ห่างหายไปจากแวดวงชาว gotoknow หลายวัน ด้วย ภารกิจอันหนักอึ้ง (แต่ไม่หนักอกนะคะ) ทำให้พลาดอ่านบันทึกสำคัญ ๆ ไปหลายบันทึก
วันนี้ หลังจากจัดทำข้อมูลพื้นฐานด้านประกันคุณภาพของหน่วยงาน กับข้อมูลพื้นฐานของกลุ่มสาขา ที่รับอาสา (อีกแล้ว) เป็นตัวแทนประสานการจัดทำข้อมูล ส่งหน่วยงานกลางเสร็จแล้ว ทำให้เหมือนยกหญ้าที่ขึ้นบนภูเขาออกจากอก ไปกอหนึ่ง (แค่กอหนึ่งนะคะ) วันนี้ เลยถือโอกาสพาลูก ๆ ไปทานข้าวกันตามประสาแม่ลูก หลังจากที่ห่างเหินลูก ๆ ไปหลายวัน วันนี้น้องฟางเล่าให้ฟังว่า
“ แม่ขา วันนี้ คุณครูตัดเล็บให้ฟางด้วยค่ะ”
“อ้าว ทำไมหละลูก คุณครูไม่ว่าเหรอ เมื่อวานแม่เห็นแล้วว่า เล็บลูกยาวเชียว แต่ไม่มีเวลาตัดให้เลย”
“ไม่ค่ะ วันนี้ คุณครูเรียกเด็กที่เล็บยาว มาตัดเล็บให้ทุกคนเลย”
“มีอะไรรึป่าวคะ”
“วันนี้ มีคณะกรรมการมาตรวจโรงเรียนค่ะ คุณครูเลยดูแลให้เด็ก ๆ แต่งตัวเรียบร้อย”
“อ้าว เหรอค่ะ คณะกรรมการมาทำอะไรคะ “
“เขามาตรวจดูแลความเรียบร้อยของโรงเรียนค่ะ”
“แล้วคุณครูให้เด็ก ๆ ทำอะไรบ้างคะ”
“คุณครูให้เด็ก ๆ ท่องวิสัยทัศน์ พันธกิจ ของโรงเรียนคะ”
“อ้าว แล้วลูกท่องได้รึป่าวค่ะ”
“ท่องได้ค่ะ ................................................(ร่ายยาวเลย)
โอ้โหแฮะ เป็นเหมือนช่วงแรก ๆ สมัยที่หน่วยงาน เริ่มทำระบบประกันคุณภาพเลยแฮะ มัวแต่กังวลว่า คนในองค์กร จะจำวิสัยทัศน์ พันธกิจไม่ได้ ถึงขนาดลงทุนทำปฏิทินพก เพื่อให้สามารถหยิบขึ้นมาท่องได้ทันที เผื่อเวลากรรมการมาประเมิน แล้วถามจะได้ตอบได้ เลยลืมนึกถึงวัตถุประสงค์แท้จริงของการประเมิน ว่าแท้จริงแล้วเพื่ออะไร ไม่ได้ประเมินเพื่อแข่งขัน แต่ประเมินเพื่อให้หน่วยงานได้มองเห็นศักยภาพของตนเอง
อันนี้อยากสะท้อนถึงการจัดอันดับของ สกอ.ด้วยนะคะ เอาสักนิดนึง ตามกระแสกับเขาบ้าง ตั้งแต่เริ่มเห็นข่าวนี้ออกมา หลายหน่วยงานออกมาแสดงความเห็นทันทีหลังจากเห็นข่าว ประเด็นแรกที่พูดถึง ต่างไม่มีใครใส่ใจคะแนน หรือ อันดับที่ถูกจัด แต่กลับไปกังวลว่าหน่วยงานตนเองอยู่กลุ่มเดียวกับหน่วยงานไหนบ้าง ควานหาคนให้ข้อมูลกันให้ควัก แต่เมื่อผ่านแวบแรกไปได้ หน่วยงานต่าง ๆ ถึงได้กลับไปดูในรายละเอียด ถึงเกณฑ์ วิธีการได้มาซึ่งข้อมูล ทำให้หลายหน่วยงานเริ่มมาให้ความสำคัญกับข้อมูลเพิ่มมากขึ้น ถามว่า ถ้าวันนั้น คนที่ขอข้อมูล บอกว่า ขอข้อมูลเพื่อนำไปจัดอันดับ มีหน่วยงานไหนบ้างที่ไม่กระตือรือล้นทำข้อมูลแบบเต็มที่ แต่สิ่งที่อยากเห็นมากที่สุด ในฐานะคนที่ทำประกันคุณภาพ คือ อยากให้ทุกข้อมูลที่มีเป็นข้อมูลที่พร้อมจะสามารถนำไปวิเคราะห์ได้ และควรให้ความสำคัญกับข้อมูลที่มี เพื่อที่หน่วยงานจะได้เห็นผลการดำเนินงานของตนเอง ว่าอยู่ตรงไหน และเรา ควรทำอย่างไรเพื่อให้สามารถพัฒนาไปถึงเป้าหมายที่องค์กรวางไว้ ถ้าทุกข้อมูลที่เรามีอยู่เป็นข้อมูลที่สะท้อนผลการดำเนินงานและภารกิจของตนเอง ไม่ว่าจะถูกประเมินด้วยองค์กรใดก็ตาม เป็นเพียงการประเมินเพื่อสะท้อนถึงผลการดำเนินงานของเราให้สาธารณะชนได้รับทราบเท่านั้น เราก็จะคลายกังวลเรื่องการถูกจัดอันดับลงไปได้ เพราะความจริง ก็คือ ความจริง
สู้ ๆ นะคะ คนทำงานด้านคุณภาพ
หายไปนานจริง ๆค่ะ ดีใจจังค่ะ ได้อ่านบันทึก อ่านแล้วนึกถึงเรื่องเล็บยาวของลูก คุณครูจะช่วยตัดให้บ่อยมาก
เหตุผลมีค่ะ
ขอบคุณ คุณศิริมากค่ะ
ตอนนี้ น้องฟ้า ก้อยังเป็นน้องฟ้าคนเดิมนะคะ เพียงแต่เปลี่ยนเป้าหมาย จากยึดตัวบุคคล เป็นยึดองค์กร ทุกอย่าง ทำเพื่อองค์กร และทำด้วยใจค่ะ ใจรักที่อยากจะทำ
เห็นด้วยกับความคิดเห็นของคุณรัตติยามากเลยค่ะ
เป็นคนที่ไม่ชอบวิธีการประเมินแบบที่ทำๆกันอยู่เลย เหมือนเราถูกสอนให้วัดคุณค่าตัวเองด้วยความเห็นของคนอื่น เราควรจะรู้มาตรฐานที่เราควรจะเป็น ควรจะทำ แล้วก็ทำตัวเราให้ได้ถึง หรือให้มากกว่านั้น ถ้าทำได้ แล้วทีนี้ ใครจะมาประเมินก็เชิญได้เลย ไม่ต้องกลัว ใช่ไหมคะ ทำไมเราต้องเป็นคนรายงานให้คนอื่นเพื่อขอความดีความชอบ เลื่อนขั้น (อีกหลายทำไม....แต่ก็สงสารกรรมการคิดแบบประเมิน เหมือนกันค่ะ...)