คุณแม่ท้องเสริมใย (ธาตุ) เหล็ก


..........ควรใส่ใจ...........
 

ความจริงแล้วผู้หญิงเราสามารถเป็นหญิงเหล็กกันได้ทุกคน ก็คิดดูสิคะกี่บทบาท กี่หน้าที่กันนะที่ผู้หญิงสามารถรับได้และทำออกมาได้ดีไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ไม่ว่าจะบทบาทของภรรยา แม่บ้าน แม่ของลูก ฯลฯ ซึ่งล้วนแล้วแต่มีเรื่องให้ต้องรับผิดชอบมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งแม่ท้องที่ต้องดูแลตัวเองเป็นพิเศษ เพราะฉะนั้นเห็นทีว่าเราต้องเริ่มเสริมเหล็กเพื่อความเป็นหญิงเหล็กที่พร้อมสมบูรณ์กันแล้วล่ะค่ะ

ทำไมต้องเสริมเหล็ก
ธาตุเหล็กมีความจำเป็นต่อร่างกายของแม่ท้องอย่างเราค่ะ เนื่องจากเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของเม็ดเลือดแดง ซึ่งจำเป็นสำหรับการตั้งครรภ์ เพราะเป็นตัวนำอาหารและออกซิเจนมาช่วยในการเจริญเติบโตของลูกในท้อง เพราะฉะนั้นหากเม็ดเลือดแดงมีความเข้มข้นดี ลูกในท้องก็จะมีการเจริญเติบโตดี ถ้าเม็ดเลือดแดงซีด มีปริมาณน้อยลง หรือคุณภาพไม่ดี การที่จะนำอาหารและออกซิเจน ไปยังเจ้าตัวเล็กก็ทำได้ไม่เต็มที่ ทำให้ลูกมีการเจริญเติบโตไม่เต็มที่เช่นกันค่ะ

การที่เม็ดเลือดแดงจะมีคุณสมบัติดีและนำออกซิเจนได้ดีนั้น ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบสำคัญคือธาตุเหล็กค่ะ เพราะฉะนั้นในระหว่างการตั้งครรภ์ ร่างกายจึงมีความจำเป็นต้องใช้ธาตุเหล็กเป็นอย่างมาก

ธาตุเหล็กที่อยู่ในร่างกายจะถูกใช้แบบหมุนเวียนค่ะ และในช่วงตั้งครรภ์ซึ่งร่างกายมีความจำเป็นต้องใช้ธาตุเหล็กมากขึ้น ก็จะมีกระบวนการดูดซึมธาตุเหล็กมากขึ้นด้วย ดังนั้นคุณแม่จึงควรรับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กให้เพียงพอนะคะ เพราะนอกจากธาตุเหล็กจะช่วยนำอาหารและออกซิเจนไปสู่ลูกแล้ว ยังช่วยเตรียมความพร้อมให้คุณแม่ที่ต้องเสียเลือด


ในขณะคลอด
ธาตุเหล็กยังเป็นองค์ประกอบสำคัญ ในการสร้างน้ำนมอีกด้วยค่ะ ดังนั้นคุณแม่จึงควรได้รับธาตุเหล็กให้เพียงพอ เพื่อให้น้ำนมที่ออกมามีคุณภาพดีที่สุดสำหรับเจ้าตัวเล็กไงคะ


แม่ท้องต้องการเหล็กแค่ไหน
ปกติความเข้มข้นของเม็ดเลือดแดงในร่างกายเราจะเพียงพออยู่แล้วค่ะ แต่เมื่อตั้งครรภ์ร่างกายจะต้องสร้างเม็ดเลือดแดงเพิ่มขึ้น เพราะมีลูกในท้องมาแบ่งปันและต้องการอาหารรวมทั้งต้องการออกซิเจนเพิ่มขึ้น เพราะฉะนั้นปริมาณเม็ดเลือดแดงก็ต้องเพิ่มขึ้นเช่นกัน เพื่อนำอาหารมาเลี้ยงตัวคุณแม่ให้เพียงพอเหมือนเดิม และอีกส่วนหนึ่งนำไปเลี้ยงลูกใน


ท้องที่โตวันโตคืนด้วยค่ะ
เมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์ กลไกภายในร่างกายจะสร้างเม็ดเลือดแดงเพิ่มขึ้น ประมาณ 30% ซึ่งอาจดูเหมือนมีปริมาณมากเพียงพอแล้ว แต่คุณแม่ทราบไหมคะว่าในขณะที่เม็ดเลือดแดงเพิ่มขึ้น 30% ปริมาณน้ำในเลือดของคุณแม่ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน เนื่องจากมีฮอร์โมนต่างๆ ที่มีคุณสมบัติกักเก็บน้ำไว้ในร่างกาย จึงทำให้คุณแม่ดูเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล ช่วงตั้งครรภ์ปริมาณน้ำในตัวคุณแม่จะเพิ่มขึ้นประมาณ 40-45% ค่ะ

จะเห็นว่าปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นมากกว่าปริมาณของเม็ดเลือดแดงที่เพิ่มขึ้น ถึงแม้คุณแม่จะมีสุขภาพแข็งแรงดีอยู่แล้ว แต่ถ้าไม่บำรุงร่างกาย คุณแม่ก็จะซีดลงตามธรรมชาติ ทั้งๆ ที่ไม่ได้เสียเลือดเลยก็ตาม แต่ซีดเพราะเลือดถูกน้ำเจือจาง ลองนึกภาพตามง่ายๆ นะคะ เหมือนเราผสมสีกับน้ำแต่เราเติมน้ำมากกว่า สีก็จะซีด ยิ่งเติมน้ำมากสีก็ยิ่งซีดลงค่ะ

ตลอดการตั้งครรภ์แม่ท้องต้องการธาตุเหล็กเพิ่มขึ้นประมาณ 1 กรัม โดยเจ้าตัวเล็กที่อยู่ในท้องคุณแม่ รวมถึงตัวรกจะแบ่งเอาไปประมาณ 300 มิลลิกรัม การสร้างเม็ดเลือดแดงเพิ่มขึ้น รวมถึงออกซิเจนและกลไกการทำงานอื่นๆ ในตัวคุณแม่ที่เพิ่มขึ้น ทำให้ต้องการใช้ธาตุเหล็กประมาณ 500 มิลลิกรัม และยังมีธาตุเหล็กบางส่วนที่ถูกขับออกมาระหว่างการตั้งครรภ์อีกประมาณ 200 มิลลิกรัม

จากค่าเฉลี่ยที่คุณแม่ต้องการธาตุเหล็กเพิ่มขึ้นประมาณ 1 กรัมตลอดการตั้งครรภ์ 9 เดือน ดังนั้นคุณแม่จึงต้องการธาตุเหล็กเพิ่มขึ้นวันละประมาณ 6-7 มิลลิกรัมค่ะ
แต่โดยเฉลี่ยอาหารที่คุณแม่รับประทานเข้าไปในแต่ละวันจะมีธาตุเหล็ก 1-2 มิลลิกรัม ซึ่งถือว่าไม่เพียงพอและเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะโลหิตจางได้ค่ะ

ดังนั้นเมื่อคุณแม่ไปฝากท้องที่โรงพยาบาล คุณหมอจึงให้รับประทานธาตุเหล็กเสริม เพื่อจะได้ไปช่วยเพิ่มความเข้มข้นของเลือดแดงให้เพียงพอ
คำสำคัญ (Tags): #edu#104
หมายเลขบันทึก: 49070เขียนเมื่อ 8 กันยายน 2006 16:34 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 มีนาคม 2012 12:52 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท