อ่านเจอในหนังสือ "ปัญญาญาณ" ตัดตอนเอามาแชร์ให้อ่านกัน
ยาวหน่อยแต่น่าอ่าน โดยเฉพาะคนที่มีลูก
เป็นมุมมองส่วนหนึ่งในเรื่องการศึกษา
ใครสนใจลองไปหาซื้ออ่านดูครับ
หนังสือดีครับ :)
เชาวน์ปัญญา เป็นสิ่งที่ท่านมีมาแต่กำเนิด
มันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตท่านตั้งแต่แรกเริ่ม
เด็กทุกคนเกิดมาพร้อมเชาวน์ปัญญา พวกเขามีความแหลมคม
แต่พอพวกเขาโตเป็นผู้ใหญ่
สิ่งเหล่านี้กลับหายไปจนเกือบจะหมดสิ้น
มันต้องมีบางสิ่งบางอย่างที่ผิดปกติเกิดขึ้นระหว่างทางเป็นแน่
เพื่อนข้าพเจ้าคนหนึ่งได้ส่งเรื่องที่ชื่อว่า
"โรงเรียนของสัตว์" ให้ข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าอยากจะเล่าให้ท่านฟัง
เรื่องมีอยู่ว่า...
"ในวันหนึ่งสัตว์ทั้งหลายในป่าได้มารวมตัวกัน
และตัดสินใจว่าจะตั้งโรงเรียนของสัตว์ขึ้นมา กระต่าย นก
กระรอก ปลา และปลาไหล
ได้รับเลือกให้เป็นกรรมการพัฒนาหลักสูตร
กระต่ายยืนกรานว่าเรื่องการวิ่งจะต้องเป็นวิชาหนึ่งในหลักสูตร
นกบอกว่าเรื่องการบินก็ต้องอยู่ในหลักสูตร
ปลาบอกว่าการว่ายน้ำจะต้องอยู่ในหลักสูตรเช่นกัน
ส่วนกระรอกนั้นบอกว่าการปีนขึ้นต้นไม้ในแนวดิ่งก็เป็นสิ่งที่จำเป็น
และเห็นว่าน่าจะต้องรวมไว้ในหลักสูตรด้วย
ซึ่งในที่สุดพวกสัตว์ทั้งหลายที่ได้รับมอบหมายให้ร่างหลักสูตรก็ได้นำวิชาต่างๆ
เหล่านี้มารวมกัน
และจัดทำเป็นหลักสูตรขึ้นมา พวกมันได้ป่าวประกาศไปยังสัตว์ทั้งหลาย
และบังคับให้สัตว์ที่เข้าเรียนหลักสูตรนี้จะต้องผ่านทุกวิชาตามที่กำหนดไว้
กระต่ายซึ่งเคยได้เกรดเอจากการวิ่ง
มีปัญหามากในเรื่องการปีนต้นไม้ในแนวดิ่ง
มันปีนขึ้นไปแล้วก็ตกลงมาครั้งแล้วครั้งเล่า
ในที่สุดหัวสมองของมันก็ถูกกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง
ทำให้ไม่สามารถจะวิ่งต่อไปได้
จากที่มันเคยได้เกรดเอในการวิ่ง ตอนนี้มันกลับได้เกรดซี
และที่แน่นอนก็คือมันได้เอฟ (สอบตก) ในการปีนต้นไม้
นกที่เคยเก่งมากในเรื่องการบิน
แต่พอต้องเรียนวิชาขุดโพรงลงไปในดิน มันก็ทำได้ไม่ดีนัก
จะงอยปากของมันแตกและปีกของมันก็หัก
ไม่ช้าไม่นานมันก็ได้เกรดซีในวิชาการบิน
และได้เอฟในวิชาขุดโพรง
และมันก็ประสบปัญหาในเรื่องการปีนต้นไม้ในแนวดิ่งเช่นกัน
ในที่สุดสัตว์ที่สามารถเรียนจบผ่านหลักสูตรนี้ไปได้กลับกลายเป็นเจ้าปลาไหล
ที่ทำทุกอย่างผ่านได้แบบครึ่งๆ กลางๆ
แต่มันก็ทำให้ผู้สร้างหลักสูตรมีความสุข
ที่เห็นว่าสัตว์เหล่านั้นได้เรียนรู้ทุกวิชาที่เหล่าบรรดากรรมการหลักสูตรได้พัฒนาขึ้นมา
และต่างพากันเรียกการศึกษาแบบนี้ด้วยความภูมิใจว่าการศึกษาแบบ
"ครอบจักรวาล"
ฟังเรื่องนี้แล้วเราอาจจะรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่น่าขบขัน
แต่นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับการศึกษาของพวกเรา
เราพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะทำให้คนทุกคนเหมือนกัน
เราได้ทำลายศักยภาพที่ซ่อนอยู่ภายในคนแต่ละคน
เราบั่นทอนความเป็นตัวของตัวเองในคนแต่ละคนจนหมดสิ้น
เชาวน์ปัญญาที่ติดตัวมาเริ่มตายไปในขณะที่เราพยายามจะลอกเลียนคนอื่น
หากท่านต้องการจะให้เชาวน์ปัญญาที่มีมาคงอยู่
ท่านต้องเลิกการเลียนแบบ
เชาวน์ปัญญาจะถูกกำจัดไปโดยปริยายหากท่านทำตามผู้อื่น
เมื่อใดก็ตามที่ท่านเริ่มคิดจะเป็นเหมือนคนอื่น
ท่านจะสูญเสียเชาวน์ปัญญาทีท่านมีอยู่ไป
ท่านเริ่มจะโง่เขลานับตั้งแต่วินาทีที่ท่านเริ่มเปรียบเทียบตัวท่านกับคนอื่น
ท่านจะสูญเสียความสามารถตามธรรมชาติของท่าน
ท่านจะไม่มีความสุขอีกต่อไปท่านจะไม่ได้สัมผัสกับความใสสะอาด
ท่านจะสูญเสียความคมชัด เสียวิสัยทัศน์ของท่านไป
ท่านจะต้องหยิบยืมดวงตาของผู้อื่นมาใช้
แล้วเราจะมองผ่านดวงตาของคนอื่นได้อย่างไร?
เราต้องใช้ดวงตาของเราเอง
เราต้องเดินด้วยลำแข้งของเราเอง
เราต้องใช้หัวใจที่เป็นของเราเอง
คนหลายคนมีชีวิตอยู่ได้โดยอาศัยของที่หยิบยืมมาจากผู้อื่น
คนเหล่านี้จะรู้สึกว่าชีวิตของเขาติดขัดเป็นอัมพาต
มันทำให้พวกเขารู้สึกว่าโง่เง่าเบาปัญญา
โลกเราต้องการการศึกษาในรูปแบบใหม่
คนที่เกิดมาเป็นกวี
จะรู้สึกว่าตัวเองนั้นโง่มากในวิชาคณิตศาสตร์
ส่วนคนที่อัจฉริยะในทางคณิตศาสตร์ก็ต้องมามะงุมมะงาหราอยู่กับการท่องวิชาประวัติศาสตร์
ทุกสิ่งทุกอย่างมันกลับหัวกลับหางค่อนข้างยุ่งเหยิง
เป็นเพราะว่าการศึกษาไม่ได้เป็นไปตามธรรมชาติของคนแต่ละคน
ไม่ได้ให้ความเคารพในสิ่งที่คนแต่ละคนมี
ควบคุมบังคับให้ทุกคนเป็นไปตามรูปแบบที่กำหนด
อาจจะมีคนบางคนที่เดินไปกับรูปแบบนี้ได้
แต่ก็มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้น
คนส่วนใหญ่จะรู้สึกเหมือนหลงทาง
และลำบากใจ
ความทุกข์ที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตคือความรู้สึกที่ว่าตัวเองโง่
ไม่มีค่า ไม่มีเชาวน์ปัญญา
เราต้องอย่าลืมว่าทุกคนเกิดมาพร้อมกับเชาวน์ปัญญา
เราเกิดมาพร้อมกับความงดงามนี้
มันเป็นสิ่งที่หอมหวานที่ติดตามเรามาจากดินแดนอันไกลโพ้น
แต่ครั้นเมื่อมาถึงโลกนี้ สังคมก็เริ่มโจมตีเรา เข้ามาจัดแจง
เปลี่ยนแปลง สั่งสอน ตัดต่อ เติมแต่ง
จนในที่สุดเราก็สูญเสียสิ่งเดิมที่มีติดมาจนไม่เหลืออะไรเลย
นั่นคือวิถีทางที่ทำให้เชาวน์ปัญญาของเราถูกทำลาย
จากหนังสือ "ปัญญาญาณ" ของ OSHO แปลโดย ดร.ประพนธ์ ผาสุขยืด
สำนักพิมพ์ Free MIND
Cr : Thanin Shinapan
ไม่มีความเห็น