ครั้งที่ผมเรียนนิทานพื้นบ้านกับ รศ.บุปผา บุญทิพย์ มีข้อสอบข้อหนึ่งที่ผมเจอคือ ให้นักศึกษาตั้งคำถามเองแล้วตอบเอง หากจะมองว่ายากก็ยาก หากจะมองว่าง่ายก็งาย ที่ง่ายเพราะ ถ้านักศึกษาอ่านหนังสือมากว้างพอก็ทำได้สบาย ๆ และแน่นอนว่าผมเลือกทำข้อสอบนี้ทันทีทันใด จำได้ว่าผมตั้งคำถามประมาณนี้
เมื่อท่านเรียนวิชานิทานพื้นบ้าน ท่านคิดว่าวิชานี้ให้ประโยชน์อย่างไร จงจำแนกและอธิบายให้ชัดเจน
วรรณกรรมท้องถ่านหมายถึง ผลผลิตทางภูมิปัญญาของนักปราชญ์ ผู้รู้พื้นบ้าน สร้างขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของสังคม บันเทิง สาระความรู้ คติสอนใจ มีทั้งวรรณกรรมมุขปาฐะ เช่น นิทานพื้นบ้าน เพลงพื้นบ้าน ปริศนาคำทาย ถ่ายทอดผ่านรุ่นหนึ่งสู่รุ่นหนึ่ง เมื่อมีการจดบันทึก จึงกลายเป็นวรรณกรรมลายลักษณ์ คือการนำมุขปาฐะมาจดบันทึก เช่น ตำนาน นิทาน คำสอนต่าง ๆ เพื่อใช้เป็นบทในการ ขับ อ่าน แสดง แพร่กระจายไปเรื่อย ๆ เรื่องก็ค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงไปตามสภาพสังคม ภูมิศาสตร์วัฒนธรรมประเพณีของแต่ละภูมิภาค จนเป็นมรดกทางวัฒนธรรม วรรณกรรมท้องถิ่นย่อมสัมพันธ์กับฉันทลักษณ์และชีวิตความเป็นอยู่ของคนในสังคมของท้องถิ่นนั้น ๆ และส่งอิทธิพลให้กับสังคมต่อไป สามารถจำแนกประโยชน์ของวรรณกรรมท้องถิ่นได้ดังนี้
ให้ความบันเทิง
การละเล่น การแสดงพื้นบ้านต่าง ๆ ย่อมสัมพันธ์กับวรรณกรรมท้องถิ่น โดยมุ่งให้ความบันเทิงใจ ศิลปิน พ่อเพลง แม่เพลง นักขับลำนำแม้จะด้นกลอนสดได้เองแต่ก็ต้องนำบางส่วนของวรรณกรรมท้องถิ่นมาใช้สอดแทรกในการแสดงเช่น อิทธิพลต่อการแสดง
- ในภาคอีสาน เช่น เรื่องสินไซ
- ภาคเหนือ การซอ เล่าค่าว เช่น เรื่องหงส์หิน
- ภาคกลาง กลอนสด บทละคร เพลงเกี่ยวข้าว เช่น เรื่องสังข์ศิลป์ชัย
- ภาคใต้ เพลงบอก โนรา เช่น พระสุธนมโนรา สุทธิกรรมชาดก
อธิบายความเป็นมาของชุมชนและเผ่าพันธุ์
อธิบายความเป็นมาของกลุ่มชน ความเป็นพวกเดียวกัน มีบรรพบุรุษร่วมกัน มีสัญลักษณ์ร่วมกัน เป็นประวัติศาสตร์ท้องถิ่นเช่น
- เรื่องท้าวแสนปม อธิบายความเป็นมาของภาคกลาง
- เรื่องขุนบรม อธิบายความเป็นมาของภาคอีสาน
- เรื่องตำนานจามเทวีวงศ์ อธิบายความเป็นมาของภาคเหนือ
เป็นสื่อกลางระหว่างบ้านกับวัด
วัดเป็นแหล่งความรู้และเป็นศูนย์กลางของชุมชนมาโบราณ ชาวไทยนิยมไปวัดเพื่อการเรียนรู้วรรณกรรมท้องถิ่น โดยการอ่าน ฟัง ชาวบ้านเชื่อว่าการได้ฟังธรรมนิยาย นิทานคติธรรมจะได้รับอานิสงค์สูง ดังเช่นนิทานเรื่องศุภนิมิตรกลอนสวดได้กล่าวไว้ดังนี้
“ได้ฟังนิยาย พ้นทุกข์ทุกคน
บ้างได้ถึงมรรค บ้างได้ถึงผล พ้นทุกข์ทุกคน
บ้างได้นิพพาน”
อิทธิพลต่อวิถีชีวิตชาวบ้าน
วรรณกรรมท้องถิ่นจะสอดแทรกบทบัญญัติสังคม หลักธรรม จริยธรรมจึงมีอิทธิพลต่อชีวิตเช่น
- ให้การศึกษา พระทำหน้าที่สอนหนังสือ ใช้วรรณกรรมท้องถิ่นเป็นแบบเรียน
- รักษาพฤติกรรมของหมู่คณะให้เป็นไปตามแบบแผนที่ได้ปฏิบัติมา
- สร้างความสามัคคีในชุมชนให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
- ให้สำนึกผิดชอบชั่วดี เกรงกลัวต่อบาป ปลูกฝังจริยธรรม
- สะท้อนค่านิยมของสังคมในช่วงเวลานั้น ๆ ที่ร่วมสมัยกับการแต่งนิทาน
- ให้คุณค่าทางอารมณ์ สุข ทุกข์ เศร้าแก่ชาวบ้าน
- สร้างเอกลักษณ์ร่วมกันในสังคม
อิทธิพลต่อศิลปกรรม
วรรณกรรมท้องถิ่นมีอิทธิพลต่อศิลปกรรมและหัตถกรรมพื้นบ้าน โดยเฉพาะเรื่องราวที่เกี่ยวกับพุทธศาสนา จึงออกมาในรูปแบบของจิตกรรมตามอุโบสถ วิหาร สิมในภาคอีสาน ซึ่งนิยมเรื่องชาดก วรรณกรรมพื้นบ้านที่นิยมทำให้เป็นชาดก พุทธประวัติเช่น
- เรื่องหอยสังข์ (สังข์ทอง) จิตกรรมฝาผนังที่วิหารลายคำ วัดพระสิงห์ จ.เชียงใหม่
- เรื่องสินไซ จิตกรรมฝาผนังวัดฝังแดง จ.นครพนม
- เรื่องทศชาติชาดก จิตกรรมฝาผนังวัดบรมธาตุ จ.นครศรีธรรมราช
อิทธิพลต่อ ความเชื่อ แนวทาการปฏิบัติตน
วรรณกรรมประเภทคำสอน มักมีเนื้อหาอิงอยู่กับหลักธรรมและความเชื่อพื้นบ้าน มีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิตของผู้คนในสังคม จะชี้นำในเรื่องประเพณี ความเชื่อ คือ ฮีตบ้านคลองเมือง ฮีตสิบสองคลองสิบสี่ หากไม่ปฏิบัติตามจะถือว่าเป็นอัปมงคลต่อชีวิต เช่น
- เรื่องพระลอสอนโลก ของภาคเหนือ
- เรื่องอินทิญานสอนลูก ของภาคกลาง
- เรื่องลุงสอนหลานคำกาพย์ ของภาคใต้
อิทธิพลต่อประเพณี
- ตำนานเรื่องเสาอินทขิล เกิดประเพณีบูชาเสาอินทขิล (บูชาเสาหลักเมือง) จ.เชียงใหม่
- นิทานเรื่องผาแดงนางไอ่ เกิดประเพณีบุญบั่งไฟ ภาคอีสาน
สรุป วรรณกรรมท้องถิ่นถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของสังคมนั้น ๆ สร้างความรู้ ความเข้าใจต่อวิถีชีวิตของสังคมในแต่ละท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี
สุดท้ายนี้ผมขออนุญาตกราบของพระคุณ รศ.บุปผา บุญทิพย์ อย่างสูงมา ณ ที่นี้ ที่ให้ความกรุณาถ่ายทอดวิชาคติชนวิทยา คอยตอบคำถาม พูดคุย ทักทายสารทุกข์สุขดิบอยู่เสมอ หากไม่มีอาจารย์ก็คงจะไม่มีผมในวันนี้
วาทิน ศานติ์ สันติ
๒ เมษายน ๒๕๕๕
เรียนท่านวาทิน ผมมองว่า มุขปาฐะ ที่สุดยอดคือหนังตลุง สามารถพูดคนเดียวได้ทั้งคืน
ตอนนี้หนังตลุง น้องเดียวตาบอด ฮอตอย่างแรง
เรียนท่านวาทิน เขียนถึงการก่อเกิดชมรมหนังตลุงภาคใต้ไว้ที่ กรุณาให้คำแนะนำด้วย น่ะครับ
คุ้นๆ ว่าก่อนหน้านี้มีหลายท่านที่นำนิทานพื้นบ้านมาเล่า มาเขียนเป็นหนังสือ พักหลังไม่ค่อยจะมีใครนำมาถ่ายทอด นิทานพื้นบ้าน (ของชาวบ้านๆ) คงจะหายๆ ไป
ผมไผเจอที่เป็นหนังสือบุด ใบลานตามวัดเยอะเลยครับ เอาแค่วัดที่ผมบวช มีหลายผูกที่ยังไม่มีคนศึกษา เป็นตำรายาบ้าง กลอนสวดบ้าง แต่อย่างว่า สมัยที่ผมบวชยังอ่านตัวขอมไม่เป็นเลย เคยปรึกษากับอาจารย์ที่สอนจารึกว่าน่าจะลองทำการวิจัยกันดู แต่ก็ผ่านพ้นไปจนผมจบก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้่นครับ
ผมเชื่อว่าวรรณกรรมชาวบ้านที่อยู้ในรูปบุด ใบลาน ยังมีอยู่ตามวัดอีกมาก แต่คนที่อ่านเป็นมีน้อย เสียดายที่จะปล่อยให้มดมอดกันเทะ
ผมกำลังสะสมรวบรวมนิทานและเรื่องเล่าของชาวบ้าน ที่สืบทอดเกี่ยวกับความเป็นมาของชุมชนและสถานที่ต่างๆ ของหนองบัว นครสวรรค์ อยู่พอดีเลยครับ
หากใช้แนวการศึกษาอย่างที่คุณวาทินนำมาถ่ายทอดให้นี่ ก็คงจะอยู่ในช่วง แปรประสบการณ์ของชุมชนเป็นเรื่องเล่า แปรเรื่องเล่าและมุขปาฐะให้เป็นลายลักษณ์และการบันทึก แล้วก็มุ่งที่จะแปรบันทึกให้เป็นการสังเคราะห์ วิเคราะห์ วิจัย สร้างเป็นความรู้เผยแพร่ให้กว้างขวาง และปฏิบัติการเชิงสังคม ให้ประสบการณ์ของสังคมชุดใหม่ได้ริเริ่มและก่อเกิดต่อๆไปอีก
ชอบเพลงชีตาร์มากเลยครับ อารมณ์เพลงเหมือนงานของรวีชังการ์เลย แต่แบบมีออเคสตร้าเป็นแบคอัพนี้นึกไม่ออกเลยว่าเป็นงานชุดไหน
สวัสดีครับ คุณวิรัตน์ คำศรีจันทร์ #2632078 ผมขอแสดงความยินดีเป๋นอย่างยิ่งที่จะมีการรวมรวมวรรณชาวบ้านแล้วทำการปริวรรตเพื่อถ่ายทอดให้กับประชาชนทั่วไป หวังว่าจะเกิดประโยชน์อย่างสูงในระดับท้องถิ่นและในระดับวิชาการ ให้เด่าคงจะเป็นอักษรฝักขามใช่ไหมครับ คงจะอ่านกันสนุกกันเลยทีเดียว
ขอเป็นกำลังใจครับ
เพลงที่ผมเอามาลงนั้น เพลง Easy ประพันธ์โดยศิลปินที่มีชื่อเสียงของอินเดีย ที่โด่งดังไปทั่วโลกคือ Anoushka Shankar & Karsh Kale และมีนักร้องระดับโลกอย่าง Norah Jones มาฮัมเพลง ลองค้นหาใน youtube ก็ได้ครับ
ดิฉันอยากจะถาม คุณครูวาทิน ศานติ์ สันติหรือผู้รู้ วรรณกรรมออนไลน์มีข้อดีข้อเสียต่อการเขียนการอ่านต่อวรรณกรรมปัจจุบันอย่างไรบ้างค่ะ