ผมเริ่มสังเกตตัวเองว่าจะตื่นแต่เช้าเพื่อเดินทางไปขึ้นเครื่องบินที่ดอนเมืองเพื่อกลับพิษณุโลก แล้วทำงานต่อได้ทันทีนั้น ไม่ค่อยจะมีผลดีต่อประสิทธิภาพในการทำงานของผมในวันนั้น ซึ่งแต่ก่อนไม่เคยมีปัญหาอะไร
วานนี้เช้าวันจันทร์ที่ 3 ต.ค. 48 ผมจำเป็นต้องเดินทางจากกรุงเทพแต่เช้าเพื่อไปทำงานที่พิษณุโลก เนื่องจากเย็นวันอาทิตย์ (2 ต.ค. 48) ต้องเป็นวิทยากรในช่วงบ่าย <Link> จึงทำให้กลับพิษณุโลกไม่ทันในเย็นนั้น มีผลทำให้การปฏิบัติงานในวานนี้ เป็นดังนี้ครับ
เนื่องจากบังเอิญตื่นมาตั้งแต่ตีสอง บนเครื่องบินก็ไม่ได้รับประทานอาหารเช้า เนื่องจากเวลาที่ให้รับประทานมีน้อย (กรุงเทพฯ – พิษณุโลกใช้เวลาทั้งหมดเพียง 40 นาที) ผมเป็นคนเคี้ยวและกลืนได้ช้าจึงไม่รับประทานแต่ใช้เวลานั้นมาเขียนบันทึกสำหรับลง blog ไว้สำหรับให้ตัวเองได้ทบทวนและ ลปรร. กับผู้อื่น โดยสรุปคือไม่ได้รับประทานอาหารเช้า
พอถึงที่ทำงานก็รีบอ่านและเซ็นแฟ้ม ก่อนที่จะรีบไปเป็นประธานในที่ประชุมเพื่อรวบรวมข้อมูลจัดทำรายงานประเมินตนเอง เตรียมพร้อมรับการประเมินจาก กพร. ซึ่งในช่วงเช้ายังสามารถทำงานได้ตามปกติ แต่เนื่องจากต้องพูดคุยกันมาก การประชุมจึงไปเลิกกันราวเที่ยงครึ่ง ต้องรีบไปรับประทาน Blunch (Breakfast + Lunch) แต่รับประทานได้แค่ไม่กี่คำก็ถูกโทรตาม ต้องไปเป็นประธานที่ประชุมชี้แจงการเขียนข้อเสนอโครงการวิจัยในรอบปีต่อไป ที่ต้องมีการโทรตามกันก็เนื่องจากผมเข้าใจผิด คิดว่าเริ่ม 13.30 น. ปรากฏว่าต้องเริ่มประชุม 13.00 น. เลยทำให้กลายเป็นพาตัวเองเข้าไปในสถานการณ์ที่ทั้งง่วง เหนื่อย และหิว ก่อนการประชุมในภาคบ่าย
ช่วงแรกของการประชุมในภาคบ่ายก็ยังดีอยู่ครับ มีท่านคณบดีหลายท่านเข้าร่วม นักวิจัยจากคณะต่าง ๆ มากันเป็นร้อย ยังพูดรู้เรื่องดี แต่พอประชุมไปได้สักพักชักจับประเด็นอะไรไม่ค่อยจะได้ สรุปอะไรได้ช้า ดำเนินการประชุมเห็นได้ชัดว่าไม่ดี ทำให้การประชุมยืดเยื้อ ติดอยู่ในประเด็นปลีกย่อยจนเกินไป แสดงความคิดเห็นกันได้ไม่ทั่วถึง เตรียม coffee break ไว้ก็ไม่ได้หยุดรับประทานกัน แทนที่จะสามารถสรุปอะไรต่ออะไรได้เลยในวันวาน ก็ต้องนัดประชุมด่วนกันอีกรอบ
ไม่ใช่เพิ่งเป็นครั้งนัดแรกนะครับ ช่วงหลัง ๆ ผมมักจะเป็นทำนองนี้บ่อย จึงพยายามหลีกเลี่ยงเดินทางโดยเครื่องบินแต่เช้า จะพยายามกลับตอนเย็นเพื่อจะได้พักผ่อนได้เต็มที่
ต้องขออภัยผู้เข้าร่วมประชุมในภาคบ่ายวานนี้ด้วยครับ
วิบูลย์ วัฒนาธร
ผมอยู่ในเหตุการณ์ด้วยและเข้าใจในความรุ้สึกได้ดี ยังไงต้องรักษาสุขภาพหน่อยนะครับ เพราะว่าอาจารย์เป็นคนสำคัญ และ เป็น key factor ตัวหนึ่งของความสำเร็จหลายอย่างในมหาวิทยาลัย เพื่อให้มีเวลาทำงานที่เป็นสาธารณะประโยชน์นานครับ