงผลกระทบที่วิ่งตามหลังมาเป็นโขยง ขอแค่อยากมีให้เหมือนเพื่อน คุยกับเพื่อนได้ในเรื่องเดียวกัน

นี่คือการเพาะบ่มนิสัยให้เกิดความเหลวแหลกในสังคม...คุณภาพทางด้านจิตใจในเยาวชนเริ่มหดหาย ความระอายแห่งใจ อย่างที่คุณ "ศุภลักษณ์" กล่าวไว้หดหายไปไหนหมดในสังคมทุกวันนี้ จึงทำให้ย้อนคิดไปว่ากลุ่มเพื่อนมีความสำคัญมากสำหรับวัยรุ่น เด็กมักจะเชื่อเพื่อนมากกว่าพ่อแม่ ติดเพื่อน อยากมีสัมพันธภาพที่ดีกับกลุ่มเพื่อน อยากเป็นที่ยอมรับของกลุ่ม ความอยากรู้อยากลอง อยากเด่นอยากดัง ไม่คำนึงว่าพฤติกรรมแห่งตนจะถูกหรือผิด นี่เป็นสาเหตุหนึ่งแห่งการก่อเกิดและอาจจะสิ้นสุดลงอย่างน่าอนาทหากใช้ผิดทาง

ขอบคุณ คุณ "พี่ชายขอบ" มากค่ะ ที่นำเรื่องเล่าสมัยวัยรุ่นมาให้ฟัง เคยติดตามอ่านบันทึก
ของคุณพี่ค่ะ จึงพอได้ทราบถึงบางช่วงวัยความคิดของวัยรุ่นที่เลือดร้อนฉ่า ด้วยความรักเพื่อนรักพวกพ้อง รักศักดิ์ศรี ฯลฯ น่าแปลกนะคะที่วัยรุ่นจำนวนมากหลงอยู่ในวังวนแห่งอารมณ์นานและมากเกินไป จนเรียกหาสติแห่งตนกลับคืนไม่เจอ กว่าจะรู้ก็ถลำลึกเข้าไปมากเหลือเกิน มาสำนึกอีกครั้งก็เมื่อพลังแห่งความร้อนแรงในกายเริ่มแผ่วเบาลง ถูกปัดเป่าด้วยกาลเวลา ความสูญเสีย หากแต่สำนึกได้บางคนก็อาจจะสายเกินแก้เมื่อรู้อีกทีว่าอวัยวะแห่งการขับเคลื่อนแห่งตนเริ่มสิ้นสุดลงแล้ว

ปัญหาเหล่านี้ควรได้รับการเยียวยาและแก้ไขอย่างจริงจังกันได้แล้ว แต่แปลกว่ายิ่งเยียวยาปัญหากลับยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ หรือเรากำลังแก้ไขปัญหาไม่ถูกทาง หรือไม่จริงจังที่จะแก้ไข หรือมีอะไรอีกที่เรายังมองไม่เห็นในพฤติกรรมของวัยรุ่น

ขอบพระคุณ อาจารย์หมอ "FP" มากค่ะ ที่แวะมาทิ้งรอยไว้ และยินดีต้อนรับเข้าสู่ GotoKnow.org ค่ะ หากเปิดบล็อกจะรีบเข้าไป ลปรร. ค่ะ

การเข้ามาทิ้งรอยของอาจารย์หมอ ทำให้การเดินเรื่องในประเด็นที่ตนเองสนใจ...เริ่มสว่างจ้าขึ้นค่ะ รายงานเรื่อง Adolescences and risk behaviors: why do they do? ของอาจารย์หมอกับทฤษฎีทางจิตวิทยาที่อธิบายที่มาของพฤติกรรมเสี่ยงต่าง ๆ ของวัยรุ่นเป็นแนวทางให้ชวนพิศค่ะ คงต้องรีบฉกฉวยความรู้ไว้ และสืบค้นเป็นการใหญ่ค่ะ

ขอบพระคุณอีกครั้งค่ะสำหรับการทิ้งรอยความรู้ไว้ให้ฉกคิด...สำหรับเป็นแนวทางในการเดินเรื่องต่อไป

      แก้ไขLink ที่ถูกคือ จุดยืนของชีวิต คลิ้กไปตามนี้ครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท