ชีวิตที่เดินช้าลง...คงเหมือนนาฬิกาที่ไม่มีเข็มวินาที...หลวงพระบาง (6)


ผมออกจากโรงแรมในจังหวัดหนองคาย ขึ้นรถออกจากตัวเมือง เพื่อข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว

ผมเห็นธงชาติของสองประเทศปลิวสะบัดไสวตามแรงลม ตามแนวสะพาน

มองเบื้องล่างเห็นสายน้ำโขงที่เหยียดยาวขดเคี้ยวเหมือนงูตัวยาว ๆ ท่ามกลางแมกไม้ ในฤดูที่ร้อนมาก

 

สะพานมิตรภาพไทย – ลาว ตามจริงต้องเพิ่มประเทศออสเตรเลียด้วยนะ …เพราะเป็นประเทศที่ให้ทุนในการสร้าง

แต่เวลาเรียกเราเรียกกันเฉพาะสองประเทศ คงเป็นเพราะเป็นประเทศที่เชื่อมกันกับพื้นที่

 

ผู้คนที่นี้บอกว่า เราสามารถเดินทางด้วยรถไฟด้วย จากหนองคายไปถึงบ้านนาแล้งของประเทศลาว

วันหนึ่งมีรถไฟไป-กลับ สองเที่ยว....และนับว่า เป็นพาหนะหนึ่งในการเชื่อมโยงเชื่อมพื้นที่ของสองประเทศ

ผู้คนเล่าอีกว่า อนาคตจะมีรถไฟฟ้าความเร็วสูง มาจากประเทศจีนเลย

 

อากาศร้อน เพราะแดดเริ่มออกตัวเร็วมากในวันนี้

ผมมองเห็นน้ำโขงที่เริ่มเหือดแห้งมาก จนเห็นพื้นที่ที่เป็นชายหาดมากขึ้น...มองเห็นก้อนหินเรียงรายรอบ ๆ ขอบน้ำ

ผมนั่งรถมาเรื่อย ๆ จนมาถึงด่านตรวจคนเข้าเมือง

 

ก่อนถึงแปดโมงเช้าผมก็มาถึงด่านแล้ว พบผู้คนมากมายที่กำลังเข้า-ออก ประเทศลาว

ขาเข้า ผมสังเกตว่า ส่วนใหญ่เป็นคนไทย ฝรั่ง และญี่ปุ่น                                                 

ขาออก ผมมองเห็นคนลาวที่มารอ คงจะมาทำธุระที่เมืองไทย หรือผู้หญิงลาวที่มีความงดงาม และสมส่วนในการนุ่งผู้ถุง (ผ้าซิ่น) เป็นความงดงามที่ผู้คนทั่วโลก ที่ต้องการย้อนเวลา และโหยหาความเรียบง่ายเหล่านั้น

 

ผมว่านะว่า...เวลาในสมัยก่อนและสมัยปัจจุบันแตกต่างกันมาก โดยเฉพาะเวลาแห่งความคิดถึง และการเดินทาง

คนสมัยก่อนเดินทางไปหากันด้วยความรักและความคิดถึง...สามารถเดินทางไปได้เลย โดยไม่ต้องมีพิธีรีตอง อยากไปไหนก็เดินทางไปเลย ถึงแม้จะล่าช้าหน่อยในการเดินทางด้วยพาหนะ แต่มันจะสำคัญอะไร ถ้าเราอยากไป เราไปได้เลย

 

แต่เวลาในการเดินทางในปัจจุบัน ...ผมสังเกตว่า เมื่อก่อนโลกเราเป็นพื้นที่เดียวผืนใหญ่...ไร้ดินแดน...ไร้รัฐ ...ไร้ประเทศ ผู้คนคงเดินทางได้อย่างเสรี และไม่มีกฎเกณฑ์ เช่นพวกเราต้องทำบัตรข้ามแดน หนังสือเดินทาง และวีซ่า

 

พื้นที่... เวลา....เป็นสิ่งสมมติสำหรับผม....แต่ความรัก และความดีงาม เป็นสิ่งที่เป็นจริงสำหรับผม

หรือผมคิดผิดทั้งสองอย่างก็ไม่อาจหยั่งรู้ได้...

 

ผมมองเวลาบนหน้าจอมือถือ ซึ่งผมกำลังจะปิดมือในการข้ามไปประเทศหนึ่ง เพื่อคนที่จะโทรศัพท์หาผมจะได้ไม่เสียค่าบริการมากปกติ ผู้คนที่นั่นเล่าว่า นาทีละ 30 บาท

เวลาที่ผมมองครั้งสุดท้าย คือเวลา  7.53 นาฬิกา เพื่อกำลังจะข้ามสู่นครหลวงเวียงจันทร์

 

ผมมองนาฬิกาของประเทศต่าง ๆ ...

New York = 9.52               Paris = 1.80         Seoul = 9.52

Bangkok = 05.60               Laos = 8.00          Vientiane = 7.55

 

 

เวลาที่ตรงกัน... แต่กลับมีเวลาที่แตกต่างกัน....

ผมพยายามเลือก...ชีวิตที่เดินช้าลง ...คงเหมือนนาฬิกาที่ไม่มีเข็มวินาที

และผมไม่สามารถย้อนอดีตได้...หรือโบยบินไปสู่เวลาอนาคต

ดังนั้น เวลา ณ ปัจจุบันสำคัญที่สุด ที่จะเดินทางไปเรียนรู้กับชีวิต...ชีวิตที่มีเวลาเหลือน้อยลงทุกที...ทุกที

 

 

หมายเหตุ: ผมขอขอบคุณ...คุณปริม...มากครับ กับแรงบันดาลใจในการเขียนบันทึกนี้ เพราะได้ชื่อเรื่องบันทึกจากข้อความคิดเห็นของคุณปริม บันทึกที่ (1) หลวงพระบาง

 

 

 

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 486910เขียนเมื่อ 3 พฤษภาคม 2012 12:41 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 มิถุนายน 2012 19:42 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

...ความรักและความดีงาม..เป็นสิ่งสำคัญต่อ(ทุก)ชีวิต..แม่นแท้..เจ้าค่ะ..คุณทิมดาบ..

l`สวัสดีค่ะ

ชอบข้อความนี้มากค่ะ กระตุกให้คิด.....

".......คนสมัยก่อนเดินทางไปหากันด้วยความรักและความคิดถึง...สามารถเดินทางไปได้เลย โดยไม่ต้องมีพิธีรีตอง อยากไปไหนก็เดินทางไปเลย ถึงแม้จะล่าช้าหน่อยในการเดินทางด้วยพาหนะ แต่มันจะสำคัญอะไร ถ้าเราอยากไป เราไปได้เลย....."

ขอบคุณค่ะ

แต่เวลาแห่งความสุขก็ยังหมุนไปตามเดิม ขอบคุณบันทึกที่งดงามนี้ค่ะ ;)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท