เรื่องแผลกดทับนี้ ผมเคยคิดคำนึงอยู่ครับ ผมเห็นว่า วิธีแก้วิธีหนึ่งคือ "การกระจาย" แรงกดทับ ..ไม่ให้มันกดเป็นจุด เฉพาะที่
วิธีง่ายๆ อาคือการใช้เปล แทนเตียง โดยเปลเป็นตาข่ายรูถี่ มีการระบายอากาศ และมีการกระจายน้ำหนัก ซึ่งต้องออกแบบเปลนี้ตามหลัก การยศาสตร์ (ergonomy)
ขณะนี้ผมซื้อเปลริมทางมานอนในห้องทำงาน ราคาประมาณ 1000 บาทเท่านั้น มันเข้ากับสรีระของหลังเรามากๆ นอนแล้วไม่มีเหงื่อ เพราะมันมีรูระบายอากาศอีกต่างหาก ถ้าเอามาต่อยอดจากกลายเป็นเตียงที่ลดการเกิดแผลกดทับได้มาก
ส่วนการถ่ายอุจจาระ ก็ทำได้ไม่ยาก และไม่เหนื่อยยากนางพยายาลด้วย ด้วยการให้นอนหงายตลอด แล้วเจาะรูไว้ใต้เปล ตรงก้นพอดี
อย่างนี้นอกจากไม่กดทับแล้ว ผู้ช่วยพยาบาลที่ต้องเหนื่อยพลิกกลับตัวเพื่อขับถ่าย ก็กสบายขึ้น หลอดเข็มให้น้ำเกลือ ให้อะไรต่อมิอะไรก็ไม่ต้องกระเทือน ผู้ป่วยก็หายเร็ว นางพยาบาลก็เหนื่อยน้อย
ผมก็ได้แต่คิดแหละครับ ทำอะไรกะเขาไม่ค่อยเป็นหรอก
แต่อย่าลืมคำขวัญประจำบล็อกผมนะว่า "การคิดที่ดี คือการทำที่ยากที่สุด"
ขอบคุณ อาจารย์มากค่ะที่เสนอแนะ ว่าแล้ว อาจารย์ต้องมีไอ เดีย
กระชูดแน่
เดี๋ยวโจ้ไปเสนอผู้อำนวยการนะค่ะ บอกไอเดียนี้มีที่มา ปรมาจารย์
คนถางทางไกด์เชียวนา
คำขวัญประจำบล็อก"การคิดที่ดี คือการทำที่ยากที่สุด"
แต่ที่โจ้อ่านบล็อกอาจารย์มา โจ้ว่า อาจารย์ คิดดีมากแล้วค่ะ
คิดดีคิดไม่ยาก แต่ทำดี แล้วหวังผล นี่ยาก
ทำดีก็ทำไปเลย ใครจะเห็นไม่เห็นก็ช่าง ใจเราเห็นก็สุขแล้ว
เมื่อวานนี้เกิดอาการจิตตก ถูกพาร์กินสันเล่นงาน เขียนบันทึกใน
http://www.gotoknow.org/blogs/posts/485138 เห็นมั๊ยค่ะว่า อาจารย์
มีส่วนทำให้ ชลัญธร คิดได้
ขอบคุณอาจารย์อีกครั้งค่ะ
อุ๊ย!! เดี๋ยวแทนตัวเองโจ้ เด๊่ยวชลัญธร สรุปคนเดียวกันค่ะ อาจารย์