เหตุผลที่ทำ "วิจัย"


อาจจะมีเหตุผลไม่เหมือนใคร

2 -3 วันมานี้ สงสัยผู้เขียนจะเขียนบันทึกเรื่องวิจัย มากไปหน่อย เล่นเอาคนใกล้ตัวที่เริ่มจะพักงานวิจัย มาปัดฝุ่นเขียนวิจัยต่อ 

เคยคุยกับพี่โอ ๋ว่า เราทำงานห้อง Lab น่ะโชคดี เพราะ มี  "ทรัพยากร" มากมายให้เราได้ "ศึกษา" ไม่ว่าจะเป็น "สิ่งส่งตรวจ" ที่เหลือเฟือ  พร้อม ๆ กับ "ผลการตรวจวิเคราะห์"  แต่จริง ๆ แล้วเราไม่ค่อยได้ทำอะไรในส่วนนี้มากนัก.....

ส่วนใหญ่ที่ผ่านมาห้อง Lab. เราจะมีแนวทางการทำวิจัย .......

  • เรื่องการเตรียมน้ำยา.....
  • เรื่องการเปรียบเทียบเครื่องมือระหว่างเครื่อง....กับ...
  • ผลของการเก็บรักษาสิ่งส่งตรวจสำหรับการตรวจวิเคราะห์....
  • การเปรียบเทียบผลการตรวจ....ระหว่างสิ่งส่งตรวจ....กับ....
  • ศึกษาผลการตรวจวิเคราะห์ในกลุ่ม..........

    "การทำวิจัย" แต่ละคนมี  "จุดประสงค์" แตกต่างกันไป สำหรับผู้เขียนหากใครต้องการให้ "ผลงานตีพิมพ์"์ เพื่อขอผลงานก็ไม่แปลก นั่นอาจจะเป็น "แรงจูงใจ" อย่างหนึ่ง  แต่สำหรับผู้เขียน นั่นคือ "ผลพลอยได้" ต่างหากล่ะ.. และผู้เขียนอาจจะมีเหตุผลในการทำวิจัย ไม่เหมือนใคร  เพราะ...
  • อยากให้ตัวเอง "มีสาระ" ควบคู่กับการทำงานแบบ  "สุข" และ "สนุก" ไปวัน ๆ ----ก็เลยคิดว่า หากทำ "วิจัย" ได้และมี "ผลงานตีพิมพ์" ก็่อาจทำดูว่าเราไม่ "ไร้สาระ" ในการทำงานที่ "สนุก"ไปวัน ๆ  เท่านั้น (อันนี้คิดเอาเอง)

  • การเชียนเสร็จแต่ละเรื่องไม่ใช่เรื่องง่ายเลย บางคนพอถึงขั้นตอนการเขียนก็พับเก็บเอาไว้ เผลอ ๆ หมดไฟไปก็ยังมี  ผู้เขียนก็เช่นกันผลงานชิ้นแรกผู้เขียนก็ทิ้งระยะไปพอสมควร  มีเหตุผล 108 ประการ ที่จะนำมาอ้างได้ ถ้าหาก "ไม่อยากทำ"  แต่ขั้นตอนการเขียนมันขึ้นกับตัวเองค่ะ  รับรู้อยู่กับตัวเอง ดังนั้นถ้าเขียนเสร็จ  ก็เท่ากับว่าเกือบ "เอาชนะตัวเอง" ได้สำเร็จ

  • เมื่อ "ส่งผลงาน" ผู้เขียน ต้อง "ทำใจ" มากกว่าอีกหลายเท่า เพราะ "กลัว"   ---มันจะได้เรื่องมั๊ย ?, เราจะ "ปล่อยโง่" รึเปล่า?  ใจเต้นทุกครั้งที่ส่ง  แต่บอกกับตัวเองว่า "ถ้าไมได้เรื่อง  ก็ แค่ไม่ได้รับ "การตีพิมพ์" เท่านั้นเอง การทำวิจัยของผู้เขียนส่วนใหญ่ จะนำเอา "ปัญหา" เล็ก  ๆ ที่เกิดขึ้น และอยากรู้้ มาทำค่ะ ไม่ได้เป็นเรื่องยากอะไร บางคนอาจมองว่าไม่สำคัญ แต่อันนี้ขึ้นอยู่กับ "มุมมอง"

เหตุผลของผู้เขียนอาจจะไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือน ไม่ว่าจะเป็น  "การเอาชนะตัวเอง เอาชนะความกลัว และเอาชนะเหตุผลต่างๆ  นานา" 

อีกทั้ง "การทำวิจัย"  ทำให้

"คำถาม" นั้น มี "คำตอบ" อย่าง "มีเหตุมีผล" 

และเมื่อนำมาใช้ ก็มีความ "น่าเชื่อถือ"

 

หมายเลขบันทึก: 49254เขียนเมื่อ 10 กันยายน 2006 08:10 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 16:44 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)
    สาระ!.....
  • พี่เม่ยว่านำคำนี้ใส่ไว้ในใจตนเองเพียงคำเดียวก็เพียงพอแล้วค่ะ...สิ่งอื่นๆจะติดสอยห้อยตามมาเอง....เนาะ!
ไปไกลมาก...น้องเรา    ไกลในทางดีค่ะ
.
(เพิ่งรู้..ที่พี่เม่ยพูดว่า    คุณศิริ "หลุดจากกรอบแล้ว"  จากบันทึกนั้น..เพิ่งเข้าใจนี่เอง   ว่า "หลุด"  เป็นยังไง....คิดนานข้ามวันเลย ^-^)
.
อ่านเรื่องนี้แล้วต้องหันกลับมามองวิธีคิด  วิธีทำงานของตัวเองใหม่.........ขอบคุณหนูแหม่ม
  ใจเราเท่านั้นที่สำคัญ หากเราคิดดีทำดี  จากประสบการณ์ที่ผ่านมาของพี่ทำไปเถอะน้องถ้าใจเราอยากทำ  เพราะน้องมีความคิดดีๆ มาให้สังคมเสมอ สู้เค้าค่ะคุณศิริ  จะคอยติดตามและเป็นกำลังใจ

ต่อ...ๆๆๆ

มาอธิบายคำว่า  "หลุดจากกรอบแล้ว"   (ตามที่ตัวเองเข้าใจ    ในที่นี้หมายถึงการคิดที่ไม่มี "กรอบ"  ของอะไรก็แล้วแต่   มาปิดกั้น   ทำให้คิดได้กว้างขึ้น  ไกลขึ้น   ลึกซึ้งขึ้น

ทำให้บันทึกหลังๆ ของคุณศิริ  มีมุม  ที่ต่างไป

คิด..ทำ..และเขียนต่อไป ค่ะ   มีแฟนๆ รออ่านกันอยู่

พี่เม่ย---ขอบคุณค่ะ ช่วงนีี้้เบียดเวลาเล่นคอม ฯ กับลูก  ๆ ค่ะ เหมือนเล่นเก้าอี้ดนตรีเลยค่ะ

คุณ nidnoi ---ขอบคุณที่ให้ความกระจ่างเรื่อง "หลุด" เพราะตัวเองก็ไม่เข้าใจเท่าไร ? ผู้เขียนเขียนด้วยใจค่ะ --- ด้วยใจจริงค่ะ (ผู้เขียนน่ะแปลก จริง  ๆอยากเขียนแต่ไม่ค่อยอยากให้คนอ่านเท่าไร เพราะตัวเองคิดเสมอว่า เรามันประสบการณ์น้อยและ ความคิดยังเด็ก ๆ นัก  สังเกตุได้ว่า ตัวเองยังไม่ค่อยกล้าไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับใครเขาค่ะ  ---ดังนั้นการเขียนบันทึกก็เหมือนการเอาชนะใจตัวเองอีกเช่นกัน)

คุณ Love ค๊ะ ---ขอบคุณค่ะ ยังห่วงใยและเป็นกำลังใจให้เสมอเช่นกันค่ะ  ผู้เขียนก็เชื่อค่ะ "วันและเวลา" จะเป็นเครื่องพิสูจน์ ได้ดีเสมอ ว่าแต่-เขียนบันทึกบ้างน๊ะค๊ะ-

เห็นด้วยกับคุณ nidnoi ค่ะว่าคุณศิริ "บรรลุ"แล้วค่ะ เป็นตัวอย่างที่ดีว่า การเขียนอย่างสม่ำเสมอ ทำให้เราค้นพบศักยภาพของตนเอง เขียนสบายๆแต่ได้"สาระ" ให้ข้อคิด และ"จุดประกาย"ให้คนอื่น ของคุณศิริ เยี่ยมตรงที่ เป็น"ประกายจากคุณกิจ"ตัวจริง เสียงจริงเลยนะคะ ขอชื่นชมคนกันเองด้วยความจริงใจค่ะ
เขินจังค่ะ พี่โอ๋  แต่อยากมีส่วนช่วยให้ทุกคนทำงานวิจัยกันเยอะๆ  ค่ะ วันนี้ฟังข่าว น่าจะเป็นข่าวดี ที่เขามีการสนับสนุน ส่งเสริม และมีการประกวดงานวิจัยกันตั้งแต่เด็ก ๆ  ระดับชั้นประถม มัธยม เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมใกล้ตัว
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท