บนถนนที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา
ต่างแสดงพฤติกรรมสารพันสารพัด บ้างก็ยืนโดดเดี่ยวอยู่ท่ามกลางฝูงชน
บ้างก็เกาะกลุ่มคุยกัน บางกลุ่มก็นั่งเงียบสงบ
บางกลุ่มพูดคุยกันด้วยความสนุกสนาน
บางกลุ่มถึงขนาดเอะอะโวยวายตะคอกเสียงเข้าหากันด้วยความคึกคะนองแห่งวัยที่กำลังร้อนแรงด้วยอารมณ์
มองดูวิถีชีวิตที่วุ่นวายแห่งสังคมที่ถูกครอบงำด้วยความทันสมัยทางด้านวัตถุนิยม
กระแสบริโภคอันโหยหาเกินกว่าจำเป็น และอีกสารพัดสารพันปัจจัย
อันส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้านพฤติกรรมบางอย่างของวัยรุ่น
(Adolescent) ลักษณะของการถอดแบบเลียนแบบตาม ๆ กันมา
เพื่อให้ได้เข้ากลุ่มเดียวกันและเป็นที่ยอมรับของกลุ่ม
สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วเป็นดาบสองคมที่ทำให้สังคมอ่อนแอลงทุกวัน
ในขณะเดียวกันก็จะคอยเชือดเฉียดความแข็งแกร่งให้ขาดสะบั้นลง
ชีวิตได้ผ่านช่วงวัยที่เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อมาไม่นานนัก
กลิ่นไอของความคึกคะนอง อยากเก่ง อยากเด่น อยากดัง อยากรู้ อยากลอง
อยากเห็น ยังแผ่ซ่านคลุกรุ่นอยู่ในกาย
อารมณ์แห่งวัยที่รุนแรงยังแฝงเร้นอยู่ลึก ๆ
หากแต่พยายามดับด้วยความมีสติ โดยใช้ปัญญาเข้าระงับ
บวกกับประสบการณ์และกาลเวลาจนทำให้ก้าวผ่านวัยพายุบุแคมมาได้ตลอดรอดฝั่ง
ซึ่งเรา ๆ ท่าน ๆ
คงทราบกันอยู่แล้วว่าวัยรุ่นเป็นวัยแห่งการเปลี่ยนแปลงทั้งทางด้านร่างกาย
สติปัญญา อารมณ์ และสังคม
การประคับประคองให้วัยรุ่นผ่านช่วงวัยแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้
สถาบันครอบครัวมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อวิกฤตชีวิตวัยรุ่นที่คาบเกี่ยวเส้นยาแดงผ่าแปดระหว่างการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจากความเป็นเด็กสู่ความเป็นผู้ใหญ่
(Early, Middle, Late adulthood)
จึงทำให้วัยรุ่นรู้สึกสับสนกับการเปลี่ยนแปลงที่มาเยือนอย่างรวดเร็ว
และมักจะแสดงพฤติกรรมแปลกประหลาดออกมาอย่างรู้ตัวบ้าง ไม่รู้ตัวบ้าง
บ้างก็เรียกร้องความสนใจ
โหยหาความอบอุ่น
โหยหาสิ่งที่ขาดหายไปเพื่อมาเติมเต็มความสมบูรณ์แห่งวัย
ดังนั้นจึงใคร่ขอหยิบยกประเด็นพัฒนาการด้านต่าง ๆ ของวัยรุ่น
ซึ่งในที่นี้ขอกล่าวถึงพัฒนาการ 4 ด้านใหญ่ ๆ คือ
พัฒนาการทางด้านร่างกาย
วัยนี้เป็นวัยที่เริ่มมีการเจริญเติบโตทางเพศ ส่วนสูง น้ำหนัก
โครงสร้าง สัดส่วน และขนาดอย่างสมบูรณ์
ในช่วงแห่งการเปลี่ยนแปลงวัยรุ่นจะรู้สึกว่าเป็นความผิดปกติ
จึงเกิดความกลัว เขินอาย
และไม่กล้ายอมรับกับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วเกินไป
พัฒนาการด้านสติปัญญา
เด็กวัยรุ่นในช่วงวัยนี้จะมีพัฒนาการทางสติปัญญาที่รวดเร็วมาก
มีความจำที่ดีแต่มักจะไม่ค่อยใช้ความจำของตัวเองให้เป็นประโยชน์
มีสมาธิดี โดยเฉพาะเรื่องที่ตนสนใจเป็นพิเศษ
เขาจะพยายามแสวงหาความรู้ใหม่ๆ อยู่เสมอ มีจินตนาการสูงมาก
มักชอบคิดฝัน สร้างวิมานในอากาศอยู่คนเดียวเป็นเวลานาน ๆ
วัยรุ่นชอบฝันกลางวันเรื่องที่ฝันมักเกี่ยวกับเรื่องเพื่อนต่างเพศ
ความรัก และเรื่องเกี่ยวกับการประสบความสำเร็จในอนาคต
มีความเชื่อมั่นใจตนเองสูง
พัฒนาการด้านอารมณ์
อารมณ์ของวัยรุ่นนั้นเป็นอารมณ์ที่รุนแรง เรียกว่าเป็นวัย "พายุบุแคม"
อารมณ์จะขึ้น ๆ ลง ๆ
อยู่ในสภาพที่สับสนเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายเอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์
และสภาพแวดล้อมที่มากระทบทำให้เกิดพฤติกรรมประเภทก้าวร้าว รุนแรง
จะแสดงอารมณ์ในลักษณะ โกรธ อิจฉา เกลียดชัง หากเป็นประเภทเก็บกด
จะแสดงออกในลักษณะของความกลัว ความวิตกกังวล ความเศร้าใจ
กระอักกระอ่วนใจ สลดหดหู่ ขยะแขยง เสียใจ อารมณ์ประเภทนี้
เป็นอันตรายต่อวัยรุ่นมากที่สุด และอีกประเภทคืออารมณ์สนุก
จะสื่อมาในรูปของความรัก ความชอบ สุขสบาย พอใจ ตื่นเต้น
พัฒนาการด้านสังคม
เด็กวัยนี้ต้องการอิสระ และการเป็นตัวของตัวเอง ชอบแยกตัวอยู่ตามลำพัง
มีห้องอยู่เป็นสัดส่วน ใช้ความคิดของตนเองอย่างอิสระ
เด็กต้องการอิสระที่จะทำงานของตนเอง
และการสังคมในกลุ่มเพื่อนก็จะกว้างขึ้น มักจะอยู่เป็นกลุ่ม
เป็นวัยที่ชอบโชว์ ชอบอวด อยากเด่น อยากดัง
เพื่อให้เป็นที่ยอมรับของเพื่อนในกลุ่ม
ชอบแสดงความเป็นฮีโร่เพื่อโชว์สาว ๆ หรือเพศตรงกันข้าม
เพื่ออะไรก็เพื่อเป็นไปตามธรรมชาติ
แต่เป็นธรรมชาติที่ปทัสฐานทางสังคมไม่ยอมรับนักหากก้าวเร็วไปกว่าที่ควรจะเป็น
เช่นเรื่องเพศสัมพันธ์
ตอนต่อไปจะได้ว่าด้วย...พฤติกรรมยกพวกตีกันของวัยรุ่น
ซึ่งยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ
และเป็นปัญหาที่ทุกฝ่ายต้องหันมาให้ความสำคัญ
ร่วมด้วยช่วยเพื่อป้องกัน และแก้ไขต่อไป
การค้นหาเอกลักษณ์ของตนเองในวัยรุ่นถือเป็นสภาวะวิกฤติอย่างหนึ่งในช่วงวัยนี้....ระยะเวลาที่ผ่านมา การสื่อสารไร้พรมแดน จุดตัดที่แตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างสังคมแบบบริโภคนิยมกับสังคมเกษตรดั้งเดิมมีผลต่อความคิด ค่านิยม และทัศนคติของผู้คน...พ่อแม่และเด็กวัยรุ่นสมัยนี้ถูกกระแสทั้งทางสื่อและสังคมโหมเข้าใส่ ให้ต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลงทั้งเพื่อผลในการเอาตัวอยู่ให้รอด หรือเพื่อยกชั้นเพิ่มระดับชีวิตของตน....จนตำราพวก ฮาวทูกลายเป็นหนังสือเบสท์เซลเลอร์ไปไม่จักกี่สิบกี่ร้อยเล่มแต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงเป็นที่ต้องการและเฝ้าถามหาของผู้คนไม่ว่ายุคสมัยใดสิ่งนั้นคือ"ความรัก"และ"การมีศรัทธา" สิ่งเหล่านี้เริ่มมาจากในครอบครัว พ่อแม่เป็นครูต้นแบบทั้งทางตรง และโดยอ้อมให้แก่เด็ก!...ถ้าจุดขาดของการมีความรักและศรัทธามันเริ่มตั้งแต่รุ่นผู้ใหญ่แล้ว นอกเหนือไปจากพุ่งเป้าไปที่ตัวเด็กแล้ว การนำส่งความช่วยเหลือก็ควรที่จะต้องขยายวงไปสู่พ่อแม่หรือผู้ใหญ่ในบ้านของเด็กนั้นด้วย
ขอบคุณ คุณ "ขจิต" มากค่ะ
เชื่อเช่นกันค่ะว่าสถาบันครอบครัวเป็นสถาบันแรกที่มีความสำคัญในการพัฒนาดูแลเยาวชนของชาติให้มีคุณภาพ การอบรมเลี้ยงดูเด็กด้วยความรัก ความเข้าใจ การให้อภัยกัน จะทำให้เด็กสามารถก้าวผ่านวิกฤตแห่งวัยได้อย่างสมบูรณ์ค่ะ
ขอบพระคุณค่ะ...รักษาสุขภาพด้วยคะ
ขอบพระคุณ "seangia" และคุณพี่ "ขายขอบ" มากค่ะกับการเข้ามาต่อยอดที่สมบูรณ์แบบแห่งกระบวนการ KM
"...ถ้าจุดขาดของการมีความรักและศรัทธามันเริ่มตั้งแต่รุ่นผู้ใหญ่แล้ว นอกเหนือไปจากพุ่งเป้าไปที่ตัวเด็กแล้ว การนำส่งความช่วยเหลือก็ควรที่จะต้องขยายวงไปสู่พ่อแม่หรือผู้ใหญ่ในบ้านของเด็กนั้นด้วย" เป็นประเด็นใหม่ที่ชวนให้ขบคิดและน่าสนใจมากค่ะ หากเมื่อได้มาเชื่อมโยงกับเรื่องการจัดทำเวทีเสวนาของคุณพี่ "ขายขอบ" เกี่ยวกับครอบครัวเข้มแข็งด้วยแล้ว ทำให้ความคิดโลดเล่นไปว่า หากสถาบันครอบครัวเข้มแข็ง แข็งแกร่ง แข็งแรง เชื่อมั่นเหลือเกินว่าปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับเยาวชนคงลดน้อยลงอย่างมาก ย้อนคิดไปถึงองค์รวมและรอบด้านกับปัญหาดังกล่าวจึงได้มองเห็นประเด็นว่าเราไม่ควรมุ่งเป้าไปที่ตัวเด็กอย่างเดียวเสียแล้ว การนำส่งความช่วยเหลือควรต้องขยายวงไปสู่พ่อแม่หรือผู้ใหญ่ของเด็กด้วยจริง ๆ ค่ะ
ขอบพระคุณคุณพี่ "ชายขอบ" สำหรับแว๊ปไซด์ที่นำมาฝากไว้ แต่พยายามเข้าไปสืบค้นหลายครั้งแล้วค่ะ แต่เข้าไม่ได้สักที...และขอขอบคุณสำหรับกำลังใจที่ให้กันเสมอค่ะ หากแต่ปัญหาดังกล่าวคงต้องช่วยกันหลาย ๆ ฝ่าย และต้องต่อเนื่องค่ะ
อารายว้าเด็กซ่างงเยยง่ะ
อยากให้ทุกคนเข้าใจถึงวัยมากกว่า