ชมสวน(3) : สูตรปลูกผักหวานป่าที่ประหยัดที่สุด ตอนที่15


ภาพธรรมของชาติและต้นไม้ต่างๆที่อยู่ภายในสวนวันนี้ ได้สื่อสะท้อนเข้ามาในหัวใจของตัวเอง "นี่คือรางวัลความรักที่ธรรมชาติมอบให้ที่สัมผัสได้ด้วยกาย วาจา ใจ" แม้วันนี้อาจยังลำบาก(เต็มบ้าง ขาดบ้าง)แต่ธรรมชาติของสวนในวันนี้ทำให้ข้าพเจ้าเชื่อว่าชีวิตบั้นปลาย"ลูกๆต้นไม้"จะเลี้ยงข้าพเจ้าเอง

 

7เมษายน2555 วันนี้ฟ้ามืดครึ้มตั้งแต่เช้าหลังจากที่รอคอยฝนฟ้ามาโปรดปราณให้ต้นไม้(ได้สดชื่นเติบโต) และให้คน(ได้ประหยัดค่าน้ำ ได้พักทำงานภายนอกมาทำงานภายใน.

 

เหมือนเทวดาฝนฟ้าเป็นใจฝนเทลงมาอย่างไม่ขาดสายแบบนิ่มๆไม่แรงเกินไปไม่เบาเกินไปพอให้ดิน-ใบไม้ได้ดูดซับน้ำเก็บความชุ่มชื้นเอาไว้ทัน!

 

3ชั่วโมงแล้วยังไม่หยุดตกต้นไม้ใบหญ้าคงได้ชุ่มฉ่ำไปหลายวัน หลังสงกรานต์คงได้เวลาเตรียมดินกรอกถุงเพาะชำต้นไม้อย่างสบายใจไม่ต้องห่วงเรื่องรดน้ำต้นไม้.

 

ข้าพเจ้ายังแอบหวังลึกๆในใจช่วงเวลาวันสงกรานต์ ขอให้เทวดาบนฟ้าประพรมน้ำมนต์ลงมาแบบนี้บ้าง ผู้คนจะได้ระมัดระวังมากขึ้น ผู้คนจะได้ไม่ออกวิ่งตามท้องถนนมากนัก จะได้อยู่พร้อมครอบครัวคุยกันบอกรักกันให้หายคิดถึงสมกับที่ห่างหาย(ทำงานๆๆ)ได้ยินแต่เสียงกันเสียส่วนมาก.

 

น้ำที่ใช้สาดกันทิ้งนำไปรดต้นไม้น่าจะดี ประเพณีที่ดีงามไม่เปลืองน้ำ นำพาลูกหลานเข้าวัดปฏิบัติธรรม(ไม่เมาน้ำลายหรือเมาน้ำขวด) ใช้เวลากับครอบครัวให้เวลาหัวใจได้มองดูถิ่นเกิดอย่างชัดๆ.

 

(พูดเรื่องฝนไหงไปถึงสงกรานต์นะเรา)คงได้ฟังเสียงฝนแล้วสุขใจจึงอยากให้สิ่งแวดล้อมรอบนอกได้พบความสุขจากธรรมชาติด้วยกัน.

 

     ...เข้ากับบรรยากาศเป็นใจฝนฟ้าทำงานคนก็เลยมีเวลาพักในร่มจึงขอนำชมสวนกันต่อจากบันทึกที่แล้ว จากความรู้เรี่องไอทียังไม่เท่าไหร่ พอถูๆไถๆไปได้จึงต้องกราบขออภัยไว้ล่วงหน้าหากมีสิ่งใดคำพูดใดพลาดพลั้งไป...

 

วันนี้ข้าพเจ้าจะขอนำทุกๆท่านชมสวนในโซนที่เรียกว่าแปลงโสลปค่ะ(ลักษณะลาดเอียงของแปลงดินเหมือนภูเขา).

1.ภาพที่หนึ่งจากบนเป็นถนนเส้นที่ตรงมาจากประตูหน้าบ้านค่ะ แปลงฝั่งขวามือในภาพแต่เดิมเป็นแปลงมะขามหวานหลังจากเรียนรู้เข้าใจธรรมชาติของผักหวานจากดอยภูเขาแล้วได้ทำการปลูกต้นไม้ชนิดต่างๆเสริมในแปลง ทุกวันนี้ไม่มีช่องว่างให้ปลูกรอเพียงการเติบโตของต้นที่ปลูกไว้.

 

2.ในภาพเป็นถนนเส้นที่ต่อกันกับภาพที่1 แปลงนี้เรียกว่าแปลงโสลปค่ะจากเดิมปลูกมะขามหวานพันธุ์สีทอง แต่ผลผลิตหวังไม่ได้ (ไม่ค่อยติดลูกหรือบางปีติดลูกดกเจอฝนตก ฝักแตกก่อนแก่หรือไม่ก็เป็นรา)รอแล้วรออีก(ให้โอกาส10ปี)ได้ปรึกษากันเราเปลี่ยนจากต้นมะขามหวานมาปลูกต้นตะขบดีไหมข้างล่างต้นตะขบก็จะมีผักหวาน ข้างล่างผักหวานก็จะมีพริก กระเพรา กระชาย บุกฯ...

..หลังจากตกลงปลงใจเรียบร้อย2549จัดการต้นมะขามลงซะเรียบแปลง จากพื้นดินโล่งๆใต้ร่มมะขามไม่มีหญ้าขึ้นพอมาเจอฝนแล้งปี49,51 ร้อนมาก(เหมือนคนหัวล้านไม่มีผม)ต้นตะขบที่ปลูกแทนต้นมะขามหวานพอเป็นร่มได้ปลูกผักหวาน แต่ปลายปี52เจอแล้งจัดตะขบยืนต้นตายผักหวานหยุดชะงักบวกกับช่วงมรสุมชีวิตเข้ามาจึงหยุดพักไว้ไปแก้ปัญหาอีด้านค่อยกลับมาต่อ...

 

3.เวลา2ปีที่หยุดพักธรรมชาติได้ทำระบบของมันเอง โดยนก,ลม และระบบนิเวศของสิ่งแวดล้อม ต้นไม้ธรรมชาติพื้นถินได้งอกเงยขึ้นในแปลงโสลป(สะเดา กระถิน มะเกลือ สะแกฯ)รวมถึงต้นไม้ที่คนได้ปลูกไว้พร้อมๆกันกับตะขบแต่ไม่ตายคือน้อนหน่า สิ่งเหล่านี้ทำให้ได้รู้จักคำพ่อสอน ระบบปลูกป่าโดยไม่ต้องปลูก-ล้อมป่าเป็นแบบนี้นี่เอง...

 

4.หลังจากที่ที่ป่าเริ่มฟื้นกลับมา บวกกับปัญหาชีวิตผ่อนคลายได้กลับมาลุยกับต้นไม้เต็มที่ 2554 นำตะขบมาเสริมในแปลงอีกครั้ง ต้นไม้ที่รกทึบไปก็ตัดแต่งทำฟืนทำปุ๋ย...

5.ภาพนี้จากการที่คนสองคนขึ้นรูปในใจ(วิทยาศาสตร์ทางใจ)ใช้เวลา5ปีกับการสร้างสิ่งที่อยู่ในใจให้จับต้องได้ในวันนี้ จากในภาพชั้นบนสุดจะเป็นต้นไม้ธรรมชาติมะเกลือ สะเดา สะแกฯลฯ ช่วยป้องกันลมพยุงต้นตะขบไม่ให้ล้ม เป็นบ้านและอาหารให้มดแดง นก สัตว์ต่างๆ...ทุกโคนต้นไม้(หยอด)ปลูกผักหวานป่าลงไปแล้วปี54 อีก2-3ปีข้างหน้าคงได้เห็นป่าในชั้นที่3ผักหวานป่าและชั้นที่4พริก กระเพรา ผักต่างๆ(ไม้ชั้นที่1ต้นไม้ธรรมชาติ ชั้นที่2ต้นตะขบ)...

 

6.ภาพนี้เป็นถนนบนแปลงโสลปต่อกันกับเส้นในภาพที่2

 

7.ถนนต่อกันกับเส้นในภาพที่6 ทางด้านขวามือเป็นถนนอีกเส้นที่อยู่ด้านล่าง มุมนี้เรียกเนินสะเดา...

8.ถนนด้านเนินสะเดามองเห็นแปลงโสลปมุมล่าง

9.มุมแปลงโสลปด้านล่าง...

 

10.

11.ภาพที่10,11 เป็นสภาพดินของอุฑยานผักหวานป่าที่แห้งแล้งมาก แม้จะดีกว่าตอนที่ข้าพเจ้ามาอยู่ใหม่ๆ(แตกกว้างกว่านี้)แต่เมื่อใดที่ฝนแล้งก็ยังแตก เพราะไม่มีน้ำใต้ดินเพราะพื้นที่อยู่สูงไม่มีน้ำใต้ดินตื้นๆ แต่สภาพต้นไม้ที่เติบใหญ่ในวันนี้ก็เป็นกำลังใจให้คนทำอย่างมากค่ะอย่างน้อยก็เหลือเพียงระบบน้ำที่ต้องทำ

***พื้นที่โซนแปลงโสลปเพียงจุดเดียวได้ให้ความรู้กับข้าพเจ้าอย่างมากมายได้เรียนรู้ระบบป่าไม้หลายชั้น ได้เรียนรู้ระบบล้อมป่า ปลูกป่าโดยไม่ต้องปลูก ระบบวนเกษตรเกษตรผสมผสาน ระบบสังคมพืชการอยู่ร่วมกันแบบพึ่งพาอาศัยกันของป่าและสัตว์ต่างๆ(ไม่มีมนุษย์ซักคนต้นไม้ธรรมชาติก็อยู่ได้) ระบบนิเวศของป่า ระบบการพึ่งพาอาศัยกันของใบไม้ชั้นบนที่กอดกัน เบียดเสียดร้องเพลงให้กันฟัง ระบบรากใต้ดินที่ชอนไชแบ่งน้ำแบ่งอาหารนำพาอากาศลงใต้ดินให้สิ่งมีชีวิตมากมายใต้ดิน แบ่งปุ๋ยให้อาหารแก่กันและกันโดยมีลมฝนน้ำนำพาจากการล่วงหล่นของใบไม้กิ่งไม้แต่ละชนิดที่แตกต่างกันวิตตามินย่อมแตกต่างกันและต้นไม้แบ่งปันกันเป็นปุ๋ย***

 

**เพราะธรรมชาติคือครูผู้ยิ่งใหญ่...ขอบคุณและสวัสดีค่ะ**

 



ความเห็น (14)

สวัสดีค่ะคุณน้อย

ตามมาชมสวนอันร่มรื่นค่ะ ต้นไม้ช่วยทำให้หน้าแล้งดูแล้งน้อยลงนะคะ ถ้าเป็นฤดูฝนคงชุ่มชื่นชุ่มฉ่ำมากๆเลย

แถบนี้เป็นที่ดินแถบเชิงเขารึเปล่าคะ ถึงเป็นเนินสูงต่ำต่างกัน สวยดีค่ะ ดูกว้างขวางมากมายเลย

ปริมมีที่ดินผืนเล็กๆ ใกล้เขาด้วยน่ะค่ะ ตอนนี้ให้เขาทำนาอยู่ก็คุยกันว่าจะปล่อยให้เป็นป่าดีหรือเปล่าเพราะทำนาสมัยนี้ใช้สารเคมีกันเยอะมาก หากอยากทำให้เป็นพื้นที่ปลอดสารในวันข้างหน้าคงจะดีถ้าปล่อยให้ธรรมชาติเขาเกื้อกูลกันเองไปก่อน ดูๆแล้วดินแถบนั้นก็ไม่ค่อยสมบูรณ์เท่าไหร่ด้วยปลูกอะไรคงขึ้นยาก เลยแวะมาดูไอเดียดีดีจากบันทึกของคุณน้อยนี่แหละค่ะ ขอบคุณมากค่ะ

 ขอบคุณสำหรับดอกไม้กำลังใจค่ะคุณปริม...

...คำถามของคุณปริมทำให้ยิ้มๆค่ะเพราะเรื่องจริงมันตรงกันข้ามกับคำถามเลยค่ะ(รอดชีวีมาได้ก็บุญโขเพราะเหนื่อยมากกกกก)

...พื้นที่สวนภาษาอีสานเรียกว่าโคกค่ะคุณปริมหากเปรียบกับภูเขาก็คงเป็นพื้นที่บนยอดดอยค่ะ(สูงและไม่มีน้ำ ดินร้อน)

...ดินมุมที่ดูสูงๆเกิดจากการขุดคลองชลประทานข้างแปลงที่ดินค่ะ พื้นที่อยู่ใกล้คลอง ชลประทานขอนำดินที่ขุดขึ้นมานำมากองถมในพื้นที่(30ปีที่แล้ว) อยู่ติดคลองแต่ไม่มีปัญญานำน้ามาใช้ เพราะพื้นดินมุมสวนอยู่สูงกว่าคลองและที่ดินของชาวบ้านแปลงอื่นๆที่ทำนาปีละ2ครั้งค่ะ หากเปรียบคงเหมือนดินบนยอดดอยแต่น้ำอยู่เชิงดอยพื้นล่างค่ะ.

...ด้วยเหตุนี้พื้นที่จึงต่างระดับกันค่ะ พื้นที่30กว่าไร่รอบๆเป็นป่าทำสวน2คน(เป็นหลัก)จึงต้องทำถนนเป็นล็อกๆรอบแปลงปลูกต้นไม้เพื่อกันไฟป่าและสะดวกในการนำรถยนต์ขนปุ๋ยให้กับต้นไม้ค่ะ(ช่วง10ปีที่ผ่านมาไฟป่าเคยลามเข้าสวนเกิดจากจิตใจอิจฉาริษยาของมนุษย์ทำให้เกิดภาวะจิตหวาดระแวงกับเสียงไฟอยู่หลายปีค่ะ ได้ยินเสียงไฟเห็นวันไฟเป็นต้องวิ่งรอบสวน).

...พื้นที่ดูกว้างแต่โซนที่จะปลูกต้นไม้จริงๆไม่ค่อยมีค่ะ ยังพูดๆกับคุณพ่อบ้านอยู่ค่ะว่าในอนาคตถนนที่รถยนต์วิ่งขอมาปลูกต้นไม้ใช้รถจักรยานปั่นออกกำลังกายแทนหรือเดินค่ะ.

...แม้ที่ผ่านมาลำบากแต่เมื่อถึงวันนี้กลับได้ข้อคิดค่ะคุณปริมเหมือนชีวิตต้องมาสร้างความเพียรกับหัวข้อฝึกความลำบากความอดทนอดกลั้นฝึกการแก้ปัญหาฯ (เชื่อว่าแต่ละคนมีด่านชีวิตค่ะ)วันนี้ต้นไม้เติบใหญ่มองย้อนหลังกลับไปก็สุขใจค่ะ.

...ที่น้อยเล่าให้คุณปริมฟังไม่ใช่ให้กลัวการปลูกต้นไม้ทำการเกษตรนะคะ เท่าที่ฟังคุณปริมเล่าถึงสภาพพื้นที่ที่อยู่ใกล้เขาอย่างน้อยก็รู้ว่ามีน้ำใต้ดินที่ซึมลงมาจากภูเขา รวมถึงน้ำบนดินก็ไม่น่าจะมีปัญหาอย่างกับสวนของน้อย.

...ในความเห็นของน้อยพื้นที่3-5ไร่พอดีกับการทำสวนแบบผสมผสานค่ะไม่เหนื่อยมากไม่ต้องลงทุนมากดูแลทั่วถึง(เพิ่มผลผลิตด้วยการปลูกพืชหลายระดับชั้น(อายุ)หลากหลายชนิดในพื้นที่เท่าเดิม)

...ดินไม่ค่อยดีหากมีน้ำก็ปรับสภาพให้ดีได้เร็วขึ้นค่ะโดยการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ทุกวันนี้กับปัญหาคนมากกว่าพื้นที่การปลูกใจคน(ทำสวน-เฝ้าสวนให้เรา)ก็มีส่วนสำคัญนะคะ หลายๆพื้นที่มีปัญหาจุดดังกล่าวจึงหันไปปลูกพืชไร่แทนการทำสวนค่ะ

...ขออภัยนะคะพูดซะยาวเชียวค่ะ(คุณปริมเป็นอีกคนที่คุยด้วยแล้วสบายใจค่ะ) จากบันทึกของคุณปริมด้วยจิตใจที่ดีงามเคารพและเข้าใจธรรมชาติน้อยเชื่อว่าหากคุณปริมหันมาทำสวน(เริ่ม-วางแผน)ต้นไม้จะเขียวขจีในเวลาไม่นานค่ะ...

เป็นชุดสารคดีของป่าผักหวานที่น่าสนใจมากค่ะ..คือตำนานแห่งการเรียนรู้อย่างแท้จริง..ขอบคุณค่ะ

 ขอบพระคุณค่ะคุณนงนาท ขอบพระคุณสำหรับดอกไม้และกำลังใจค่ะ...

...ความเหน็ดเหนื่อยที่คิดว่ามากมายแต่เมื่อมองขึ้นไปบนฟ้า กลับได้รู้ว่าเทียบไม่ได้เลยกับความเหน็ดเหนื่อยของพ่อหลวงแม่หลวง ทุกๆพระองค์ค่ะ.

...ทุกๆครั้งที่ได้ข้อคิดในใจ หัวใจเหมือนมีน้ำเย็นๆเทรดราดเกิดมีแรงพลังในการทำงานสู้กับอุปสรรคปัญหาตลอดมาค่ะ.

ดูสภาพอุฑยานผักหวานป่าแล้ว
คล้ายเป็นป่าหรือภูเขาเลย 
ไม่เหมือนสภาพพื้นดินในที่ราบ 

คนทั่วไปก็จะเข้าใจว่าสภาพดินแบบนี้แหละ
(แบบของโยมน้อย)
เหมาะกับการปลูกผักหวานป่าที่สุด
และก็เข้าใจแบบเดิมๆอีกว่า ผักหวานป่า
ชอบดินภูเขา(เพราะประสบการเิดิมนั้น
เคยเจอมาอย่างนั้นตลอดแต่เล็กจนโต) 

แล้วก็ได้ยินมาเหมือนๆกันเลยคือหลายเคยปลูกผักหวาน
แต่ไม่ประสบผลสำเร็จเลยสักครั้งเดียว 

ได้เห็นสวนของโยมแล้ว ถ้าฟังคนอื่นเล่าให้เราฟัง
เราอาจจะยังไม่แน่ใจก็ได้ว่ามีด้วยหรือสวนผักหวาน
เีรียนรู้เรื่องผักหวานป่าจากโยมน้อยในช่วงเวลาไม่กี่เดือนมานี้
ถือว่ามีประโยชน์มาก ได้ความรู้ได้แนวคิด การอนุรักษ์ป่า
วิธีทำอาชีพเกษตร

 กราบนมัสการพระคุณเจ้า พระมหาแล อาสโย ขำสุข...ค่ะ

...ขอกราบอนุโมทนาสาธุการค่ะ ที่ความรู้จากการปฏิบัติของข้าพเจ้าและคุณโอภาส ไชยจันทร์ดีเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมอย่างที่ตั้งใจสื่อสะท้อนลงในบันทึก...

...ส่วนสำคัญที่สุดข้าพเจ้าต้องขอกราบขอบพระคุณเวบไซต์GotoKnowที่สร้างโอกาสให้กับโลกการสื่อสาร(ดีแท้)...

...สาเหตุส่วนหนึ่งที่ตั้งใจนำข้อมูลความรู้เกี่ยวกับสูตรวิธีปลูกผักหวานป่าออกเผยแพร่เพราะมาจากคำว่า ประสบการณ์เดิมๆความเข้าใจเดิมๆ.

...หลายคนคิด-เข้าใจ-สรุป(เดิมๆ)ว่าผักหวานป่าชอบดินโคก(ดินปนหิน ดินจอมปลวก)ชอบหิน แต่แท้ที่จริงผักหวานเป็นพืชในที่ดอนน้ำท่วมผักหวานตาย(รากเน่า) แต่ไฟไหม้ผักหวานทนได้(รากไม่เน่า-ลงหัว)...ดังนั้นในภูเขา-ป่า โซนที่จะพบผักหวานได้มากที่สุดจะอยู่ช่วงกลางเขา-ไหล่เขา ในโซนที่เป็นบริเวณยอดเขา-พื้นที่ลาดชันหรือพื้นล่างที่ลุ่มๆจะไม่ค่อยมีต้นผักหวานป่า...ด้วยเหตุนี้จึงพบเห็นผักหวานป่าในบริเวณพื้นที่ลาดเอียงและสภาพดินเป็นดินเหนียวปนหิน ปนทราย ดินเหนียวลูกรังในฤดูฝนคล้ายๆโคกของภาคอีสาน เพราะดินสภาพแบบนี้ไม่อมน้ำค่ะ.

...หลายๆคนที่คิด-เข้าใจ-สรุป ว่าผักหวานชอบดินปนหิน ชอบหิน...หากย้อนถามกลับกับคนบ้างค่ะว่า ระหว่างให้คนเลือกทานข้าวกับปลาเผา ไก่ย่างและส้มตำ กับทานข้าวกับส้มตำเพียงอย่างเดียว... เช่นเดียวกันค่ะกับผักหวานป่าหากให้เลือกระหว่างอยู่บนโคกที่ร้อนและแล้งดินไม่ดี กับพื้นที่ที่ดินดีอุดมสมบูรณ์น้ำไม่ท่วมขังผักหวานป่าคงเลือกอย่างหลังค่ะ...แต่คนส่วนใหญ่นึกถึงแต่ความต้องการของตัวเองเป็นใหญ่(สำคัญตนเป็นใหญ่) จึงหลงทางกับผักหวานป่าค่ะ.

...หลายคนที่ปลูกผักหวานป่าไม่ค่อยประสบผลสำเร็จเพราะเอามาแต่ผักหวานลืมเพื่อนๆสิ่งแวดล้อมของผักหวานที่อยู่ด้วยกันกับผักหวานตามป่า-เขามาด้วยค่ะเพราะพื้นที่ๆพบเห็นต้นผักหวานป่าในปัจจุบันส่วนมากมีแต่ผักหวานเด่นๆโดดๆ(ต้นไม้ถูกตัดโค่น) หากย้อนความเป็นป่าจริงๆแม้ในกรุงเทพฯเมืองหลวงเองเมื่อ50-100ปีที่ผ่านมาบางพื้นที่ยังมีสัตว์ป่าอยู่เลยค่ะ(ข้อมูลจากตำราประวัติพระสงฆ์"พระอรหันต์")

ขอกราบนมัสการค่ะ

สวัสดีค่ะคุณน้อย

ไม่น่าเชื่อว่ายอดดอยจะสามารถปลูกผักหวานได้งดงามเพียงนี้ค่ะ ปริมดูจากรูปในบันทึกเก่าๆ ของคุณน้อยเห็นยอดผักหวาน ดอกผักหวานเขียวขจี น่าทานมาก ปริมก็คิดว่าเป็นสวนที่อยู่ที่ราบ พอเห็นรูปในสามบันทึกหลังเป็นเนิน ก็คิดว่าคงเป็นที่ราบเชิงเขา ที่ไหนได้ เล่นอยู่ที่สูงเลยค่ะ...ปล่อยไก่ตัวเบ้อเริ่ม...

ขอชื่นชมจากใจจริงๆ เลยค่ะที่คนสองคนทำสวน 30 ไร่ได้จนอยู่ตัวในวันนี้ เหนื่อยแค่ไหนคงไม่ต้องถาม แต่ผลที่ได้คุณน้อยกับคุณโอภาสต้องภูมิใจมากๆ เลยนะคะ สุดยอดค่ะ

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ ปริมไม่มีพื้นฐานทางการเกษตรเลย แต่พออายุเริ่ม 30+ ก็เริ่มคิดเริ่มวางแผนถามตัวเองว่าจะใช้ชีวิตในวัย 40+ อย่างไรดี ชีวิตที่พอเพียงตามแนวพระราชดำริคือคำตอบ ทีนี้เราก็เริ่มเตรียมความพร้อมกัน ประกอบกับความชอบส่วนตัวที่ชอบธรรมชาติ ชอบสัตว์ รวมทั้งความเชื่อในการใช้ชีวิตเรียบง่ายเพื่อเอาเวลาที่มีใช้ในการเรียนรู้และพัฒนาตัวเองและช่วยเหลือผู้อื่น เราจึงอยากอยู่ในสวนที่พึ่งพาตัวเองได้ ทำไร่แบบไร้สาร เพราะเราทานมังสวิรัติกันมาตลอด จริงๆแล้ว ชีวิตก็ต้องการแค่นี้ ไม่มากมายเลยค่ะ..

ก็หากทำได้ดังที่คิดคงจะดีมากๆ เหลืออย่างเดียวคือการเริ่มต้นเดินทางนั้น ซึ่งก็คิดว่าคงอีกไม่กี่ปีนี้ค่ะ ตอนนี้ก็เลยคิดว่าน่าจะใช้เวลานี้เตรียมตัว หาข้อมูล หาความรู้ไปเรื่อยๆ เตรียมสถานที่ไปทีละน้อย อย่างที่เล่าให้ฟังน่ะค่ะ แต่ว่าคงทำด้วยตัวเองได้ไม่ทั้งหมด คงต้องขอผู้เชี่ยวชาญช่วย

ขอบคุณที่รับฟังความฝันของปริมในคืนนี้ค่ะ ปริมคุยกับคุณน้อยแล้วก็รู้สึกดีเช่นกันค่ะ ถ้ามีอะไรจะแนะนำก็ช่วยด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ :)

เมื่อเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ ที่ผ่าน ได้ลองนำข้อมูลเรื่องผักหวานป่า
ของโยมน้อยไปให้คนรู้จักกันอ่าน(เขามีที่ดินประมาณสองสามไร่)
ก็คิดว่าเขาคงสนใจบ้าง เขาบอกว่าการทำเกษตรต้องลงทุนมาก

ซึ่งอาตมากำลังคิดว่าที่ดินสองสามไร่นี้ ทำจริงๆก็พอมือพอกำลังกับฐานะพอสมควร
ไม่หนักมากเกินไป ไม่ต้องใช้ทุนมากด้วย ทำแบบผสมหลากหลายคละกันไป
คิดว่าน่าจะพอเป็นไปได้ เขาขอคิดดูก่อน(สงสัยคิดนานแน่แหละ)

ที่แนะนำไปเพราะเขาเป็นลูกชาวนาชาวไร่ แต่ปัจจุบันให้คนทำ ตัวเองทำงานอื่น
คิดว่าคนที่มีพื้นฐานอยู่บ้างแบบนี้ น่าจะมองเห็นการทำแบบพอดีๆ พออยู่ได้
แต่เขายังคิดแบบเดิมๆอยู่ คือทำมากๆ มีที่เยอะๆ จึงจะเหมาะกับการลงทุน

สรุปคร่าวๆว่ายังตามแนวความคิดแบบพอเพียงไม่ทัน คิดว่าต้องทำขายให้มากเข้าไว้
ยังติดอยู่ที่วิธีคิดอยู่ ก็คิดว่าถ้าแนะนำคนไม่เคยใช้ชีวิตอยู่กับพื้นดิน อยู่กับธรรมชาติมาก่อนก็จะยิ่งยากมากไปกว่านี้หลายเท่าแน่เลย

แนะนำคนอื่นไปแล้ว ไฉนเลยจะไม่เรียนรู้เองบ้าง ก็ลองหาวิธีทำเองดูสักหน่อยเป็นไร
อันดับแรกก็ไปหาต้นตะขบก่อน หายากไม่ใช่เล่นเลยตะขบเนี่ย ไปเจอตะขบขึ้นที่ร่องน้ำภายในวัด กว่าจะรู้ว่าต้นไหนเป็นตะขบได้ ก็ได้อาศัยโยมน้อยเป็นคนแนะนำนั่นเอง

ได้นำเมล็ดตะขบไปบีบในถังน้ำแล้วนำไปราดตลอดร่องน้ำ ทำอยู่หลายครั้งแล้ว หลังจากนั้นเห็นตะขบขึ้นมาบ้างเหมือนกัน แต่ไม่ทราบว่าต้นที่ขึ้นนั้น ขึ้นจากที่เราน้ำเมล็ดไปราดไว้หรือเปล่า หรือว่าขึ้นเองตามธรรมชาติ

สังเกตต้นที่ขึ้นมีไม่มากนัก ที่เราไปราดไว้มากมายนั้น ถ้าขึ้นคงจะแน่นมากเลย
ดูแล้วเหมือนมันขึ้นเอง ตอนนี้มีประมาณสามสิบต้นได้(ถ่ายรูปมาฝากโยมน้อยด้วย)

สรุปเบื้องต้นให้โยมน้อยฟังว่า ตะขบนั้นปลูกยาก ยากกว่าที่คิดไว้เยอะแลยแหละ 

เมื่ออาทิตย์ที่แ้ล้ว ฝนตกน้ำเต็มร่อง ระบายไม่ทันทำให้ต้นที่อยู่ในร่องน้ำจมน้ำตายไปบ้าง พอน้ำแห้งแล้ว ได้ถอนต้นที่อยู่ในร่องน้ำออกไปปลูกในถุงดำประมาณสิบต้น

              
              จากต้นเล็กๆเมื่อประมาณเดือนที่แล้ว(ก.พ.-มี.ค.๕๕) ก็เริ่มโตขึ้น
                           
                  
                   ต้นนี้สูงประมาณหัวเข่าแล้ว 

 สวัสดีค่ะคุณปริม...

...พื้นที่ของสวนอยู่ในโซนพื้นที่ราบของอำเภอน้ำพองค่ะ แต่พื้นที่บริเวณสวนจะอยู่มุมสูงเพราะขุดคลองชลประทานตัดผ่านและนำดินมากองเลยสูงกว่าแปลงที่ดินของคนอื่นๆค่ะ พื้นดินในสวนเลยมีสภาพที่ต่ำบ้างสูงบ้าง(ปลูกต้นไม้ตามใจชอบไม่ได้ค่ะ ด้วยเหตุนี้จึงต้องเรียนรู้ทุกระบบในพื้นที่แห่งนี้ ต้นไม้ทนแรง ต้นไม้น้ำท่วมไม่ตาย ต้นไม้พื้นถิ่น การปลูกต้นไม้เป็นกอ(กลุ่ม)สังคมพืช ระบบดิน ระบบน้ำ ชนิดของปุ๋ย ถึงวันนี้สิ่งที่เรียนรู้-ปฏิบัติมาก็เลยกลายเป็นตำราชีวิตต้นแบบ(รุ่นบุกเบิก)ให้กับผู้ที่สนใจค่ะ)

...แนวทางทำสวนสร้างความสุขไปสู่วัยบันปลาย(ไม่(ยอม)แก่ แต่แรงหมด) ไม่ต้องใช้พื้นที่เยอะ เรื่องน้ำคือสิ่งที่ต้องคิดถึงอันดับแรกค่ะ 3-5ไร่พอดีๆ บ้านหลังเล็กๆอยู่ในสวน.

  • ไม่ต้องใช้เงินทุนเยอะ(หลายๆคนคิดว่าหาเงินให้ได้เยอะๆแล้วค่อยกลับมาเริ่มทำ หรือมีเงินเยอะๆแล้วค่อยทำ"แค่คิดก็ผิดแนวทางพอเพียงแล้วค่ะ").

...คนทำงานไม่ค่อยมีเวลาทำสวนเองหรอกค่ะ ต้องหาคนช่วยทำช่วยเฝ้า(คนช่วยทำช่วยเฝ้าหากเป็นญาติพี่น้องหรือได้คนที่รักแนวทางวิถีชีวิตการเกษตรแบบเรียบง่ายนับว่าการทำสวนจะสำเร็จผลเร็วยิ่งขึ้นค่ะ และที่สำคัญของที่ปลูกในพื้นที่ต้องให้คนช่วยเฝ้าคนดูแลกินได้ด้วย "เงินซื้อ-จ้างได้เพียงกายแต่น้ำใจได้รับหัวใจที่จริงใจปราถนาดีกลับคืน) ที่จริงคนรุ่นเก่าๆที่เป็นเกษตรกรเค้ามีองค์ความรู้แนวทางเกี่ยวกับการทำการเกษตรอย่แล้วเพียงแต่เรานำวิถีเกษตรที่เป็นความรู้ใหม่ๆเพิ่มเติมเข้าไป(ข้อมูลจากโครงการหลวงมีมากมายค่ะเพียงแต่เรานำมาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับพื้นที่ของเรา).

...ปลูกผลไม้ที่เราชอบทานเพียงแค่เห็นเค้าเติบโตสิ่งแรกที่ได้อิ่มคือหัวใจที่สุขค่ะ รวมถึงปลูกผลไม้ที่เป็นพืชพื้นถินอาหารของนกนกจะช่วยปลูกและชวนเพื่อนๆนกมาอยู่สวนคุณปริมเพียบเลยค่ะ.

...หากพื้นที่เป็นป่าไม่ต้องถางป่าให้นำไผ่หรือไม้ยืนต้นปลูกแซมป่า จะได้ลำไผ่และลำต้นของต้นไม้ที่สูงตรงลิ่วเลยค่ะ(ธรรมชาติสร้างสรรค์กันเองไม่ต้องไปดัดเขาให้เหนื่อยค่ะ)

...สภาพพื้นที่คุณปริมเป็นแบบไหนคะ หากมีข้อมูลหรือภาพถ่ายให้ดูคงดีค่ะจะได้ช่วยแนะนำ-วางแผนค่ะ(เรื่องต้นไม้พอไหวค่ะ)

ยินดีที่ได้คนรักและจะปลูกต้นไม้ทำสวนเพิ่มขึ้นอีกคนค่ะ"ใจรัก"คือสิ่งสำคัญมากๆค่ะ บางคนดินดีน้ำดีแต่ใจไม่รักก็ไม่เกิดมรรคผลและส่วนมากประเภทดังกล่าวนี้จะหันกลับมาปลูกต้นไม้เมื่อแรงหมดค่ะ ขอบคุณค่ะ ***

 กราบนมัสการพระคุณเจ้า พระมหาแล อาสโย ขำสุขค่ะ...

...ทุกวันนี้มุมมองการเกษตรเปลี่ยนไปค่ะ(กระแสระบบทุนนิยม) เงิน บ้าน รถ ที่เยอะๆ ไม่ต้องทำให้เหนื่อย หาเงิน(รับจ้าง)ซื้อกินเอาง่ายกว่า มุมมองดังกล่าวนี้กำลังแพร่ระบาดโดยเฉพาะกับคนที่เป็นเกษตรกรหรือลูกหลานเกษตรกรค่ะ แต่พอบทจะทำก็วิ่งตามกระแส...(ข้าพเจ้าไม่เคยคิดดูถูกเกษตรกร แต่เพราะความเป็นจริงที่เป็นทุกวันนี้ที่ห้ามไม่ได้ เปลี่ยนยาก จึงได้สร้างจุดยืนให้กับชีวิตโดยมีผักหวานป่าเป็นทูตแห่งไมตรีจิตต้อนรับทุกคนที่มีแนวทางเดียวกัน และกันคนที่ไม่ชอบแนวทางนี้ก็อย่าเสียเวลา)...

...ขอกราบอนุโมทนาสาธุค่ะ ทำให้ดูดีกว่าชวน-แนะนำให้เหนื่อยค่ะ เมื่อถึงวันสำเร็จผลคนประเภทนี้จะวิ่งตาม(ห้ามยังไงก็ไม่อยู่ค่ะ เพราะเจอกับชีวิตตัวเองมาแล้าค่ะ ทำผักหวานเสียงหัวเราะเยาะ สบประมาทปรามาศ ดูหมิ่นดูแคลน"แก้คนประเภทนี้ด้วยการไม่พูดค่ะ แต่ปลูกผักหวานไว้หน้าบ้านวิ่งรถเข้าออกผ่านทุกวันๆมองเห็นต้นผักหวานเมื่อไหร่คงได้นึกถึงคำพูดของตัวเองแทน)...

...กินข้าวโต โสความผู้อื่น (ผญาอีสาน:กินข้าวตัวเองแต่พูดแต่เรื่องคนอื่น)

...ต้นตะขบที่ท่านนำเมล็ดไปสาดไว้ที่ร่องน้ำหากน้ำไม่พัดไหลแรง ไม่นานก็จะงอกขึ้นมาค่ะเพราะเมล็ดตะขบแม้ตากแดดหรือแช่น้ำนานๆก็ยังงอกค่ะ หากบริเวณวัดน้ำไม่ท่วมโซนไหนที่มีแดดหรือป่าที่ไม่ทึบให้ญาติโยมช่วยปลูกต้นตะขบไว้ค่ะ หากได้เมล็ดผักหวานมาแนะนำให้ท่านเพาะเป็นต้นกล้าไว้ปลูกนะคะ หาญาติโยมที่มีใจรักต้นไม้(ผักหวาน)มาช่วยทำค่ะค่อยๆซึมซับไปเรื่อยๆ1-2ปีผักหวานจะให้คำตอบค่ะ....

...กราบนมัสการค่ะ

สวัสดดีค่ะะคุณน้อย ปริมแวะมาสวัสดีปีใหม่ค่ะ แล้วจะมาคุยเรื่องสวนอีกทีนะคะ มีความสุขมากๆ ในช่วงเทศกาลนี้ค่ะ

:)

ยินดีด้วยอย่างแรงเลยนะคะคุณน้อย

ที่ฝนมาให้ชุ่มฉ่ำใจ ชุ่มฉ่ำต้นหมากรากไม้...ดินร้าวยาวนานถึงสามชั่วโมง

ชุดชมสวน (3)

ต้องกลับมาติดตามอีกหลายเที่ยวเลยค่ะ

คิดถึงหัวกลอยของแม่ในสวนจัง

ขอบคุณด้วยความชื่นชมยินดีอนุโมทนายิ่งๆเลยนะคะ สาธุ

 

 

 สวัสดีค่ะพี่ริ้วดอกหญ้า ริมผาภู ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมเยือนทักทายกันค่ะ.

...สงกรานต์คงสุข-สนุกนะคะที่บ้านเกิด.

...คุณยายสบายดีนะคะ สุขภาพคงแข็งแรงมีลูกหลานอยู่ใกล้ๆ.

...ช่วงนี้ได้เข้ามาบ้านGTKเพียงแว็บๆยังไม่มีโอกาสไปเยี่ยมเยือนหลายๆบ้านเลยค่ะ ได้ยินว่ากลับมา(ยืนที่เดิม) ณ เมืองหลวง คงไม่มีปัญหาเรื่องเข้าเว็บฯแล้วนะคะ.(ยังไม่สุดในหัวใจตราบใด ตราบนั้นก็ต้องกลับมาค้นหาต่อ..ไป...สู้ๆๆนะคะ)

 ขอบพระคุณสำหรับดอกไม้กำลังใจจากทุกๆท่านค่ะ...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท