ระบบการเงิน ในครอบครัว


การออมเงิน เพื่อประโยชน์ในอนาคต

- ในประเทศที่มั่งคั่งทางเศรษฐกิจ เค้าจะสอนคนในครอบครัว และในโรงเรียนเรื่องการเงินด้วย แต่เมืองไทยเราไม่มีสอนกันบ้างเลย
- ในเรื่องการเงินบ้านเราจะพูดในเรื่อง รายรับ รายจ่าย   (รายรับ มากกว่ารายจ่าย คือ มีเงินเหลือ ถ้า รายจ่าย มีมากกว่ารายรับ คือ มีหนี้)
แต่ที่อื่นเค้าจะสอนเรื่อง รายรับ รายจ่าย และการออมเงิน เค้าจะกำหนดการออมเงินไว้ไม่น้อยกว่า 10 % ของรายรับ โดยถือว่าการออมเป็นรายจ่าย เพื่อให้เกิดรายได้

- การออมเงิน จะทำได้หลายทาง ถ้าเป็นคนไทยคงเห็นการฝากเงินในธนาคาร แต่ที่อื่นเค้าจะคิดว่าเงินจำนวนหนึ่ง ฝากธนาคารมีรายได้เพิ่มในปัจจุบันเพียง 1% ต่อปีเท่านั้น ซึ่งในบางประเทศฝากเงินต้องเสียค่าฝากด้วย
- การออมเงิน ยังมีหลายทางเลือกครับ เช่น

  • การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์(ผลตอบแทนสูง ความเสี่ยงมาก)
  • การซื้อสลากออมสิน(ไม่มีดอกเบี้ย แต่มีโอกาสถูกรางวัล มีความไม่แน่นอนในรางวัล)
  • การฝากเงินสหกรณ์ (ดอกเบี้ยมากกว่าฝากธนาคาร ไม่ตายตัว กู้ได้)
  • การทำประกัน(ดอกเบี้ยมากกว่าฝากธนาคาร 4-6 % กู้ได้ คุ้มชีวิต บ้างแห่งเบิกค่ารักษาพยาบาลได้)
  • ลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์(ใช้เงินทุนสูง มีความเสี่ยง)

เป็นต้น

.ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ส่งเสริมให้มี ประกันชีวิตเอื้ออาทร เพียงวันละ 1 บาท แต่เป็นการทำประกันชีวิตเท่านั้น มิได้เป็นการออมเงิน การทำประกันแบบการออมจะมีอายุการประกันไม่น้อยกว่า 10 ปี
.ผู้เขียนเมื่อก่อนไม่ชอบการทำประกันเลย แต่เมื่อต้องมาคิดว่าทำอย่างไร ให้เงินเก็บตัวเองมีมูลค่าเพิ่มขึ้นมากกว่าฝากธนาคาร ก็มาใช้วิชาคณิตศาสตร์และคอมพิวเตอร์ที่สอนอยู่มาคำนวณหาผลตอบแทนถ้าจะทำประกัน

.พบว่าการทำประกันก็เป็นการออมเงินและการลงทุนอีกแบบหนึ่ง แถมยังนำเบี้ยประกันที่จ่ายในแต่ละปีมาลดหย่อนภาษีเงินได้ ได้อีก ที่เขียนมาก็อยากให้ผู้อ่านได้ลองออมเงินกันจะด้วยวิธีใดก็ได้ จะออมเงินด้วยการทำประกันชีวิต ก็ดีนะครับ มีแต่ได้ครับ แต่จะมากจะน้อยของผลประโยชน์ก็อีกเรื่องครับ

*ปล. ผู้เขียนมิได้มีส่วนได้เสียจากการทำประกันและก็ไมได้เป็นผู้ขายประกันนะครับ

หมายเลขบันทึก: 48580เขียนเมื่อ 6 กันยายน 2006 09:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 มิถุนายน 2012 15:22 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

      ระบบการออมที่น่าสนใจ คือเครดิตยูเนียน เป็นการออมทรัพย์แบบเปี่ยมพลัง มีมานานกว่า150ปีแล้ว กำเนิดที่ประเทศเยอรมัน ผู้ก่อกำเนิด คือ ดร.ไร้ฟ์ ไฟเซ่น ครับ ใช้กระสุนนัดเดียวยิงนกได้ครึ่งฝูง ออมก็ได้ ฝากก็ได้ กู้ด้วย ประกันชีวิตไปในตัว เรียกได้ว่าเอนกประสงค์ เป็นการสร้างความมั่นคงให้ชีวิต"มีรายได้ถาวร นอนตายตาหลับ" เป็นสหกรณ์ประเภทที่7 ของประเทศเรา สามารถสร้างมรดกให้ทายาทได้สูงสุดร่วมครึ่งล้านบาท ต่อ1ชีวิต(ไม่น่าจนเลยนะ คนไทย)

     ในประเทศไทยก่อตั้วครั้งแรกที่ชุมชนศูนย์กลางเทวา ห้วยขวาง กท.ม.เมื่อหลายสิบปีมาแล้ว  โดยหมอสอนศาสนาคริสต์ เพราะเหตุนี้ จึงเป็นเหตุที่น่าจะทำให้เกิดความระแวง แทนที่ระบบสหกรณ์ดีๆแบบนี้ไม่งอกงามเท่าที่ควร ทั้งๆที่เป็นสหกรณ์แบบยืดหยุ่น คือไม่มีรายได้ประจำก็เป็นสมาชิกได้

สวัสดีตาหยู วันนี้ฝนตกหนักมาก ลมแรง เดินมามหาวิทยาลัย ร่มต้านทานแรงลมไม่ไหว กางย้อนขึ้นเพราะแรงลมกลายเป็นจานดาวเทียมเลย ซี่หักไปสองซี่ ตอนนี้ร่มพิการไปแล้ว น่าสงสารจริงๆ

ดีจ๊ะ คิดเรื่องการออม IS ออมอยู่เหมือนกัน (แถวบ้านเรียกงก) ถ้าจะให้ดี ควรให้ความรู้และศึกษาเรื่องออม ควบคู่กับภาษีตั้งแต่เริ่มมีรายได้ เพราะจะทำให้วางแผนในอนาคตได้ดี ทั้งที่จะมีครอบครัวและที่จะอยู่คนเดียว จะได้ไม่ต้องทำงานหนักไปจนแก่ มีเวลาให้ความสุขกับชีวิต มีเวลาใช้เงินที่ปันผลมาเพิ่มพูนคุณภาพชีวิต เพราะบางคนทำงานหนักจนแก่แต่ไม่มีเวลาหาความสุขจากเงินที่หามาได้ แล้วจะทำงานหนักไปเพื่ออะไรกันน้า

  • น้าแนน มาก่อนอีก
  • ตอนนี้ มีอด ไม่มีออม ทำอย่างไรดี
  • กำลังกินแกลบแล้ว ใกล้ชินแล้วครับ

- การออมเงิน จะทำได้หลายทาง ถ้าเป็นคนไทยคงเห็นการฝากเงินในธนาคาร แต่ที่อื่นเค้าจะคิดว่าเงินจำนวนหนึ่ง ฝากธนาคารมีรายได้เพิ่มในปัจจุบันเพียง 1% ต่อปีเท่านั้น ซึ่งในบางประเทศฝากเงินต้องเสียค่าฝากด้วย
- การออมเงิน ยังมีหลายทางเลือกครับ เช่น

  • การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์(ผลตอบแทนสูง ความเสี่ยงมาก)
  • การซื้อสลากออมสิน(ไม่มีดอกเบี้ย แต่มีโอกาสถูกรางวัล มีความไม่แน่นอนในรางวัล)
  • การฝากเงินสหกรณ์ (ดอกเบี้ยมากกว่าฝากธนาคาร ไม่ตายตัว กู้ได้)
  • การทำประกัน(ดอกเบี้ยมากกว่าฝากธนาคาร 4-6 % กู้ได้ คุ้มชีวิต บ้างแห่งเบิกค่ารักษาพยาบาลได้)
  • ลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์(ใช้เงินทุนสูง มีความเสี่ยง)

การซื้อสลากออมสิน มีผลตอบแทนให้นะครับ แต่ไม่ได้เรียกดอกเบี้ย เช่นงวดล่าสุด ซื้อหน่วยละ 50 บาท แต่ถ้าครบกำหนด ได้ คืนรวม 54.25 บาท / หน่วย ถ้าเทียบแล้ว ถือว่าเป็นการออมเงินที่ดีที่สุด นะครับ

สวัสดีค่ะตาหยู

จริง ๆ แล้วการออมต้องเริ่มที่ตัวเราก่อน  ตอนราณีเด็กๆ พ่อจะซื้อกระปุกมาให้ทุกคนและบอกว่าใครกระปุกเต็มก่อนกันจะให้รางวัล  นี่คือจุดเริ่มต้นการออมของราณี  พอเต็มแล้วพ่อจะพาไปฝากที่ธนาคารออมสิน  ตอนเด็กก็เก็บเงินซื้อสลากออมสินเองบ้าง พ่อกับแม่ซื้อให้บ้าง(ซื้อให้พี่น้องทุกคนค่ะ)  เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้วค่ะสลากออมสินเนี่ย

ตอนที่สอนวิชาบัญชี ก็สอนให้เด็กรู้ว่าต้องทำระบบการเงินของตนเอง   รับอะไรก็จด จ่ายอะไรก็จด  เพราะจะทำให้เขารู้ว่า มีรายจ่ายอะไรที่ไม่จำเป็นจะได้พยายามลดรายจ่ายนั้น  แต่เดี๋ยวนี้รัฐเริ่มให้การสนับสนุนการทำบัญชีรายรับ รายจ่ายของครัวเรือน มีการประชาสัมพันธ์ผ่านธนาคารธกส.  ค่ะ

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท