กล้าเก่ง.. จึงเก่งกล้า


........................................
ภาพของเด็กน้อยที่ยกมือขึ้นสุดแขนเพื่อตอบคำถามด้วยเสียงแจ๋วๆ ขณะที่หนูน้อยอีกคนพูดจาแสดงความคิดเห็นของตัวเองอย่างฉะฉาน หรือแม้กระทั่งภาพของเจ้าตัวเล็กที่ทำอะไรด้วยตัวเองได้อย่างมีความสุข ล้วนเป็นความปรารถนาของแม่ทุกคนค่ะ แต่คุณแม่ทราบคะไหมว่า ก่อนที่จะเด็กเล็กๆ สักคนจะแสดงความกล้าเก่งอย่างมั่นใจนั้น เขาต้องผ่านกระบวนการใดที่ผลักดันให้เขาทำออกไปอย่างนั้นได้

ในเด็กเล็กๆ สมองส่วนควบคุมสัญชาตญาณจะเป็นส่วนที่มีพัฒนาการโดดเด่น ส่งผลให้เขามีนิสัยขี้กลัว และตกใจง่าย แต่เมื่อเขาได้สัมผัส และทำความรู้จักกับสิ่งนั้น ความกลัวก็จะหายไป กลายเป็นความสนุกสนาน และความภูมิใจที่สามารถควบคุมสิ่งที่เคยเป็นเหตุคุกคามความรู้สึกตัวเองได้ ต่อมาสมองในส่วนอื่นๆ ก็จะเริ่มมีพัฒนาการ เจ้าหนูจึงมีนิสัยซุกซน อยากรู้อยากเห็นโอกาสที่จะได้รับอันตรายจากความกล้าอย่างไร้เดียงสาจึงเกิดขึ้นได้ง่าย

เมื่อร่างกายสัมผัสถึงอันตราย สมองจะจดจำและบันทึกไว้ให้พยายามห่างไกลจากสิ่งนั้น ซ้ำร้ายยิ่งไปกว่านั้น ประสบการณ์เลวร้ายยังฝังความรู้สึกด้อยค่าไว้ในความทรงจำ ทำให้สมองสั่งร่างกายให้คิดไปว่าตัวเองไม่มีความสามารถ จนไม่กล้าที่จะริเริ่มคิด หรือทำสิ่งใด

ดูๆ ไปแล้วจะเรียกว่าพฤติกรรมกล้าๆ กลัวๆ ก็คงไม่ผิดนัก ปัญหาจึงอยู่ที่ว่า จะทำอย่างไรให้เจ้าหนูกล้า.. ไม่ต้องกลัว เพื่อการเรียนรู้ที่ไม่ติดขัดค่ะ


เส้นทาง.. สู่ความกล้า การดูแลให้ลูกน้อยของคุณได้สัมผัสกับความสำเร็จไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ จะค่อยๆ สะสมแต้มแห่งความมั่นใจ ซึ่งจะเป็นแรงผลักให้เขาเกิดความกล้าที่จะเรียนรู้ในสิ่งต่างๆ ความรู้สึกภาคภูมิใจในความสำเร็จของตัวเอง คือความมั่นใจที่จะเป็นบันไดทอดก้าวไปสู่ความกล้าเก่ง นั่นเองค่ะ


พัฒนาสู่.. กล้าเก่ง ลักษณะเด่นของเจ้าหนู Can do kid เจ้าหนูมักจะคิดและรู้สึกดีๆ กับตัวเอง รู้ว่าตัวเองทำอะไรได้ดี ความเชื่อมั่นในตัวเองอย่างนี้ ทำให้เขาทำอะไรได้ด้วยตัวเอง มีความเป็นผู้นำ และมีความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ อยู่เสมอ มองโลกในแง่ดี มีอารมณ์ขัน เป็นมิตรกับทุกคน ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ในขณะเดียวกันก็รู้จักการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และจัดการกับสิ่งต่างๆ ได้ดี

ลักษณะเด่นอย่างนี้เกิดขึ้นได้จากการปลูกฝังให้เด็กเชื่อมั่นในความสามารถของตัวเองซะก่อน ซึ่งเจ้าความเชื่อมั่นนี้มาจากปัจจัยหลายอย่างตามพัฒนาการในแต่ละช่วงวัยของเด็กค่ะ

ในเด็กเล็กๆ พฤติกรรมและทัศนคติของพ่อแม่มีอิทธิพลต่อพัฒนาการความเชื่อมั่นของลูกอย่างมาก คุณจึงควรดูแลเขาอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เขาเกิดความมั่นใจที่จะพัฒนาทักษะต่างๆ ที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตกล้าเก่งด้วยตัวเอง เมื่อเจ้าหนูเติบโตขึ้น เริ่มก้าวสู่สังคมภายนอก ประสบการณ์นอกบ้าน ทั้งจากที่โรงเรียน สิ่งแวดล้อมใกล้บ้าน ล้วนมีอิทธิพลต่อการสร้างบุคลิกกล้าเก่งให้เขาทั้งสิ้น แต่พ่อแม่ก็ยังมีส่วนสำคัญ หากขาดการดูแลอย่างใกล้ชิดจากคุณแล้ว ลูกน้อยก็เหมือนเรือที่ไร้หางเสือ เคว้งคว้างไปตามอิทธิพลรอบข้างในสังคมภายนอก


อาหาร.. จุดเริ่มของการเตรียมพร้อมในทุกด้าน เจ้าหนูจะกล้าเก่ง.. จนเก่งกล้าได้ ต้องมีความพร้อมทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ/อารมณ์ และทักษะการเข้าสังคม ควบคู่ไปกับการส่งเสริมความเชื่อมั่นให้กับเขาอย่างค่อยเป็นค่อยไป ร่างกายที่สมบูรณ์พร้อมจะเป็นแรงเสริมให้ลูกมีจิตใจ และอารมณ์ที่ดี ส่งผลให้สมองปลอดโปร่งมีพื้นที่สำหรับเก็บประสบการณ์ต่างๆ ไว้ในความทรงจำ และพร้อมสำหรับการเรียนรู้ใหม่ๆ เพิ่มเติม

เด็กในแต่ละช่วงวัยก็มีความต้องการประเภท และปริมาณของสารอาหารที่แตกต่างกัน การดูแลให้เด็กได้รับสารอาหารตรงตามความต้องการในแต่ละช่วงวัย จะทำให้เขามีความพร้อมที่สมบูรณ์สำหรับการเรียนรู้ที่จะเป็นเด็ก Can do ค่ะ

การเลี้ยงดูลูกน้อยสักคนให้เติบโตขึ้นมากล้าเก่งสมวัย เป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่แม่ต้องทุ่มเทอย่างเต็มกำลัง แต่เราเชื่อว่าไม่เกินความสามารถของคุณ เพราะสองมือแม่นั้น สร้างอนาคตให้กับลูกได้ค่ะ
คำสำคัญ (Tags): #edu104
หมายเลขบันทึก: 49076เขียนเมื่อ 8 กันยายน 2006 16:45 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 15:51 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

หนังสือดี ที่ต้องอ่านเกี่ยวกับเด็ก

ชื่อ รอให้ถึงอนุบาลก็สายเสียแล้ว ผู้เขียนชื่อ ซูซุกิ

(ถ้าจำไม่ผิด เพราะเคยอ่านเมื่อสัก 30 ปีมาแล้ว)

แล้วเด็กๆควรกินอาหารอะไรบ้างครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท