ปัจจุบันนี้อุบัติเหตุทางรถยนต์ เนื้องอกที่หลอดเลือด หรือที่กระดูกสันหลัง ก็เริ่มเกิดขึ้นมากในประเทศไทยซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสาเหตุสำคัญที่อาจจะก่อให้เกิดโรค Paraplegia ทำให้ผู้ที่เป็นโรคนี้ไม่สามารถทำกิจกรรมดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มที่ คุณภาพชีวิตจึงต่ำลง
Paraplegia
องค์การอนามัยโลกกล่าวว่า Spinal cord injury หมายถึง
การบาดเจ็บไขสันหลัง รวมถึงรากประสาทท่อยู่ในโพรงของกระดูกสันหลัง
เมื่อพูดถึงอาการของโรค Spinal cord injury
แล้วนั้นก็จะสามารถแยกได้เป็นอีก 2 ประเภทคือ Quadriplegia
(Tetraplegia) คือเกิดพยาธิสภาพตั้งแต่กระดูกสันหลังระดับคอ กับ
Paraplegia คือเกิดพยาธิสภาพตั้งแต่กระดูกสันหลังระดับอกชิ้นที่ 2
ลงมา
อาการนี้จะมีทั้งแบบสมบูรณ์คือการสูญเสียหน้าที่ทั้งหมดที่ระดับต่ำกว่าพยาธิสภาพ(Complete
cord injury)
กับแบบไม่สมบูรณ์คือมีบางส่วนของระบบประสาทที่ยังทำหน้าที่อยู่(Incomplete
spinal cord injury)
อาการ
- ความผิดปกติของการควบคุมการเคลื่อนไหว (Motor deficits)
- การสูญเสียการรับความรู้สึก (sensory loss)
- ความผิดปกติของระบบประสาทอัตโนมัติ (Autonomic disturbance)
ภาวะแทรกซ้อน
- แผลกดทับ (pressure sore)
- ภาวะความดันโลหิตต่ำอย่างรวดเร็ว (Postural
Hypotension)
- การหดรั้งผิดปกติของกล้ามเนื้อ เอ็นและเนื้อเยื่อรอบๆ
ข้อต่อ ทำให้ช่วงการเคลื่อนไหวข้อต่อลดลง
- ภาวะซึมเศร้า
การรักษาทางกิจกรรมบำบัด
- วิเคราะห์ปัจจัยการใช้ชีวิตของผู้รับบริการโดยใช้กรอบอ้างอิง PEOP
อันประกอบด้วย บุคคล , สิ่งแวดล้อม , กิจวัตรประจำวัน
,และความสามารถในการดำเนินชีวิต
- ประเมินเกี่ยวกับกิจกรรมการดูแลตนเองในชีวิตประจำวัน
จากนั้นทดสอบประสิทธิภาพของส่วนต่างๆของร่างกายที่มีผลต่อการทำกิจกรรมการดูแลตนเองในชีวิตประจำวัน
เช่น กำลังของกล้ามเนื้อ ระยะการเคลื่อนไหว ความตึงตัวของกล้ามเนื้อ
การรับความรู้สึก เป็นต้น
-
ประเมินและให้คำแนะนำในการดัดแปลงสภาพบ้านและสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสมกับผู้รับบริการแต่ละราย
รวมถึงทักษะ และความสามารถในการประกอบอาชีพของผู้รับบริการ
- ฝึกสอนผู้ป่วยทำกิจวัตรประจำวันตามระดับความสามารถของผู้รับบริการ
เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถช่วยเหลือตนเองได้มากที่สุด
และอาจมีการเพิ่มกำลังกล้ามเนื้อ เพิ่มระยะการเคลื่อนไหว เป็นต้น
ตามลำดับ
- ให้การรักษาผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับมือ เช่น
รูปแบบการทำงานของมือ ความคล่องแคล่วในการใช้มือ
การทำงานอย่างประสานกันระหว่างมือทั้งสองข้าง
-
ดัดแปลงอุปกรณ์ช่วยและอุปกรณ์เสริมในการทำกิจวัตรประจำวันให้กับผู้ป่วย
-
ให้คำแนะนำหรือให้กิจกรรมเพื่อคงไว้ซึ่งสภาวะที่ดีของผู้ป่วย
การจัดท่า, และป้องกันแผลกดทับ
- ดูแลสภาพจิตใจของผู้ป่วย
- ให้คำปรึกษาและแนะนำญาติของผู้ป่วยเกี่ยวกับการยอมรับในตัวผู้ป่วย
และวิธีในการช่วยดูแลผู้ป่วยภายหลังจากที่ผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาล